สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย เรื่องสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้เจ้าตัวเล็กที่บ้าน วัยอนุบาลนี่แหละครับ ก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรนะครับ แต่อยากจะเล่าจากที่ลองผิดลองถูกมากับลูกตัวเองล้วนๆ
ตอนแรกก็คิดหนักนะว่าจะเริ่มยังไงดี กลัวลูกเบื่อ กลัวสอนผิดๆ ถูกๆ ไปซื้อหนังสือมาก็หลายเล่ม เปิดยูทูบดูคลิปสอนเด็กก็เยอะแยะไปหมด แต่สุดท้ายก็มาค้นพบว่า เอ้อ! มันต้องทำให้เป็นเรื่องเล่นๆ สนุกๆ เข้าไว้ เด็กถึงจะยอมเปิดใจรับ

เริ่มจากอะไรรอบตัวก่อนเลย
ผมเริ่มจากของใกล้ตัวที่ลูกเห็นทุกวันนี่แหละครับ ไม่ต้องไปหาอะไรยากๆ เลย
- หมวดสัตว์ (Animals): อันนี้เด็กๆ ชอบมาก ผมจะเริ่มจากสัตว์ที่เห็นบ่อยๆ หรือมีในหนังสือนิทาน เช่น หมา (dog) แมว (cat) นก (bird) ปลา (fish) เป็ด (duck) ไก่ (chicken) ช้าง (elephant) สิงโต (lion) อะไรแบบนี้ เวลาเจอก็ชี้แล้วพูดคำศัพท์นั้นๆ ย้ำๆ หน่อย ทำเสียงประกอบไปด้วยยิ่งดี เด็กจะจำแม่น
- สีสันต่างๆ (Colors): ของเล่นนี่แหละตัวช่วยดีเลย หยิบรถสีแดงมา ก็พูด “red car” บล็อกสีเหลือง ก็ “yellow block” ชี้เสื้อผ้าลูก “blue shirt” พยายามพูดบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน
- ตัวเลข (Numbers): ตอนแรกก็เริ่มจาก 1-5 ก่อนครับ “one, two, three, four, five” นับนิ้ว นับของเล่น นับขั้นบันได พอคล่องแล้วค่อยเพิ่มไปทีละนิด
- ของใช้ในบ้าน (Household items): ตอนกินข้าว ก็ชี้ “spoon” (ช้อน), “fork” (ส้อม), “plate” (จาน), “glass” (แก้วน้ำ) ตอนอาบน้ำก็ “soap” (สบู่), “towel” (ผ้าเช็ดตัว) มันจะทำให้เค้าเชื่อมโยงคำศัพท์กับของจริงได้
เทคนิคที่ผมใช้แล้วได้ผล (สำหรับบ้านผมนะ)
แต่ละบ้านก็อาจจะมีวิธีไม่เหมือนกันนะครับ แต่ที่ผมลองแล้วลูกโอเคก็มีประมาณนี้
1. ทำให้เป็นเกม: เช่น เล่นทายคำศัพท์ ผมจะหยิบของเล่นสัตว์ขึ้นมา แล้วถาม “What is this?” ให้ลูกตอบ หรือบางทีก็สลับกัน ให้ลูกถามผมบ้าง หรือเล่นซ่อนของ แล้วให้หา พอเจอก็บอกชื่อของนั้นเป็นภาษาอังกฤษ
2. ใช้เพลงช่วย: เพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กนี่มีประโยชน์มากครับ จังหวะสนุกๆ คำคล้องจอง มันช่วยให้จำศัพท์ได้แบบไม่รู้ตัวเลย เพลงพวก “Head, Shoulders, Knees and Toes” นี่ก็ได้ศัพท์เกี่ยวกับร่างกายเยอะเลย หรือเพลง ABC ก็พื้นฐานที่ต้องมี
3. หนังสือนิทานภาพ: เลือกเล่มที่มีภาพใหญ่ๆ สีสวยๆ คำศัพท์ไม่เยอะมาก ชี้ภาพแล้วก็อ่านคำนั้นให้ฟัง ชวนคุย ชวนดูภาพไปด้วย เด็กจะเพลิน
4. พูดซ้ำๆ ย้ำๆ แต่ไม่กดดัน: อันนี้สำคัญมากครับ เด็กวัยนี้สมาธิสั้น อย่าไปคาดหวังว่าบอกครั้งเดียวจะจำได้เลย ต้องพูดบ่อยๆ ในสถานการณ์ต่างๆ กัน แต่ถ้าเค้ายังไม่พูดตาม หรือยังจำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรครับ อย่าไปดุหรือบังคับ เดี๋ยวจะกลายเป็นต่อต้านไปซะเปล่าๆ
5. ชมเชยเมื่อทำได้: แค่ลูกพยายามจะพูด หรือพูดได้คำเดียวถูก ผมก็จะชมเลย “Good job!” “Wow!” “เก่งมาก!” กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละครับ ทำให้เค้าอยากเรียนรู้ต่อ

ผลลัพธ์ที่ค่อยๆ เห็น
ช่วงแรกๆ ก็เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ แต่ผมก็ทำไปเรื่อยๆ สม่ำเสมอทุกวัน วันละนิดวันละหน่อย ผ่านไปสักพัก เอ้อ! ลูกเริ่มชี้แล้วพูดคำศัพท์เองได้บ้างแล้ว เช่น เห็นหมาก็พูด “dog” หรืออยากได้น้ำก็พูด “water” อาจจะสำเนียงยังไม่เป๊ะ แต่แค่นี้คนเป็นพ่อก็ดีใจแล้วครับ
ตอนนี้เจ้าตัวเล็กที่บ้านก็เริ่มจำได้หลายคำแล้วนะ เวลาเห็นอะไรที่เคยสอนไปเค้าก็จะพยายามพูดออกมา บางทีก็พูดเป็นประโยคง่ายๆ สั้นๆ ได้บ้างแล้ว เช่น “Mommy, look! Cat.” เห็นแล้วก็ชื่นใจครับ เป้าหมายของผมไม่ใช่ให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษแบบเจ้าของภาษาอะไรขนาดนั้นนะครับ แค่อยากให้เค้าคุ้นเคยกับภาษา ไม่กลัวที่จะเรียนรู้ และมีคลังคำศัพท์ติดตัวไว้บ้างเพื่อเป็นพื้นฐานต่อไปในอนาคต
ก็เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่เอามาเล่าสู่กันฟังนะครับ อาจจะไม่ได้มีหลักการอะไรมากมาย แต่ก็มาจากที่ลองทำจริงๆ ใครมีวิธีเด็ดๆ ก็มาแชร์กันได้นะครับ เผื่อผมจะได้เอาไปปรับใช้กับเจ้าตัวเล็กที่บ้านบ้าง
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments