สวัสดีครับทุกคน วันนี้มาแชร์ประสบการณ์ตรงจากการลองคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กครับ ช่วงนี้เห็นลูกเริ่มสนใจภาษาอังกฤษมากขึ้น เลยลองหาคอร์สเรียนให้ลูกดู ก็เลยอยากจะมาเล่าให้ฟังว่าไปเจออะไรมาบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับพ่อแม่ท่านอื่น ๆ ที่กำลังหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษให้ลูกเหมือนกัน

เริ่มต้นเลยคือ ผมเริ่มจากการค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตก่อนเลยครับ พิมพ์คำว่า “คอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก” ใน Google นี่แหละครับ ก็เจอเยอะแยะมากมายเลย ทั้งคอร์สเรียนออนไลน์ คอร์สเรียนสด มีทั้งแบบเรียนตัวต่อตัว แบบเรียนเป็นกลุ่ม เลือกไม่ถูกเลยครับ

พอเจอเยอะขนาดนี้ ก็เลยต้องเริ่มกรองครับ สิ่งแรกที่ผมดูก็คือ ช่วงอายุของลูกครับ ลูกผมอายุ 5 ขวบ ก็ต้องหาคอร์สที่เหมาะกับเด็กวัยนี้ เน้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมสนุก ๆ มากกว่าการท่องจำไวยากรณ์

ต่อมาก็ดูเรื่องราคาครับ คอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กนี่ราคาหลากหลายมาก เริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ผมก็ตั้งงบประมาณไว้ในใจก่อนเลย ว่าจะจ่ายได้ประมาณเท่าไหร่

หลังจากนั้นก็อ่านรีวิวครับ อ่านรีวิวจากผู้ปกครองท่านอื่น ๆ ที่เคยส่งลูกไปเรียนคอร์สต่าง ๆ ดูว่าคอร์สไหนได้รับความนิยม มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง

พอได้รายชื่อคอร์สที่สนใจมาประมาณ 3-4 คอร์สแล้ว ก็ลองติดต่อไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมครับ ถามเรื่องตารางเรียน ถามเรื่องเนื้อหาที่สอน ถามเรื่องคุณสมบัติของครูผู้สอน ถามทุกอย่างที่เราอยากรู้เลยครับ

หลังจากสอบถามข้อมูลครบถ้วนแล้ว ก็ตัดสินใจเลือกคอร์สที่คิดว่าเหมาะกับลูกมากที่สุดครับ ผมเลือกคอร์สเรียนออนไลน์ เพราะสะดวกดี ลูกสามารถเรียนที่บ้านได้ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

พอได้คอร์สเรียนแล้ว ก็เริ่มเรียนเลยครับ ช่วงแรก ๆ ลูกก็ตื่นเต้นกับการเรียนภาษาอังกฤษมาก เรียนไปเล่นไป สนุกสนานเฮฮา แต่พอเรียนไปได้สักพัก ก็เริ่มเบื่อบ้างเหมือนกัน

ผมก็เลยพยายามหากิจกรรมอื่น ๆ มาเสริมครับ เช่น ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ ฟังเพลงภาษาอังกฤษ อ่านนิทานภาษาอังกฤษ เล่นเกมภาษาอังกฤษ พยายามให้ลูกได้สัมผัสภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันให้มากที่สุด

ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ลูกเริ่มคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้นครับ สามารถพูดคำศัพท์ง่าย ๆ ได้ ร้องเพลงภาษาอังกฤษได้ เล่าเรื่องจากการ์ตูนภาษาอังกฤษได้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่เก่งมาก แต่ก็ถือว่าพัฒนาไปในทางที่ดีครับ

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการส่งลูกเรียนภาษาอังกฤษครั้งนี้ก็คือ

• การเลือกคอร์สเรียนที่เหมาะสมกับวัยเป็นสิ่งสำคัญมาก
• การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนานจะช่วยให้ลูกไม่เบื่อ
• การเสริมกิจกรรมอื่น ๆ จะช่วยให้ลูกได้สัมผัสภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากขึ้น

หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับพ่อแม่ท่านอื่น ๆ นะครับ ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะครับ

ข้อดีของการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก:

• ช่วยพัฒนาทักษะทางภาษา
• ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ
• ช่วยเปิดโลกทัศน์
• ช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียนในอนาคต

ข้อควรระวัง:

• อย่ากดดันลูกมากเกินไป
• อย่าเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น
• ให้กำลังใจลูกเสมอ

สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่า การเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว สิ่งสำคัญที่สุดคือ การหาแนวทางที่เหมาะสมกับลูกของเรา และสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนานครับ

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ