เอ้า มาๆ วันนี้จะมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ไปลองมาสดๆ ร้อนๆ เลย คือเรื่อง บทสนทนา ภาษา อังกฤษ ใน ห้องเรียน นี่แหละ! เริ่มเลยนะ…

คือตอนแรกอ่ะ คิดแค่ว่า เออ อยากลองดูว่าถ้าเราเอาภาษาอังกฤษมาใช้ในห้องเรียนแบบจริงๆ จังๆ เลย มันจะเป็นยังไงวะ จะรอดมั้ย เด็กๆ จะเก็ตป่ะ จะเงียบกันทั้งห้องรึเปล่า สารพัดความกังวลเลย

• ขั้นแรก: ก็ต้องเตรียมตัวก่อนสิ! ไปหาดูตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษที่เค้าใช้กันในห้องเรียนทั่วไปอ่ะ พวกเริ่มต้นทักทาย ถามชื่อ ถามสารทุกข์สุกดิบง่ายๆ แล้วก็พวกคำศัพท์ที่ใช้บ่อยๆ ในห้องเรียนอ่ะ เช่น “Open your book”, “Close the door”, “Raise your hand” อะไรพวกนี้
• ขั้นที่สอง: พอได้บทสนทนามาแล้ว ก็เอามาปรับให้เข้ากับเด็กๆ ในห้องเราอ่ะ เด็กเรามันระดับไหน ต้องปรับคำศัพท์ให้ง่ายลงมั้ย หรือว่าต้องเพิ่มอะไรเข้าไปให้มันน่าสนใจมากขึ้น ก็ว่ากันไป
• ขั้นที่สาม: อันนี้สำคัญมาก! คือต้องซ้อม! ซ้อมพูด ซ้อมทำท่าทาง ซ้อมตอบคำถาม ซ้อมทุกอย่างอ่ะ ให้มันคล่อง ให้มันเป็นธรรมชาติ เพราะถ้าเรายังตะกุกตะกัก เด็กมันก็จะไม่มั่นใจตามเราไปด้วย

พอถึงวันจริงนะ… หายใจลึกๆ แล้วก็ลุยเลย! เริ่มจากทักทายเด็กๆ เป็นภาษาอังกฤษก่อนเลย “Good morning, everyone!” อะไรแบบนี้ แล้วก็ถามชื่อ ถามว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง พยายามชวนคุยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ตอนแรกๆ อ่ะ เด็กมันก็เงียบๆ กันบ้าง เขินๆ กันบ้าง แต่เราก็ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ พูด ค่อยๆ กระตุ้นให้เค้าตอบ พยายามใช้คำศัพท์ง่ายๆ ที่เค้าคุ้นเคย แล้วก็ใช้ท่าทางประกอบเยอะๆ ให้เค้าเข้าใจง่ายขึ้น

สิ่งที่ไม่คาดคิด: คือเด็กมันเก่งกว่าที่เราคิดเยอะ! บางคนอ่ะ ถึงจะพูดไม่ได้คล่องมาก แต่เค้าก็พยายามที่จะตอบ พยายามที่จะสื่อสารออกมา บางคนก็แอบกระซิบถามเพื่อนข้างๆ แล้วก็ตอบออกมาได้ คือมันน่ารักมาก!

อุปสรรคที่เจอ: ก็มีบ้างแหละ เช่น เด็กบางคนที่ไม่กล้าพูดเลย หรือบางคนที่ไม่เข้าใจที่เราพูดเลย อันนี้ก็ต้องใช้ความพยายามเป็นพิเศษหน่อย อาจจะต้องพูดซ้ำๆ ช้าๆ หรืออาจจะต้องใช้ภาษาไทยช่วยบ้างเป็นบางครั้ง

สิ่งที่ได้เรียนรู้: คือการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กอ่ะ ไม่ใช่แค่การสอนแกรมม่า หรือการท่องศัพท์ แต่เป็นการสร้างบรรยากาศที่เค้ารู้สึกว่าเค้ากล้าที่จะพูด กล้าที่จะลองผิดลองถูก แล้วก็สนุกไปกับมัน

สรุป: ถึงมันจะเหนื่อยหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มค่ามาก! ได้เห็นเด็กๆ กล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ได้เห็นเค้าสนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น แค่นี้ก็ดีใจแล้ว ไว้คราวหน้าจะลองทำอะไรที่มันท้าทายกว่านี้อีกแน่นอน!

ข้อแนะนำ: สำหรับใครที่อยากลองเอาไปทำตามนะ อย่าเพิ่งท้อแท้ถ้ามันไม่เป็นไปตามที่คิดในครั้งแรก ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วก็จะเจอวิธีที่มันเหมาะกับเด็กๆ ของเราเอง สู้ๆ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ