นิทานเด็กเลี้ยงแกะ โกหกหลายครั้ง สุดท้ายไม่มีใครช่วยเลยจริงๆ
นิทานเด็กเลี้ยงแกะ โกหกหลายครั้ง สุดท้ายไม่มีใครช่วยเลยจริงๆ
Share:

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์เรื่องที่คิดว่าหลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วล่ะ กับนิทานเรื่อง “เด็กเลี้ยงแกะ” แต่เชื่อไหมครับว่าเรื่องนี้มันไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือนิทานนะ ผมเองก็เจอมากับตัวเหมือนกัน แต่เป็นเวอร์ชั่นชีวิตจริงที่มันซับซ้อนกว่าเยอะ

ตอนเด็กๆ ฟังเรื่องนี้ก็แค่รู้สึกว่า เออ เด็กคนนี้ไม่ดีเลย โกหกทำไม แต่พอโตขึ้นมาทำงาน เจอผู้คนหลากหลายรูปแบบ ถึงได้เข้าใจเลยว่า “เด็กเลี้ยงแกะ” เนี่ยมันมีอยู่ทุกที่จริงๆ นะครับ ไม่ใช่แค่เด็กๆ หรอก ผู้ใหญ่บางคนนี่ตัวดีเลยล่ะ

นิทานเด็กเลี้ยงแกะ โกหกหลายครั้ง สุดท้ายไม่มีใครช่วยเลยจริงๆ

ประสบการณ์ตรงที่อยากเล่าให้ฟัง

มีอยู่ช่วงนึงครับ ผมเคยไปร่วมกลุ่มทำโปรเจกต์เล็กๆ กันกับเพื่อนๆ สมัยเรียนจบใหม่ๆ ไฟแรงกันทุกคน ตอนนั้นเราก็มีคนนึงในทีมที่แบบ… ชอบสร้างเรื่องเก่งมาก เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็จะพูดให้มันดูใหญ่โต โอเวอร์ไปหมด แรกๆ พวกเราก็เชื่อนะ ตื่นเต้นตามไปด้วย คิดว่ามันเป็นปัญหาใหญ่จริงๆ

  • ครั้งที่หนึ่ง: บอกว่าไฟล์งานสำคัญหายเกลี้ยง ต้องทำใหม่หมด สรุปคือไฟล์มันไปอยู่ในโฟลเดอร์อื่นเฉยๆ
  • ครั้งที่สอง: บอกว่าลูกค้าด่าแหลก โปรเจกต์จะล่มแล้ว ที่ไหนได้ ลูกค้าแค่ติเพื่อก่อเล็กน้อย
  • ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่: ก็มาแนวๆ นี้ตลอด คือสร้างความตื่นตระหนกเกินเหตุ

พวกเราก็เริ่มชินชาครับ หลังๆ พอเขาโวยวายอะไรขึ้นมา ทุกคนก็จะมองหน้ากันแล้วก็แบบ “อืมๆๆ เดี๋ยวค่อยดู” คือมันไม่มีใครอยากจะเสียเวลาไปตื่นเต้นกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกแล้ว ความน่าเชื่อถือมันลดลงไปเรื่อยๆ จนแทบไม่เหลือ

แล้วจุดพีคมันก็มาถึง

จนกระทั่งวันนึง มันเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริงๆ ครับ เป็นปัญหาที่ถ้าไม่รีบแก้ โปรเจกต์เราพังแน่ๆ คนนั้นเขาก็มาบอกพวกเราด้วยท่าทีร้อนรนเหมือนเคย แต่คราวนี้มันเป็นเรื่องจริง! แต่เชื่อไหมครับว่า… แทบไม่มีใครสนใจเลย ทุกคนคิดว่า “อีกแล้วเหรอ คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง” กว่าพวกเราจะรู้ตัวว่ามันเป็นเรื่องจริงจังก็เกือบจะสายเกินแก้ไปแล้ว ต้องมานั่งหัวหมุนแก้ปัญหากันแบบฉุกละหุกสุดๆ

ผลลัพธ์คืออะไร? โปรเจกต์นั้นรอดมาได้แบบหวุดหวิดครับ แต่ความสัมพันธ์ในทีมมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ความไว้ใจที่เสียไปมันเอากลับคืนมายากจริงๆ นะครับ คนนั้นเขาก็คงรู้สึกแย่แหละ แต่บทเรียนนี้มันสอนพวกเราทุกคนในทีมเลยว่าการสื่อสารที่ตรงไปตรงมาและน่าเชื่อถือมันสำคัญแค่ไหน

บทสรุปจากเด็กเลี้ยงแกะเวอร์ชั่นผมเอง

หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมก็เลยตระหนักได้ว่านิทานเด็กเลี้ยงแกะเนี่ยมันไม่ใช่แค่เรื่องเล่าสอนเด็กจริงๆ นะครับ มันคือสัจธรรมในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวเลยก็ว่าได้

สิ่งที่ผม “ฝึกฝน” และ “ปฏิบัติ” มาตลอดหลังจากนั้นคือ:

  • พูดความจริงเสมอ: ถึงแม้บางทีมันอาจจะไม่ถูกใจใคร หรือทำให้สถานการณ์ดูแย่ลงในตอนแรก แต่ในระยะยาวมันดีกว่าการโกหกหรือบิดเบือนแน่นอน
  • เช็คให้ชัวร์ก่อนพูด: โดยเฉพาะเรื่องสำคัญๆ อย่ารีบร้อนพูดออกไปถ้ายังไม่มั่นใจในข้อมูล เพราะถ้าพูดผิดไปแล้ว มันแก้ไขยาก
  • สร้างความน่าเชื่อถือ: อันนี้มันต้องใช้เวลาและการกระทำที่สม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่คำพูด มันคือการทำให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็นคนที่พึ่งพาได้จริงๆ

ทุกวันนี้ เวลาผมจะแชร์ข้อมูลอะไร หรือแจ้งปัญหาอะไรให้ใครทราบ ผมจะพยายามให้มันชัดเจน ตรงประเด็น และอยู่บนพื้นฐานของความจริงที่สุด มันอาจจะดูเป็นคนน่าเบื่อ ไม่ชอบสร้างสีสัน แต่ผมว่ามันทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลยครับ เวลาที่เราพูดอะไรแล้วคนอื่นพร้อมจะรับฟังและเชื่อใจเราเนี่ย มันเป็นอะไรที่มีค่ามากจริงๆ นะ

นิทานเด็กเลี้ยงแกะ โกหกหลายครั้ง สุดท้ายไม่มีใครช่วยเลยจริงๆ

ก็หวังว่าเรื่องที่ผมเอามาแชร์วันนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ ลองเอาไปปรับใช้กันดู ชีวิตจริงมันมี “เด็กเลี้ยงแกะ” เยอะกว่าที่เราคิด และเราก็เลือกได้ว่าจะไม่เป็นหนึ่งในนั้นครับ

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน
ช่องทางการติดต่อที่ต้องการ
คุณต้องการให้เราติดต่อคุณอย่างไร?