การเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวในประเทศไทยมีราคาแตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยหลักดังนี้
เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายตามประเภทผู้สอนและสถาบัน
- สถาบันภาษา Premium (เช่น Wall Street English, Berlitz): ค่าเรียนเริ่มต้นประมาณ 800 – 1,500 บาท/ชั่วโมง หรือมากกว่า เน้นหลักสูตรมาตรฐานสากลและอาจารย์เจ้าของภาษา (Native Speaker) มีชื่อเสียงและระบบการเรียนครบวงจร แต่ค่าบริการสูงสุด
- สถาบัน/แพลตฟอร์มออนไลน์ในไทย (เช่น EGG English, 51Talk Thailand): ค่าเรียนมักอยู่ในช่วง 300 – 600 บาท/ชั่วโมง โดดเด่นด้านความสะดวก เรียนออนไลน์ได้ทุกที่ โดยเฉพาะ 51Talk Thailand มักมีแพ็กเกจราคาประหยัดเมื่อซื้อคอร์สหลายชั่วโมงรวมถึงโปรโมชั่นแนะนำเพื่อนบ่อยครั้ง
- ครูสอนส่วนตัวอิสระ (Freelance): ค่าเรียนประมาณ 200 – 800 บาท/ชั่วโมง ขึ้นกับคุณวุฒิและประสบการณ์ของผู้สอน อาจพบได้ผ่านเว็บไซต์หาครูสอนหรือแอป Fiverr
ปัจจัยกระทบราคา
- คุณสมบัติผู้สอน: อาจารย์ Native Speaker หรือผู้มีวุฒิปริญญาโท/เอกด้านการสอนภาษา มักมีราคาสูงกว่าผู้สอนชาวฟิลิปปินส์หรือไทย
- รูปแบบการเรียน: เรียนสดแบบตัวต่อตัว (Face-to-Face) โดยทั่วไปมีราคาสูงกว่าเรียนออนไลน์ ความยาวคอร์ส/แพ็กเกจ: การซื้อชั่วโมงเรียนเป็นจำนวนมาก (เช่น 50 ชั่วโมงขึ้นไป) มักได้ราคาต่อชั่วโมงที่ถูกลงอย่างชัดเจน
วิธีเรียนตัวต่อตัวให้ประหยัดสุด
เลือกอย่างชาญฉลาดช่วยลดต้นทุนได้

- เน้นออนไลน์: แพลตฟอร์มอย่าง 51Talk Thailand หรือ EGG English เสนอราคาที่แข่งขันได้เพราะลดค่าใช้จ่ายสถานที่
- ซื้อแพ็กเกจใหญ่: แม้จ่ายล่วงหน้าตอนแรก แต่ราคาต่อชั่วโมงถูกกว่า หากมั่นใจในคุณภาพผู้สอนและความต่อเนื่อง
- ใช้โปรโมชัน: ติดตามส่วนลดช่วงเทศกาล ส่วนลดนักเรียนใหม่ หรือแพ็กเกจแนะนำเพื่อนจากสถาบันต่างๆ
- เลือกผู้สอน Non-Native คุณภาพดี: ผู้สอนชาวฟิลิปปินส์ (โดยเฉพาะบน 51Talk Thailand) หรือผู้สอนชาวไทยระดับสูง มักมีราคายุติธรรมกว่าแต่ทักษะการสอนดีเยี่ยม
- กำหนดเป้าหมายและบทเรียนให้ชัด: เลือกคอร์สที่ตรงความต้องการ (เช่น เน้นพูดธุรกิจ, สอบ IELTS) ป้องกันการเรียนเกินจำเป็น
การลงทุนเรียนตัวต่อตัวให้คุ้มค่าคือการหาจุดสมดุลระหว่างงบประมาณ เป้าหมาย และผู้สอนที่เหมาะสม การเปรียบเทียบข้อมูลและใช้ประโยชน์จากแพ็กเกจส่วนลดของแพลตฟอร์มออนไลน์น่าจะเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้คุณประหยัดได้มากที่สุดในระยะยาว
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ





0 Comments