ช่วงนี้ลูกผมก็เริ่มโตแล้วล่ะครับ อยากให้แกได้ภาษาอังกฤษติดตัวไปบ้าง เลยเริ่มๆ มองหาคอร์สเรียนออนไลน์ให้แกดู ที่บ้านก็คุยกันว่าอยากได้แบบที่มันสอนสนุกๆ หน่อย ไม่ใช่เน้นแต่แกรมม่าจนเด็กเบื่อ พอดีไปเจอ PalFish เข้า เห็นคนพูดถึงกันเยอะพอสมควรเลยนะในกลุ่มผู้ปกครอง ก็เลยเอาล่ะ ลองดูซักหน่อยว่าค่าเรียนค่าสอนมันเป็นยังไงกันแน่
ทีนี้พอลองเข้าไปดูในเว็บเค้าโดยตรงเลยนะ ตอนแรกก็คิดว่าจะง่ายๆ เหมือนซื้อของออนไลน์ทั่วไป มีราคาบอกชัดเจน แต่ปรากฏว่า…โห หาไม่เจอว่ะครับ! คือมันไม่ได้มีบอกโต้งๆ ว่าคอร์สนี้กี่บาท แพ็กเกจนั้นเท่าไหร่ ผมนี่งงเลย ต้องคลิกไปคลิกมาอยู่หลายรอบ ก็ยังไม่เห็นข้อมูลที่อยากรู้แบบชัดๆ ซักที ตอนนั้นแอบหงุดหงิดนิดหน่อยนะ คือเราอยากรู้ราคาเร็วๆ จะได้ตัดสินใจถูกไง
สุดท้ายก็เลยต้องใช้วิธีโบราณหน่อย คือลองติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่หรือแอดมินเค้าดูครับ ถึงจะได้เรื่องได้ราวขึ้นมาบ้าง เค้าก็จะอธิบายให้ฟังว่ามันมีแพ็กเกจแบบไหนบ้าง ราคาต่างกันยังไง ซึ่งเอาจริงๆ นะครับ ข้อมูลมันเยอะมาก คือมันไม่ได้มีแค่ราคาเดียวจบ มันมีตัวแปรเยอะไปหมด
เท่าที่ผมจับใจความได้นะ ค่าเรียน PalFish เนี่ยมันจะขึ้นอยู่กับหลายอย่างเลยครับ อย่างแรกเลยคือประเภทของคุณครู จะเอาครูเจ้าของภาษาแท้ๆ (Native Speaker) พวกอเมริกัน อังกฤษงี้ ราคาก็จะแรงหน่อย หรือถ้าเป็นครูฟิลิปปินส์ ราคาก็จะย่อมเยาลงมา อันนี้ก็ต้องเลือกตามงบประมาณและความคาดหวังของเรา แล้วก็ยังมีเรื่องจำนวนครั้งที่เรียนต่อสัปดาห์ เรียนบ่อยราคารวมก็สูงขึ้นเป็นธรรมดา แต่ราคาต่อครั้งอาจจะถูกลงถ้าซื้อเยอะๆ แล้วก็ระยะเวลาของคอร์สอีก บางทีมีโปรโมชั่นซื้อคอร์สยาวๆ แล้วได้ส่วนลด หรือได้ของแถมอะไรก็ว่าไป คือมันซับซ้อนพอตัวเลยล่ะครับ ไม่ใช่ว่าถามปุ๊บตอบปั๊บได้ราคาเดียว
ผมเคยมีประสบการณ์ไม่ค่อยดีกับเรื่องค่าบริการที่มันไม่เคลียร์แบบนี้แหละครับ ตอนนั้นไปสมัครฟิตเนสแถวบ้าน โอ้โห โปรโมชั่นนี่ล่อตาล่อใจมาก จ่ายรายปีถูกกว่ารายเดือนเยอะ แถมคลาสพิเศษนู่นนี่นั่น แต่ไอ้เงื่อนไขนี่สิครับ ตัวหนังสือเล็กเท่ามด แถมพนักงานขายก็พูดแต่ข้อดี ไอ้เราก็เชื่อใจ ไม่ได้อ่านละเอียด สรุปโดนหมกเม็ดค่าธรรมเนียมแฝงไปหลายอย่างเลยครับ ตอนจะยกเลิกก็ยุ่งยากอีกต่างหาก เข็ดเลยครับ! ตั้งแต่นั้นมานะ จะซื้อจะจ่ายอะไรที่มันเป็นสัญญาผูกพันนานๆ หรือราคาสูงๆ เนี่ย ผมจะจี้ถามทุกเม็ด ต้องเคลียร์ให้หมด ไม่งั้นไม่สบายใจ
พอมาเจอเคส PalFish ผมก็เลยเอาบทเรียนครั้งนั้นมาใช้เลยครับ ถามยับเลย! ครูเป็นใคร มาจากไหนจริงหรือเปล่า ถ้าลูกเรียนแล้วไม่โอเค เปลี่ยนครูได้ไหม ถ้าจ่ายเงินไปแล้วยกเลิกกลางคันได้เงินคืนหรือเปล่า เงื่อนไขเป็นยังไง คือถามจนเจ้าหน้าที่เค้าอาจจะแอบเบื่อผมไปแล้วก็ได้นะ ฮ่าๆ แต่ผมว่ามันจำเป็นอ่ะครับ เงินทองมันหายากเนอะ จะจ่ายอะไรก็ต้องให้คุ้มค่าที่สุด แล้วก็ต้องเอาข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบกับที่อื่นๆ ด้วยนะ ไม่ใช่ว่าเค้าบอกอะไรมาก็เชื่อหมด
สุดท้าย หลังจากที่ผมใช้เวลาศึกษาข้อมูลอยู่พักใหญ่ ทั้งถามเอง ทั้งแอบไปส่องตามกลุ่มต่างๆ ที่เค้าคุยกัน ผมก็พอจะเห็นภาพรวมของค่าเรียน PalFish มากขึ้นครับ มันไม่ได้มีราคาตายตัวจริงๆ นั่นแหละ มันยืดหยุ่นตามที่เราเลือกเลย ดังนั้น คำแนะนำจากประสบการณ์ตรงของผมเลยนะ ถ้าใครสนใจ PalFish เนี่ย อย่างแรกเลยคือต้องเตรียมใจว่าข้อมูลค่าเรียนมันอาจจะไม่ได้หาเจอง่ายๆ ในคลิกเดียว อาจจะต้องออกแรงสอบถามหน่อย
แล้วก็เวลาคุยกับเจ้าหน้าที่เค้า ให้ถามให้เคลียร์ทุกประเด็นที่เราสงสัย อย่าเกรงใจครับ สงสัยอะไรถามไปเลย จดไว้ด้วยก็ดีกันลืม ลองให้เค้าเสนอแพ็กเกจมาหลายๆ แบบ แล้วเอามานั่งเทียบกันดูว่าอันไหนมันตรงกับความต้องการและงบประมาณของเรามากที่สุด อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจเพราะเห็นโปรโมชั่นมันถูกอย่างเดียว ต้องดูรายละเอียดข้างในด้วยว่าได้อะไรบ้าง คุ้มจริงหรือเปล่า
แล้วก็อย่าลืมเอาไปเทียบกับเจ้าอื่นๆ ด้วยนะครับ เดี๋ยวนี้คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์มันมีเยอะมาก ลองดูซักสองสามเจ้าเป็นตัวเลือก จะได้รู้ว่าราคาของ PalFish มันสมเหตุสมผลมั้ย เมื่อเทียบกับคุณภาพและบริการที่เค้าให้ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูลกันหน่อยครับ ถึงจะเจอที่มันใช่สำหรับลูกเราจริงๆ แล้วก็สบายใจเราด้วยที่ไม่ต้องมานั่งกังวลทีหลังครับ
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments