สวัสดีทุกคน วันนี้จะมาเล่าเรื่องที่ไปลองสมัครสอนในแอป PalFish Class ให้ฟังกัน คือเรื่องมันเริ่มมาจากช่วงนั้นว่างๆไง แล้วก็ไถมือถือไปเรื่อยเปื่อย เห็นคนพูดถึงแอปนี้ว่าสอนภาษาอังกฤษให้เด็กจีนได้เงินดี ไม่ต้องมีประสบการณ์เยอะแยะอะไรมากมาย เอ้อ! น่าสนใจว่ะ ก็เลยลองดู
ขั้นตอนแรกเลยนะ ฉันก็ไปโหลดแอป PalFish มาก่อนเลย หน้าตาแอปมันก็ดูโอเค ไม่ได้ใช้งานยากอะไร พอโหลดเสร็จก็สมัครสมาชิกตามเรื่องตามราว กรอกข้อมูลส่วนตัว อัปโหลดรูปโปรไฟล์ที่ดูเป็นมิตรหน่อย ไรงี้ จากนั้นมันก็จะมีให้เราทำโปรไฟล์สำหรับเป็นผู้สอน อันนี้แหละที่เริ่มมีอะไรให้ทำเยอะขึ้น
ที่จำได้แม่นๆ เลยคือมันให้เราอัดคลิปแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆ ประมาณ 30 วินาทีมั้ง แล้วก็ต้องมีรอบสาธิตการสอน หรือที่เรียกว่า Demo class อะ ตอนนั้นก็แอบเกร็งๆ นะ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ก็ต้องไปซ้อมพูดหน้ากระจกอยู่หลายรอบเลย เตรียมอุปกรณ์ประกอบฉากนิดหน่อยให้ดูมีอะไรทำนองนั้น พวกบัตรคำศัพท์ ตุ๊กตา อะไรที่พอจะหาได้แถวๆ นั้นแหละ
แล้วก็เหมือนจะต้องมีพวกใบรับรองการสอนภาษาอังกฤษด้วยนะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น TEFL หรือ TESOL อะไรพวกนี้ ตอนนั้นฉันยังไม่มีหรอก ก็เลยไปหาข้อมูลดูว่าถ้าไม่มีจะเป็นไรมั้ย บางคนก็บอกว่าจำเป็น บางคนก็บอกว่าถ้าโปรไฟล์เราน่าสนใจเค้าก็อาจจะรับ ก็เลยตัดสินใจลองยื่นไปดูก่อน เพราะขี้เกียจไปเสียเงินเรียนเอาใบเซอร์ตอนนั้น ฮ่าๆๆ
หลังจากส่งใบสมัคร ส่งคลิป ส่งเดโม่ อะไรครบหมดแล้ว ก็ต้องรอทางแอปเค้าอนุมัติ ช่วงรอก็ลุ้นๆ อยู่เหมือนกันนะว่าจะผ่านมั้ยวะ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ทำใจเผื่อไว้แล้ว
ปรากฏว่าผ่านเฉยเลย! ดีใจมากตอนนั้น พอผ่านแล้วก็ต้องเข้าไปตั้งค่าโปรไฟล์อีกรอบ ตั้งเรทค่าสอนของตัวเอง (ซึ่งแรกๆ ก็ไม่กล้าตั้งสูงหรอก กลัวไม่มีคนจ้าง) ใส่ตารางเวลาที่เราว่างสอนได้ ที่พีคคือเวลามันจะเป็นเวลาของจีนใช่ปะ มันก็จะเหลื่อมๆ กับบ้านเราหน่อย บางทีก็ต้องตื่นมาสอนเช้ามืด หรือไม่ก็สอนดึกๆ ไปเลย
ช่วงแรกๆ ที่เปิดโปรไฟล์งานก็ยังไม่ค่อยมีหรอก มันก็เงียบๆ เหงาๆ หน่อย ต้องพยายามเข้าไปโปรโมทตัวเองในแอปบ่อยๆ อัดคลิปสั้นๆ โพสต์อะไรไปเรื่อยเปื่อยให้คนเห็น จนกระทั่งมีนักเรียนคนแรกติดต่อเข้ามาจองคลาส ตื่นเต้นมาก!
ประสบการณ์สอนครั้งแรกก็ทุลักทุเลพอสมควรเลยนะ เด็กเล็กมาก บางทียังพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเลย เราก็ต้องพยายามใช้ท่าทาง ใช้สื่อการสอนที่ทางแอปเค้ามีให้ (ซึ่งก็โอเคระดับนึง) เด็กบางคนก็น่ารัก ตั้งใจเรียนดี แต่บางคนก็ซนสุดๆ วิ่งไปวิ่งมา ไม่ยอมมองจอ เราก็ต้องคอยเรียก คอยดึงความสนใจเค้า เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน
ฉันลองสอนอยู่ใน PalFish อยู่พักใหญ่ๆ เลยนะ ก็มีทั้งเรื่องดีเรื่องไม่ดีปนๆ กันไป
- เรื่องดีๆ ก็คือ ได้ฝึกภาษาอังกฤษตัวเองไปด้วยเยอะเลย แล้วก็ได้เจอเด็กๆ น่ารักๆ หลายคน ได้เห็นวัฒนธรรมที่แตกต่างผ่านการพูดคุยกับผู้ปกครองบ้างนิดหน่อย แล้วก็ได้เงินค่าขนมเพิ่มขึ้นมาจริงๆ
- ส่วนเรื่องที่ไม่ค่อยโอเค ก็มีเหมือนกัน อย่างแรกเลยคือเรื่องเวลาสอน บางทีมันชนกับธุระส่วนตัวเราพอดีเป๊ะ ทำให้ชีวิตรวนๆ ไปบ้าง แล้วก็เรื่องความเสถียรของอินเทอร์เน็ต อันนี้สำคัญมาก ถ้าเน็ตหลุดระหว่างสอนนี่คือเรื่องใหญ่เลยนะ เคยเจอทีนึง หัวหมุนเลย แล้วก็มีบ้างที่เจอผู้ปกครองคาดหวังสูงมาก หรือบางทีเด็กไม่พร้อมเรียนเลย แต่ก็ต้องสอนไปตามหน้าที่
อีกอย่างที่รู้สึกได้คือการแข่งขันมันสูงมาก ครูในระบบเยอะ แล้วแต่ละคนก็โปรไฟล์ดีๆ ทั้งนั้น ถ้าเราไม่แอคทีฟ ไม่พัฒนาตัวเองตลอดเวลาก็อาจจะไม่มีคนจองคลาสเราเลยก็ได้ แล้วเรทค่าสอนก็โดนกดพอสมควรเลย ถ้าเทียบกับความพยายามและเวลาที่เสียไป บางทีก็แอบคิดว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่
สุดท้ายฉันก็ค่อยๆ เฟดตัวออกมา ไม่ได้รับสอนจริงจังเหมือนช่วงแรกๆ แล้ว เพราะรู้สึกว่ามันกินพลังงานชีวิตเยอะไปหน่อย แล้วก็มีอย่างอื่นที่อยากทำมากกว่า แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ได้รู้ว่าการสอนออนไลน์มันเป็นยังไง มีอะไรที่เราต้องเตรียมตัวบ้าง
สรุปคือ PalFish Class มันก็เป็นช่องทางหนึ่งสำหรับคนที่อยากหารายได้เสริม อยากลองสอนภาษาอังกฤษ ถ้าใครมีเวลา มีความอดทนสูง ชอบเด็กๆ แล้วก็ไม่ซีเรียสเรื่องรายได้มากนัก ก็ลองไปสมัครดูก็ได้นะ ไม่เสียหายอะไร แต่อย่าคาดหวังว่ามันจะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากแล้วกัน ทุกอย่างมันก็มีรายละเอียด มีความยากของมันอยู่แหละ นี่แหละเรื่องราวการผจญภัยใน PalFish Class ของฉัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังสนใจอยู่นะ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments