สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยกับเรื่องที่หลายคนสงสัยกันในพันทิปว่า “palfish ดีไหม” คือผมเองก็เคยลองเข้าไปคลุกคลีอยู่พักนึง เลยอยากจะมาเล่าสู่กันฟังแบบบ้านๆ นะครับ เผื่อใครกำลังตัดสินใจอยู่จะได้มีข้อมูลอีกมุมนึง

จุดเริ่มต้นของผมกับ PalFish

เรื่องของเรื่องคือช่วงนั้นผมว่างงานครับ กำลังมองหาอะไรทำแก้เซ็ง แล้วก็อยากได้รายได้เสริมด้วย ก็ไถๆ เน็ตไปเรื่อย จนไปเจอ PalFish นี่แหละ เห็นโฆษณาว่าสอนภาษาอังกฤษให้เด็กจีนออนไลน์ ทำจากที่บ้านได้ เอ้อ! ฟังดูน่าสนใจดีนี่หว่า ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องเปลืองค่ารถ แถมได้ใช้ภาษาด้วย เลยตัดสินใจลองสมัครดูเลยครับ

ขั้นตอนการสมัครเอาจริงๆ ก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไรมากมายนะ ตอนนั้นผมก็เตรียมเอกสารตามที่เค้าขอ มีพวกสำเนาบัตรประชาชน วุฒิการศึกษา (ถ้ามี) แล้วก็ที่สำคัญคือต้องอัดคลิปวิดีโอแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆ ส่งไปด้วย ตอนอัดคลิปนี่ก็เขินๆ หน่อย แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด คิดซะว่าเป็นการฝึกพูดไปในตัว

พอได้ลองทำจริงๆ… มันเป็นยังไงล่ะ?

หลังจากส่งใบสมัครไป ไม่นานก็มีอีเมลตอบกลับมาว่าผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นแล้ว ดีใจสิครับ! จากนั้นก็จะมีให้เข้าไปอบรมออนไลน์นิดหน่อย เรียนรู้การใช้แพลตฟอร์มของเค้า กฎกติกาต่างๆ ตอนแรกก็มีงงๆ บ้างตามประสาคนใหม่ แต่ก็พยายามศึกษาไปเรื่อยๆ ครับ

ทีนี้มาถึงประเด็นสำคัญที่หลายคนอยากรู้… เรื่องการหาคลาสเรียน บอกเลยว่าตรงนี้แหละที่วัดดวงกันพอสมควรเลย สำหรับผมนะ ช่วงแรกๆ นี่คลาสเงียบกริบเลยครับ รอแล้วรออีกกว่าจะมีนักเรียนจองเข้ามาซักคน สองคน ใจก็แป้วๆ เหมือนกันนะ กลัวจะไม่มีใครมาเรียนด้วย

ผมเห็นบางคนในกลุ่ม (เค้าจะมีกลุ่มครู PalFish อยู่) ก็ได้คลาสกันรัวๆ นะ อาจจะเพราะโปรไฟล์เค้าดี หรือมีเทคนิคเรียกลูกค้าเก่ง อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ส่วนตัวผมเองก็ต้องพยายามโปรโมทตัวเองในแอปฯ อยู่เรื่อยๆ อัดคลิปสั้นๆ แนะนำคอร์สบ้าง ทำสื่อการสอนน่ารักๆ บ้าง ก็พอมีนักเรียนเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ได้เยอะแบบ โอ้โห! สอนไม่ทัน อะไรขนาดนั้น

ลักษณะเด็กๆ ที่มาเรียนก็น่ารักดีครับ ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กๆ เลย บางคนยังพูดไม่ค่อยชัดด้วยซ้ำ เราก็ต้องใช้พลังเยอะหน่อยในการดึงความสนใจเค้า เตรียมเกม เตรียมเพลง เตรียมตุ๊กตามือมาเล่นด้วยก็มี บางทีสอนเสร็จนี่เสียงแหบเสียงแห้งเลย แต่พอเห็นเค้าสนุก หัวเราะได้ เราก็มีความสุขนะ

ส่วนเรื่องแพลตฟอร์มการสอนของเค้าก็มีทั้งข้อดีข้อเสียนะ บางทีก็มีเอ๋อๆ บ้าง สัญญาณเน็ตเราดี แต่ฝั่งนู้นค้างก็มี หรือบางทีเสียงดีเลย์ ภาพกระตุก ก็ต้องแก้ปัญหากันไป แต่โดยรวมก็ถือว่าใช้งานได้ ไม่ได้แย่อะไรมากครับ

เรื่องค่าตอบแทน… อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่หลายคนกังวล คือถ้าเทียบกับการไปสอนตามสถาบัน หรือสอนพิเศษแบบตัวต่อตัวข้างนอก เรทของ PalFish อาจจะไม่ได้สูงมากนักนะครับ แต่ถ้ามองว่าเป็นรายได้เสริม ทำจากที่บ้านได้ ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง ก็ถือว่าโอเคในระดับนึงเลย แต่สำคัญคือ คุณต้องมีคลาสสม่ำเสมอ ไม่งั้นรายได้มันก็จะกระท่อนกระแท่นเอาเรื่อง

แล้วที่คนเค้าบ่นๆ กันในพันทิปล่ะ? จริงไหม?

ผมก็เห็นผ่านๆ ตามาบ้างนะ ที่มีคนตั้งกระทู้ในพันทิปบ่นเรื่อง PalFish ว่าโดนหักเงินไม่รู้สาเหตุบ้างล่ะ ซัพพอร์ตติดต่อยากบ้างล่ะ อันนี้บอกตามตรงว่า ส่วนตัวผมยังไม่เคยเจอปัญหาพวกนั้นจังๆ นะครับ อาจจะเพราะผมทำอยู่ไม่นานมาก หรืออาจจะโชคดีก็ได้ แต่ก็เคยได้ยินเพื่อนครูบางคนบ่นๆ ให้ฟังบ้างเหมือนกัน ก็คงแล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนจริงๆ

แต่ไอ้คำถามที่ว่า “ดีไหม” เนี่ย ผมว่ามันตอบยากมากเลยนะ มันไม่มีอะไรดีสำหรับทุกคน หรือแย่สำหรับทุกคนหรอกครับ มันขึ้นอยู่กับว่า คุณคาดหวังอะไรจากมัน และ คุณรับเงื่อนไขของมันได้แค่ไหน มากกว่า

จุดเปลี่ยน… และทำไมผมถึงเลิกทำ

ทำ PalFish ไปได้ประมาณครึ่งปี ผมก็เริ่มรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่คำตอบสำหรับผมเท่าไหร่ คือมันเหมือนเราต้องสแตนด์บายรอคลาสอยู่ตลอดเวลา จะไปทำธุระนานๆ ก็ไม่กล้า กลัวพลาดคลาสที่อาจจะเด้งเข้ามา แล้วรายได้มันก็ไม่แน่นอนจริงๆ บางเดือนได้เยอะหน่อยก็ดีใจ แต่บางเดือนคลาสน้อย รายได้ก็หดไปด้วย มันทำให้วางแผนการเงินยากเหมือนกันครับ

มีอยู่ช่วงนึงที่บ้านผมมีเรื่องต้องใช้เงินด่วนมากๆ เป็นเรื่องคอขาดบาดตายเลยก็ว่าได้ ตอนนั้นผมพยายามจะเร่งทำยอดใน PalFish หวังว่ามันจะช่วยได้บ้าง แต่ด้วยความที่คลาสมันไม่ได้มีเข้ามาตลอดอย่างที่บอก สุดท้ายรายได้จากตรงนั้นมันก็ไม่พอจริงๆ ครับ มันทำให้ผมคิดได้เลยว่า เฮ้ย! เราจะพึ่งพาอะไรที่ไม่แน่นอนแบบนี้เป็นหลักไม่ได้แล้วว่ะ ชีวิตมันต้องมีความมั่นคงมากกว่านี้

มันไม่ใช่ว่า PalFish ไม่ดีนะครับ ผมยังยืนยันคำเดิม แต่มันอาจจะเหมาะกับคนที่มีเวลาว่างเยอะจริงๆ หรือคนที่อยากทำเป็นงานอดิเรกเสริมรายได้เล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ซีเรียสกับมันมาก หรืออาจจะเป็นนักศึกษาที่อยากหารายได้พิเศษ อันนั้นก็อาจจะโอเค แต่สำหรับผมในตอนนั้น ที่ต้องการความมั่นคงในชีวิต ต้องการรายได้ที่แน่นอนเพื่อดูแลครอบครัว PalFish มันยังตอบโจทย์ตรงนั้นไม่ได้ครับ

สรุปจากประสบการณ์ตรงของผม

ถ้าให้ผมสรุปจากที่ได้ลองทำมานะครับ PalFish มันก็มีทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่อาจจะไม่ถูกใจเราซะทีเดียว

ข้อดีที่ผมเห็นก็คือ:

• ขั้นตอนการสมัครไม่ยุ่งยากซับซ้อนมาก ใครๆ ก็ลองได้
• ได้ทำงานจากที่บ้านจริงๆ ประหยัดเวลา ประหยัดค่าเดินทาง
• ได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
• ได้เจอเด็กๆ น่ารัก (อันนี้แล้วแต่ดวงว่าจะเจอแบบไหน ฮ่าๆ)

ส่วนข้อเสีย หรือสิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่โอเค (สำหรับผมนะ):

• การแข่งขันค่อนข้างสูง ต้องพยายามโปรโมทตัวเองเยอะ กว่าจะได้คลาส
• รายได้ไม่แน่นอน คาดการณ์ยาก ทำให้วางแผนการเงินลำบาก
• บางทีต้องใช้พลังงานสูงมากในการสอนเด็กเล็กๆ อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน
• ต้องสแตนด์บายรอคลาส อาจจะทำให้เสียเวลาส่วนตัวไปบ้าง

สุดท้ายนี้ ใครที่กำลังคิดจะลองทำ PalFish หรือกำลังหาข้อมูลในพันทิปอยู่ ผมก็อยากให้ลองเอาประสบการณ์ของผมไปพิจารณาดูนะครับ ลองชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย แล้วถามตัวเองดูว่าเราเหมาะกับงานแบบนี้ไหม เรารับเงื่อนไขต่างๆ ของเค้าได้หรือเปล่า ส่วนตัวผมเองตอนนี้ก็ไม่ได้ทำ PalFish แล้วครับ ไปหาทำอย่างอื่นที่มันมั่นคงกว่า แต่ก็ถือว่า PalFish เป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่งในชีวิต ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างเลยครับ

หวังว่าเรื่องที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ ลองเอาไปคิดดูครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ