สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวของผมในการฝึกคำศัพท์ภาษาอังกฤษหมวดตัวเลขครับ คือบอกตามตรงนะ ตอนแรกผมก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องตัวเลขเท่าไหร่ คิดว่ามันก็แค่หนึ่ง สอง สาม สี่ ง่ายๆ ใครๆ ก็รู้ แต่พอเอาเข้าจริง โอ้โห มันมีอะไรให้เรียนรู้เยอะกว่าที่คิดเยอะเลยครับ
จุดเริ่มต้นของการฝึกฝน
เรื่องมันเริ่มมาจากที่ผมต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานมากขึ้น แล้วก็มีอยู่บ่อยครั้งที่ต้องพูดถึงตัวเลข ไม่ว่าจะเป็นการบอกจำนวน บอกราคา บอกเบอร์โทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งบอกวันที่ แรกๆ ก็อาศัยจำเอาแบบกระท่อนกระแท่น สื่อสารกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง จนกระทั่งมีวันนึงผมไปซื้อของ แล้วต้องบอกจำนวนเป็นภาษาอังกฤษ ปรากฏว่าผมดันพูดผิดพูดถูกจนคนขายทำหน้างงไปเลย ตอนนั้นแหละครับที่รู้สึกว่า ไม่ได้การละ ต้องจริงจังกับเรื่องตัวเลขซะที

ลงมือปฏิบัติ: จากศูนย์ถึงหลักล้าน
ผมเริ่มต้นจากพื้นฐานสุดๆ เลยครับ คือการท่องจำตัวเลข 0 ถึง 10 ให้ขึ้นใจก่อน ผมใช้วิธีแบบบ้านๆ เลย คือเขียนใส่กระดาษโน้ตเล็กๆ แล้วก็พกติดตัวไว้ ว่างเมื่อไหร่ก็หยิบขึ้นมาดู มาท่อง ผมทำแบบนี้อยู่ประมาณอาทิตย์นึงครับ จนมั่นใจว่าคล่องแล้ว
พอได้ 0-10 แล้ว สเต็ปต่อไปคือเลข 11 ถึง 19 พวกนี้จะมีความพิเศษหน่อยตรงที่ลงท้ายด้วย “-teen” เช่น thirteen, fourteen ซึ่งตอนแรกๆ ผมก็มีสับสนกับการออกเสียงอยู่บ้าง โดยเฉพาะ thirteen กับ thirty นี่ตัวดีเลยครับ ออกเสียงเพี้ยนบ่อยมาก
จากนั้นก็มาต่อที่เลขหลักสิบครับ เช่น 20 (twenty), 30 (thirty), 40 (forty) ไปจนถึง 90 (ninety) อันนี้ผมใช้วิธีเชื่อมโยงกับเลขหลักหน่วยที่จำได้แล้ว เช่น two ก็เป็น twenty, three ก็เป็น thirty มันช่วยให้จำได้ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
พอจำเลขหลักหน่วยกับหลักสิบได้แล้ว การผสมเลขก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วครับ เช่น 21 ก็คือ twenty-one, 58 ก็คือ fifty-eight ช่วงนี้ผมเริ่มสนุกกับการผสมตัวเลขแล้วครับ ผมจะลองนึกเลขขึ้นมาในหัวแล้วก็พยายามพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
ขั้นต่อไปที่ท้าทายขึ้นมาอีกนิดคือหลักร้อย (hundred) หลักพัน (thousand) และหลักที่ใหญ่ขึ้นไปอีก ตอนเรียนหลักร้อย ผมต้องจำให้ได้ว่าต้องมีคำว่า “and” คั่นระหว่างหลักร้อยกับหลักสิบหรือหลักหน่วย (ในแบบ British English นะครับ ถ้า American English บางทีเขาก็ไม่ใส่ “and”) เช่น 101 ก็คือ one hundred and one ตอนแรกๆ ก็มีลืมเติม “and” บ้าง แต่พอฝึกบ่อยๆ ก็ชินไปเองครับ
สำหรับหลักพัน หลักหมื่น หลักแสน หลักล้าน อันนี้ผมอาศัยการดูคลิปสอนจาก YouTube ประกอบด้วยครับ มันช่วยให้เห็นภาพและเข้าใจโครงสร้างของตัวเลขใหญ่ๆ ได้ดีขึ้น ผมจะจดโน้ตไว้เลยว่า
- 1,000 คือ one thousand
- 10,000 คือ ten thousand
- 100,000 คือ one hundred thousand
- 1,000,000 คือ one million
ผมจะพยายามหาตัวเลขจากสิ่งรอบตัวมาฝึกพูดเป็นภาษาอังกฤษครับ เช่น ป้ายทะเบียนรถ ราคาของในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือแม้กระทั่งยอดผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย มันช่วยให้การฝึกฝนไม่น่าเบื่อดีครับ

อุปสรรคและวิธีแก้ไข
แน่นอนครับว่าระหว่างทางมันก็มีอุปสรรคบ้าง ที่ผมเจอบ่อยๆ เลยคือเรื่องการออกเสียง โดยเฉพาะตัวเลขที่มีเสียง “th” เช่น three, thirteen, thirty นี่ทำเอาลิ้นพันกันอยู่หลายรอบเลยครับ วิธีแก้ของผมคือ ฟังเจ้าของภาษาพูดบ่อยๆ แล้วก็พยายามออกเสียงตามให้ใกล้เคียงที่สุด อัดเสียงตัวเองแล้วฟังเทียบก็ช่วยได้เยอะครับ
อีกอย่างคือความสับสนระหว่างเลขที่ลงท้ายด้วย “-teen” กับ “-ty” อย่างที่บอกไปตอนต้น อันนี้ผมแก้ด้วยการท่องย้ำๆ แล้วก็พยายามใช้ในประโยคบ่อยๆ ให้มันคุ้นเคย แรกๆ ก็มีผิดบ้างถูกบ้าง แต่ก็ไม่ท้อครับ คิดซะว่ามันคือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
ผลลัพธ์ที่ได้ และคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ
หลังจากที่ผมใช้เวลาฝึกฝนมาพักใหญ่ ตอนนี้ผมรู้สึกมั่นใจในการใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษหมวดตัวเลขมากขึ้นเยอะเลยครับ แม้จะยังไม่ถึงกับเป๊ะเหมือนเจ้าของภาษา แต่ก็สามารถสื่อสารในชีวิตประจำวันและในการทำงานได้คล่องขึ้นมาก เวลาต้องพูดถึงตัวเลขก็ไม่ต้องมานั่งนึกนานเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ
สำหรับใครที่กำลังฝึกภาษาอังกฤษอยู่ โดยเฉพาะเรื่องตัวเลข ผมอยากจะบอกว่าอย่าท้อนะครับ เริ่มจากพื้นฐาน ค่อยๆ ฝึกฝนไปทีละขั้น หาเทคนิคการจำที่เหมาะกับตัวเอง แล้วก็พยายามนำไปใช้ในชีวิตประจำวันบ่อยๆ ที่สำคัญคือต้องมีความสม่ำเสมอครับ ทำทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยก็ได้ ดีกว่าไม่ทำเลย ผมเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจริง ยังไงก็ทำได้แน่นอนครับ สู้ๆ ครับ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments