พูด ภาษา อังกฤษ ได้ ใน 1 เดือน จริงไหม? พิสูจน์ด้วยตัวเอง
Share:

เอาล่ะครับเพื่อนๆ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยกับเรื่องที่หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นไปได้ยาก นั่นก็คือการพยายามพูดภาษาอังกฤษให้ได้ภายใน 1 เดือน คือต้องบอกก่อนว่าผมเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรมาจากไหน ภาษาอังกฤษนี่คือระดับพื้นๆ งูๆ ปลาๆ เลยด้วยซ้ำ

เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ผมมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารนิดหน่อย ไม่ได้จะไปสอบโทเฟลอะไรหรอกนะ แค่พอเอาตัวรอดได้ คุยรู้เรื่องบ้างก็พอแล้ว ตอนนั้นก็คิดหนักเลยว่าจะทำยังไงดีวะ เวลาโคตรจำกัด

พูด ภาษา อังกฤษ ได้ ใน 1 เดือน จริงไหม? พิสูจน์ด้วยตัวเอง

ขั้นแรกเลย: เปลี่ยนมายด์เซ็ตตัวเองก่อน

ผมเริ่มจากการบอกตัวเองว่า “กูต้องทำได้” ไม่ต้องกลัวผิด ไม่ต้องอาย พูดไปเลย ผิดก็แก้ใหม่ คือถ้ามัวแต่กลัวชาตินี้ก็ไม่ได้พูดแน่ๆ ผมเลิกสนแกรมมาร์เป๊ะๆ ไปก่อนเลย เน้นสื่อสารให้รู้เรื่องเป็นหลัก ตอนแรกก็ฝืนๆ หน่อยนะ แต่พอปลดล็อกตรงนี้ได้ มันเหมือนยกภูเขาออกจากอก

ลงมือทำจริงจังทุกวัน ไม่มีข้อแม้

อันนี้คือหัวใจสำคัญเลยครับ ผมแบ่งเวลาแบบนี้:

  • ตอนเช้า: ตื่นมาปุ๊บ เปิดเลยครับ คลิปภาษาอังกฤษสั้นๆ บทสนทนาง่ายๆ ในยูทูบ พวกสอนภาษาในชีวิตประจำวันอะไรพวกนี้ ฟังวนไป พยายามฟังให้ออกว่าเขาพูดอะไรกัน พยายามเลียนเสียงตาม ถึงจะเพี้ยนๆ ก็ช่างมัน
  • ระหว่างวัน: หาโอกาสฟังเพลงสากล ดูหนังฝรั่ง หรือซีรีส์แบบเปิดซับอังกฤษไปเลย แรกๆ อาจจะดูไม่รู้เรื่องหรอก แต่หูเรามันจะเริ่มชินกับสำเนียง ชินกับจังหวะการพูด พยายามจับคำศัพท์ที่ได้ยินบ่อยๆ แล้วลองเดาความหมายดู
  • ตอนเย็น/ก่อนนอน: อันนี้พีคสุด ผมเริ่มพูดกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษครับ ใช่ครับ พูดคนเดียว! อาจจะดูบ้าๆ แต่เวิร์คจริง เล่าเรื่องที่เจอมาในวันนั้นให้ตัวเองฟัง คิดอะไรเป็นภาษาอังกฤษไปเลย เช่น “Today I went to the market. It was very hot.” อะไรแบบนี้ แรกๆ ก็ตะกุกตะกัก หลังๆ เริ่มคล่องขึ้นเป็นประโยคยาวๆ ได้

ผมพยายามหาแอปฯ ฝึกพูดภาษาอังกฤษง่ายๆ มาลองเล่นด้วยนะ ไม่ต้องเอาอันที่มันยากๆ วิชาการจ๋า เอาแค่แบบมีบทสนทนาให้เราโต้ตอบได้ก็พอแล้ว แล้วก็อัดเสียงตัวเองพูด อันนี้ช่วยได้เยอะมาก ทำให้รู้ว่าเราออกเสียงเพี้ยนตรงไหน ฟังแล้วแบบ เฮ้ย นี่กูพูดอะไรวะเนี่ย ก็จะได้แก้ไข

อีกอย่างที่ผมทำคือ เปลี่ยนเมนูโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษ บังคับตัวเองให้อยู่กับมันให้มากที่สุด แรกๆ ก็งงๆ กดผิดกดถูก หลังๆ ก็ชินไปเอง

เจอปัญหาบ้างไหม? โอ้โห…เพียบ!

แน่นอนครับว่ามันไม่ได้ราบรื่น มีท้อบ้าง คิดศัพท์ไม่ออกบ้าง พูดไปแล้วฝรั่ง (ในจินตนาการ หรือเวลาดูหนังแล้วลองพูดตาม) ทำหน้างงบ้าง ฮ่าๆๆ บางทีอยากจะพูดประโยคยาวๆ แต่เรียบเรียงไม่ได้ ก็หงุดหงิดตัวเอง แต่ผมก็พยายามฮึดสู้ ไม่ยอมแพ้ คิดซะว่ามันคือเกมที่เราต้องผ่านด่านไปให้ได้

เทคนิคที่ผมใช้บ่อยๆ คือ “ไม่แปลตรงตัว” พยายามคิดเป็นภาพ หรืออธิบายเอา ไม่ต้องพยายามหาคำไทยมาแปลเป็นอังกฤษเป๊ะๆ ทุกคำ มันจะทำให้เราช้าและพูดไม่เป็นธรรมชาติ เช่น อยากจะบอกว่า “รถติดมาก” แทนที่จะพยายามหาคำว่า “ติด” ก็อาจจะพูดว่า “Too many cars on the road.” หรือ “Traffic is bad.” อะไรแบบนี้

ผลลัพธ์หลังผ่านไป 1 เดือน

ถามว่าพูดได้คล่องปรื๋อเลยไหม? ก็ต้องตอบตามตรงว่า “ยัง” ครับ ไม่ได้ถึงขั้นนั้นหรอก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเก่งเทพในเดือนเดียว แต่! ผมสามารถสื่อสารเรื่องพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้ ถามทางได้ สั่งอาหารได้ คุยเล่นง่ายๆ ได้ จากที่เมื่อก่อนอ้าปากพูดไม่ออกเลย ได้แต่ Yes No Ok ตอนนี้กล้าพูดเป็นประโยคมากขึ้น ผิดบ้างถูกบ้างก็ช่างมัน อย่างน้อยเขาก็พอเข้าใจที่เราจะสื่อสาร

พูด ภาษา อังกฤษ ได้ ใน 1 เดือน จริงไหม? พิสูจน์ด้วยตัวเอง

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ความสม่ำเสมอ” และ “ความกล้า” ครับ กล้าที่จะพูด กล้าที่จะผิด ถ้าทำได้จริงจังต่อเนื่อง 1 เดือน ผมเชื่อว่าทุกคนเห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอน ไม่ต้องรอให้พร้อมทุกอย่างแล้วค่อยเริ่ม ลงมือทำเลยครับเพื่อนๆ! มันไม่มีทางลัด แต่ถ้าตั้งใจจริง มันเห็นผลจริงๆ นะ

นี่ก็เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผมนะครับ อาจจะไม่ได้เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน หรืออาจจะดูบ้านๆ ไปหน่อย แต่สำหรับผมมันเวิร์คจริง ก็เลยอยากมาแชร์ให้ฟัง หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน
ช่องทางการติดต่อที่ต้องการ
คุณต้องการให้เราติดต่อคุณอย่างไร?