เอ้อ สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยนะ เกี่ยวกับไอ้เจ้า PalFish ที่หลายคนถามกันมาเยอะว่ามันดีจริงไหม คุ้มค่าเหนื่อยหรือเปล่า ผมจะเล่าตั้งแต่เริ่มแรกที่ผมไปลองทำ จนถึงตอนที่เลิกทำเลยแล้วกัน แบบบ้านๆ ภาษาเราๆ นี่แหละ
จุดเริ่มต้นที่ลองไปสมัคร PalFish
คือช่วงนั้นผมก็มองหางานเสริมอยู่ อยากได้อะไรที่มันทำจากที่บ้านได้ แล้วก็พอดีไปเห็นคนพูดถึง PalFish ว่าเป็นแอปสอนภาษาอังกฤษให้เด็กจีน ก็เลยเอ้อ ลองดูซักตั้งวะ ไม่เสียหายอะไร ขั้นตอนการสมัครตอนนั้นก็ไม่ได้ซับซ้อนมากนะ จำได้ว่าต้องเตรียมเอกสารนิดหน่อย พวกใบรับรองการสอนภาษาอังกฤษ (ถ้ามีก็จะดี) แล้วก็ที่สำคัญเลยคือต้องอัดคลิปวิดีโอแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ส่งให้เขาพิจารณา ผมนี่ก็เขินกล้องอยู่เหมือนกันนะตอนนั้น แต่ก็พยายามทำเต็มที่ ยิ้มแย้ม พูดให้คล่องๆ หน่อย
หลังจากส่งใบสมัครกับคลิปไป ก็รอผลอยู่พักนึง ไม่นานเขาก็ติดต่อกลับมาเพื่อนัดสัมภาษณ์ออนไลน์ ก็เป็นการคุยกันทั่วไปนี่แหละครับ เขาจะดูทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของเรา ดูบุคลิก ความมั่นใจอะไรประมาณนั้น พอผ่านสัมภาษณ์ เขาก็จะมีการเทรนนิ่งเล็กน้อยเกี่ยวกับระบบการสอนของเขา แล้วก็เริ่มเปิดรับงานได้เลย
ประสบการณ์ตอนสอนจริง มันเป็นยังไงบ้าง
พอได้เริ่มสอนจริง บอกเลยว่าช่วงแรกๆ ก็มีตื่นเต้นบ้าง เก้ๆ กังๆ บ้าง เด็กนักเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กจีน อายุประมาณ 3 ขวบถึง 12 ขวบ เด็กๆ ก็น่ารักดีนะ มีความกระตือรือร้นอยากเรียน แต่แน่นอนว่ามันก็มีบ้างที่เจอเด็กซนๆ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ อันนี้ก็ต้องอาศัยทักษะการจัดการชั้นเรียนของเราเองล้วนๆ เลย
ระบบของ PalFish เนี่ย เขาก็จะมีบทเรียนสำเร็จรูปมาให้เลยนะ เราแค่เตรียมตัวทำความเข้าใจเนื้อหา แล้วก็สอนไปตามสไลด์ที่เขามีให้ มันก็สะดวกดีสำหรับคนที่ไม่ถนัดสร้างบทเรียนเอง แต่บางทีมันก็อาจจะดูซ้ำๆ เดิมๆ ไปหน่อย จุดที่ผมว่ามันท้าทายมากๆ เลยก็คือเรื่องเวลาครับ เพราะเราต้องสอนตามเวลาของประเทศจีน ซึ่งมันจะเช้าตรู่บ้านเรามากๆ หรือไม่ก็ดึกไปเลย บางวันนี่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ตีห้าเพื่อมาเตรียมสอนก็มี ใครที่ตื่นเช้าไม่ไหว หรือชอบนอนดึก อาจจะต้องคิดหนักหน่อย
แล้วก็ไม่ใช่ว่าเปิดแอปมาแล้วจะมีงานเข้ามาตลอดเวลานะครับ มันก็มีช่วงพีค ช่วงเงียบเหมือนกัน เราต้องคอยเปิดสล็อตเวลาที่เราว่างสอนไว้ แล้วก็ต้องพยายามโปรโมทตัวเองนิดหน่อย เพื่อให้ผู้ปกครองเขาสนใจเลือกเรา บางทีก็ต้องแย่งงานกับครูคนอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน มันก็มีการแข่งขันกันอยู่พอสมควรเลยล่ะ
ส่วนตัวผมว่า ข้อดี ของการทำงานนี้คือเราได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารจริงๆ ได้ฝึกฝนทักษะการสอน ได้เจอเด็กๆ ที่น่ารักจากต่างวัฒนธรรม มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่งนะ แต่ ข้อเสีย ที่ผมเจอหลักๆ ก็คือเรื่องความไม่แน่นอนของรายได้นี่แหละครับ เดือนไหนขยันเปิดสล็อตเยอะ นักเรียนจองเยอะก็ได้เยอะหน่อย เดือนไหนนักเรียนน้อย หรือเราไม่ค่อยว่าง รายได้มันก็ลดลงตามนั้นเลย แล้วก็เรื่องเวลานอนที่มันจะรวนๆ หน่อย
เรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นยังไง
เรื่องค่าตอบแทน ตอนที่ผมทำ เขาก็มีเรทที่ชัดเจนนะ จ่ายเป็นรายนาทีหรือรายคลาส แล้วแต่ประเภทของคลาสที่เราสอน พอครบเดือนเขาก็จะคำนวณยอดแล้วก็โอนเข้าบัญชีที่เราผูกไว้ ส่วนใหญ่ก็ตรงเวลานะครับ ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ก็ต้องทำใจว่ารายได้มันอาจจะไม่ได้สูงมากเหมือนงานประจำ ต้องขยันจริงๆ ถึงจะได้เยอะหน่อย
สรุปแล้ว PalFish ดีไหม ควรทำหรือเปล่า
มาถึงคำถามสำคัญว่าตกลงแล้วมันดีไหม? ผมว่ามันไม่มีคำตอบตายตัวนะ มันขึ้นอยู่กับว่าเราคาดหวังอะไรจากงานนี้มากกว่า ถ้าคุณกำลังมองหางานเสริมที่ทำจากที่บ้านได้ อยากได้ประสบการณ์สอนออนไลน์ อยากฝึกใช้ภาษาอังกฤษ หรือมีเวลาว่างช่วงเช้ามืดหรือดึกๆ PalFish ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน
แต่ถ้าคุณอยากจะยึดเป็นอาชีพหลักเพื่อสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ อันนี้ผมว่าอาจจะต้องคิดทบทวนดูดีๆ เพราะอย่างที่บอกไปว่ารายได้มันไม่ค่อยแน่นอนเท่าไหร่ แล้วก็ต้องแลกกับเวลาพักผ่อนส่วนตัวพอสมควรเลย สำหรับผมเอง ตอนนั้นที่ทำมันก็ตอบโจทย์ชีวิตช่วงหนึ่งนะ ได้เงินมาหมุนเวียนใช้จ่าย แต่พอผมมีโอกาสได้งานอื่นที่มันมั่นคงกว่า ผมก็ตัดสินใจออกมาครับ
สุดท้ายนี้ ใครที่กำลังสนใจอยากลองทำงาน PalFish ก็อยากให้ลองศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ลองถามตัวเองดูว่าไลฟ์สไตล์ของเราเหมาะกับงานแบบนี้ไหม เรายอมรับข้อจำกัดของมันได้หรือเปล่า ถ้าคิดว่าโอเค ก็ลองสมัครดูครับ ไม่เสียหายอะไร ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ติดตัวแน่นอน
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments