สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเองเลย ตอนที่ผมวุ่นวายหาตารางสอบ ielts 2023 เมื่อปีที่แล้วน่ะครับ เผื่อใครกำลังจะสอบเหมือนกันจะได้เห็นภาพเนอะ

เริ่มจากศูนย์เลยครับ ไม่รู้อะไรเลย

คือตอนนั้นผมตัดสินใจแล้วว่า เออ ปี 2023 เนี่ย ต้องสอบ IELTS ให้ได้ซักที ทีนี้พอคิดจะสอบปุ๊บ คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเลยก็คือ “แล้วมันสอบวันไหนได้บ้างวะ?” นั่นแหละครับ จุดเริ่มต้นของการผจญภัยหาตารางสอบของผม

ผมก็เริ่มง่ายๆ เลยครับ เปิดคอมพิวเตอร์ เข้ากูเกิ้ล พิมพ์ไปตรงๆ เลยว่า “ตารางสอบ ielts 2023” สิ่งที่เจอก็คือ… ข้อมูลเยอะมากแม่! มาทั้งของ British Council ทั้ง IDP ตอนแรกก็แอบงงๆ นิดหน่อยว่ามันต่างกันยังไง แต่ก็ค่อยๆ อ่านไปครับ

ค่อยๆ คลำทางไปทีละสเต็ป

ผมเริ่มจากการเข้าไปดูเว็บไซต์ของทั้งสองที่หลักๆ ที่จัดสอบในไทยก่อนเลยครับ สิ่งที่ผมสังเกตได้อย่างแรกคือ

• แต่ละศูนย์สอบมีวันและรอบไม่เหมือนกันเป๊ะๆ: อันนี้สำคัญมาก คือเราต้องเลือกก่อนว่าอยากสอบกับที่ไหน หรือสะดวกเดินทางไปที่ไหน เพราะตารางมันจะอิงกับสถานที่สอบด้วย
• ประเภทการสอบก็มีผล: IELTS มันมีทั้งแบบ Academic กับ General Training ใช่ไหมครับ แล้วก็ยังมีแบบคอมพิวเตอร์ (Computer-delivered) กับแบบกระดาษ (Paper-based) อีก ตารางสอบของแต่ละแบบก็อาจจะไม่ตรงกันเสมอไป ต้องดูดีๆ ว่าเราจะสอบแบบไหน

พอเริ่มจับทางได้ ผมก็ลองเลือกดูศูนย์สอบที่คิดว่าเดินทางสะดวกสำหรับผมก่อน จากนั้นก็เข้าไปดูตารางของศูนย์นั้นโดยเฉพาะเลยครับ ในเว็บไซต์ของเขาก็จะมีให้เลือกดูว่าอยากสอบแบบ Academic หรือ General Training แล้วก็เลือกดูว่าเป็นแบบคอมหรือแบบกระดาษ

สิ่งที่ผมทำคือ:

1. ตัดสินใจก่อนว่าจะสอบ Academic หรือ General Training (ของผมสอบ Academic)
2. ตัดสินใจว่าจะสอบแบบคอมพิวเตอร์หรือแบบกระดาษ (ผมเลือกแบบคอมพิวเตอร์ เพราะรู้สึกว่าพิมพ์ถนัดกว่าเขียน แล้วผลออกเร็วกว่าด้วย)
3. เข้าไปดูเว็บของศูนย์สอบที่เล็งไว้ (ผมดูทั้ง British Council และ IDP เลยครับ เทียบกัน)
4. มองหาหน้า “สมัครสอบ” หรือ “ตรวจสอบวันสอบ” อะไรทำนองนั้น
5. จากนั้นมันก็จะมีปฏิทินขึ้นมาให้ดูเลยครับว่าเดือนไหนมีวันไหนว่างบ้าง บางทีก็ต้องคลิกเลือกเดือนไปเรื่อยๆ

เจอแล้ว! แต่ก็ต้องรีบหน่อย

พอผมเจอวันและรอบที่ต้องการแล้ว ก็ยังวางใจไม่ได้นะครับ เพราะที่นั่งมันมีจำกัด โดยเฉพาะรอบเช้าวันเสาร์-อาทิตย์นี่จะเต็มเร็วมาก ผมเจอวันที่โอเคปุ๊บ ก็รีบเช็คตารางส่วนตัวอีกที แล้วก็เตรียมข้อมูลสำหรับสมัครสอบเลยครับ พวกบัตรประชาชนอะไรแบบนี้

ตอนนั้นจำได้ว่ากว่าจะหาข้อมูลครบ กว่าจะตัดสินใจเลือกวัน เลือกรอบ ก็ใช้เวลาไปพอสมควรเลยครับ เพราะอยากได้วันที่เราพร้อมที่สุด แล้วก็เดินทางสะดวกด้วย บางทีวันที่เราอยากได้ก็เต็มไปแล้ว ก็ต้องมานั่งเลือกใหม่

สรุปคือ การหาตารางสอบ ielts 2023 ของผมในปีนั้น มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรขนาดนั้นนะครับ แค่ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ดูข้อมูลไปทีละส่วน แล้วก็ตัดสินใจให้ดีว่าจะสอบแบบไหน ที่ไหน พอรู้ความต้องการของตัวเองชัดเจนแล้ว การหาตารางที่ตรงใจก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ

หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS อยู่นะครับ สู้ๆ ครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ