สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ เลยนะ เรื่องการหัดจำคำศัพท์สีเป็นภาษาอังกฤษเนี่ย ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอก ก็คิดว่าสีมันก็มีไม่กี่สีเอง คงไม่ยากเท่าไหร่ แต่พอเอาเข้าจริง โอ้โห มันมีมากกว่าที่คิดเยอะเลยแฮะ

จุดเริ่มต้นของผมมันมาจากตอนที่พยายามจะอธิบายสีของเสื้อตัวโปรดให้เพื่อนชาวต่างชาติฟัง ปรากฏว่านึกไม่ออก! รู้แค่สีพื้นๆ แบบ Red (แดง), Blue (น้ำเงิน), Green (เขียว) อะไรพวกนี้ พอเป็นสีแบบฟ้าอ่อนๆ เขียวเข้มๆ นี่ไปไม่เป็นเลย ตอนนั้นก็แอบอายเหมือนกันนะ เลยคิดว่าไม่ได้การละ ต้องจริงจังกับเรื่องสีซะหน่อย

ผมก็เริ่มจากการไปค้นหาลิสต์คำศัพท์สีในอินเทอร์เน็ตนี่แหละครับ พิมพ์ไปง่ายๆ เลยว่า “English colors vocabulary” มันก็ขึ้นมาพรึ่บ! ตอนแรกก็ตาลายเหมือนกันนะ เยอะจัด ผมเลยใช้วิธีค่อยๆ จำไปทีละชุด เริ่มจากสีหลักๆ ที่เจอบ่อยๆ ก่อน

ช่วงเริ่มต้นกับสีพื้นฐาน

ผมลิสต์สีพื้นฐานที่คิดว่าต้องรู้แน่ๆ ออกมาก่อนเลยครับ แล้วก็พยายามท่องจำมันทุกวัน อย่างเช่น:

• White – สีขาว
• Black – สีดำ
• Grey / Gray – สีเทา (อันนี้ตอนแรกก็งงว่าทำไมมีสองแบบ เพิ่งรู้ว่ามันแล้วแต่ว่าเป็น British หรือ American English)
• Red – สีแดง
• Blue – สีน้ำเงิน
• Yellow – สีเหลือง
• Green – สีเขียว
• Orange – สีส้ม
• Purple – สีม่วง
• Pink – สีชมพู
• Brown – สีน้ำตาล

ช่วงนี้ก็พยายามมองหาสิ่งของรอบตัวแล้วก็เรียกสีมันเป็นภาษาอังกฤษเอาดื้อๆ เลยครับ เห็นอะไรก็ชี้แล้วก็พูดออกมาดังๆ อาจจะดูตลกๆ หน่อย แต่ผมว่ามันช่วยให้จำได้ดีขึ้นนะ

เริ่มเจาะลึกเฉดสีต่างๆ

พอเริ่มคล่องกับสีพื้นฐานแล้ว ผมก็เริ่มมองหาสีที่มันเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ไอ้พวกคำว่า “อ่อน” “เข้ม” นี่แหละครับที่ต้องรู้เพิ่ม ผมก็ไปเจอคำว่า Light (อ่อน) กับ Dark (เข้ม) มา ก็เอามาผสมกับสีเดิมๆ ได้เลย เช่น:

• Light Blue – สีฟ้าอ่อน
• Dark Green – สีเขียวเข้ม
• Bright Red – สีแดงสด (อันนี้เจอเพิ่มมาทีหลัง คำว่า Bright คือ สดใส)

แล้วมันก็จะมีชื่อสีเฉพาะๆ อีกเยอะเลยครับที่ผมค่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อยเอา เช่น:

• Navy Blue – สีกรมท่า (อันนี้ใช้บ่อยเลย)
• Sky Blue – สีฟ้าคราม (แบบสีท้องฟ้า)
• Beige – สีเบจ, สีครีมอ่อนๆ
• Maroon – สีแดงเลือดหมู
• Turquoise – สีเขียวอมฟ้า หรือสีเทอร์ควอยซ์
• Gold – สีทอง
• Silver – สีเงิน
• Bronze – สีทองแดง
• Violet – สีม่วง (คล้ายๆ Purple แต่บางทีก็ใช้เรียกเฉดที่ต่างกันนิดหน่อย)
• Magenta – สีชมพูอมม่วง
• Cyan – สีฟ้าอมเขียว (แบบแม่สีในการพิมพ์)
• Olive – สีเขียวมะกอก
• Indigo – สีคราม

ผมใช้วิธีจดใส่สมุดเล็กๆ ครับ แล้วก็พกติดตัวไว้ ว่างๆ ก็หยิบขึ้นมาดู หรือบางทีก็ลองเอาไปใช้แต่งประโยคง่ายๆ ดู เช่น “My car is black.” หรือ “I like light blue shirts.” มันทำให้เราคุ้นเคยกับคำศัพท์มากขึ้น

เทคนิคส่วนตัวที่ใช้ช่วยจำ

นอกจากท่องจำแล้ว ผมก็มีเทคนิคส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ ที่เอามาปรับใช้นะครับ อย่างแรกเลยคือ ผมพยายามเชื่อมโยงสีกับสิ่งที่ผมเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น เห็นใบไม้ ก็จะนึกถึงคำว่า Green เห็นท้องฟ้า ก็ Blue หรือ Grey แล้วแต่วัน

อีกวิธีคือ ผมชอบดูพวกแคตตาล็อกสินค้าที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือเวลาไปซื้อเสื้อผ้า ก็จะพยายามอ่านป้ายที่เป็นภาษาอังกฤษดูว่าเขาใช้คำว่าอะไรเรียกสีนั้นๆ มันเป็นการเรียนรู้แบบเห็นภาพจริงไปด้วยเลย

แล้วก็เวลาดูหนังหรือซีรีส์ฝรั่ง ถ้าเปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ ผมก็จะคอยสังเกตว่าเขาบรรยายสีของสิ่งต่างๆ ว่ายังไงบ้าง บางทีก็ได้คำศัพท์ใหม่ๆ มาจากตรงนี้แหละครับ

สรุปแล้ว การเรียนรู้คำศัพท์สีภาษาอังกฤษของผมมันก็เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปครับ ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองพัฒนาขึ้นเยอะ จากที่เคยนึกคำไม่ออก ตอนนี้ก็พอจะสื่อสารเรื่องสีได้คล่องขึ้นเยอะเลย มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่พอทำได้แล้วมันก็ภูมิใจตัวเองเหมือนกันนะ ใครที่กำลังฝึกอยู่ก็สู้ๆ นะครับ ลองเอาวิธีของผมไปปรับใช้ดูก็ได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับผม!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ