การเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ไม่มีพื้นฐานควรเริ่มตรงไหน พร้อมวิธีเริ่มต้นง่ายๆ 5 ขั้นตอน
การเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ไม่มีพื้นฐานควรเริ่มตรงไหน พร้อมวิธีเริ่มต้นง่ายๆ 5 ขั้นตอน
Share:

เรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ไม่มีพื้นฐาน เริ่มยังไงดี?

การเริ่มเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษจากศูนย์อาจดูน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้วมีขั้นตอนง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณวางรากฐานได้อย่างมั่นคง เริ่มได้ดังนี้:

1. เริ่มจากชิ้นส่วนที่เล็กที่สุด: คำนามและคำกริยาพื้นฐาน
  • คำนาม (Nouns): ฝึกแยกแยะว่าอะไรคือคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ (เช่น boy, cat, book, school) รู้จักการใช้งาน article a/an/the แบบง่ายๆ ก่อน เช่น “a book”, “an apple”, “the sun”.
  • คำกริยา (Verbs): เรียนรู้คำกริยาพื้นฐานในรูปปัจจุบันง่าย (Present Simple) ที่ใช้บ่อย เช่น be (is, am, are), have, go, eat, like, see. เน้นการใช้ในประโยคสั้นๆ บอกเล่า เช่น “I am happy.”, “She likes dogs.”, “They go to school.”
2. จับคู่คำนาม+กริยาให้ถูกต้อง: ประโยคง่ายๆ และการใช้ Pronoun
  • สรรพนาม (Pronouns): I, You, He, She, It, We, They สำคัญมาก! ฝึกผูกกับกริยา เช่น I am, He/She/It is, You/We/They are. และสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรม เช่น me, him, her, them.
  • สร้างประโยคสั้นๆ (SVO): โครงสร้าง Subject + Verb + Object พื้นฐานสุด เช่น “I eat rice.”, “She reads a book.”, “We love 51Talk Thailand.”
3. เข้าใจโครงสร้าง Present Simple และ Past Simple
  • ปัจจุบันง่าย (Present Simple): ใช้บอกความจริงหรือนิสัย รูปกริยาไม่เติม s/es เมื่อประธานเป็นพหูพจน์หรือ I/You/We/They และเติม s/es เมื่อประธานเอกพจน์ He/She/It (ยกเว้น be, have). เช่น “They live here.”, “She lives here.”
  • อดีตง่าย (Past Simple): ใช้พูดถึงสิ่งที่เกิดและจบในอดีต ฝึกใช้กริยาช่อง 2 (Verb 2) ทั้งกริยาช่วย (Regular Verbs เติม -ed) และกริยามไม่ปกติ (Irregular Verbs) เช่น “I worked yesterday.”, “She saw a movie.”
4. รู้จักคำวิเศษณ์บอกเวลาและกริยาช่วยพื้นฐาน
  • คำวิเศษณ์บอกเวลา (Adverbs of Time): เช่น now, today, yesterday, tomorrow, always, usually, often, sometimes, never ช่วยระบุเวลาให้ประโยคชัดเจน เช่น “I eat breakfast every day.”, “He went home yesterday.”
  • กริยาช่วยพื้นฐาน (Modal Verbs): can, could, will, would, should, must, may, might ใช้แสดงความสามารถ ความเป็นไปได้ ความจำเป็น ให้ใส่หลังประธานแล้วตามด้วยกริยาช่อง 1 ไม่ต้องเติม s (ยกเว้นประธานเอกพจน์) เช่น “I can speak English.”, “You should study.” สำหรับการเรียนที่มีประสิทธิภาพ 51Talk Thailand สามารถช่วยเพิ่มพูนความมั่นใจในการใช้ได้
5. ทำความเข้าใจประโยคคำถามและปฏิเสธ
  • คำถามแบบ Yes/No: ต้องใช้กริยาช่วย (Do/Does/Did หรือ Verb to be) วางหน้าประธาน เช่น “Do you like coffee?”, “Is she happy?”, “Did they go?”
  • คำถามแบบ Wh-: What, Where, When, Why, Who, How + กริยาช่วย + ประธาน…? เช่น “What is your name?”, “Where do you live?”, “How did he go?”
  • ประโยคปฏิเสธ: ใส่ not หลังกริยาช่วยหรือ Verb to be เช่น “I do not (don’t) know.”, “She is not (isn’t) here.”, “They did not (didn’t) come.”

เคล็ดลับสำคัญ: เน้นที่การฝึกใช้จริงผ่านประโยคสั้นๆ ท่องจำน้อยลง ฝึกแต่งประโยคบ่อยๆ และค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อนตามขั้นตอน การมีคู่หูในการฝึกฝนหรือผู้สอนคอยชี้แนะเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่ง การหาทรัพยากรที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นโดยเฉพาะอย่างเช่นจาก 51Talk Thailand ช่วยให้เข้าใจง่ายและถูกต้องตั้งแต่วันแรก ทำให้การเดินทางสู่คลังความรู้แบบวีไอพีของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ประสบการณ์การเรียนรู้ออนไลน์แบบส่วนตัวกับโค้ชมืออาชีพช่วยเร่งพัฒนาการได้อย่างน่าอัศจรรย์

การเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ไม่มีพื้นฐานควรเริ่มตรงไหน พร้อมวิธีเริ่มต้นง่ายๆ 5 ขั้นตอน

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน