สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย ตอนที่ผมต้องหาโรงเรียน English Program หรือ EP ให้ลูกชายตอนเข้า ป.1 นี่แหละครับ บอกเลยว่าช่วงนั้นนี่คิดหนักพอสมควรเลย เพราะอยากให้ลูกได้ภาษา แต่ก็ไม่อยากให้ทิ้งความเป็นไทย แล้วโรงเรียน EP เดี๋ยวนี้ก็มีเยอะมากจนเลือกไม่ถูกเลยครับ
ตอนแรกสุดเลยนะ ผมเริ่มจากคุยกับเพื่อนๆ พ่อแม่คนอื่นๆ ที่มีประสบการณ์ส่งลูกเรียน EP มาก่อน ได้ข้อมูลมาเยอะเลย ทั้งข้อดีข้อเสียของแต่ละที่ บางคนก็บอกว่าที่นั่นดี ที่นี่เข้มข้น บางที่ก็เน้นกิจกรรม คือฟังไว้เป็นแนวทางครับ แต่ก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมด เพราะแต่ละครอบครัวความต้องการไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

หลังจากนั้น ผมก็เริ่มส่องตามเว็บโรงเรียนต่างๆ ดูข้อมูลคร่าวๆ ก่อนเลยว่าแต่ละที่มีหลักสูตรประมาณไหน ค่าเทอมเท่าไหร่ (อันนี้เรื่องใหญ่เลย 555) แล้วก็ดูว่าโรงเรียนอยู่ไกลบ้านมากไหม การเดินทางสะดวกหรือเปล่า เพราะไม่อยากให้ลูกต้องตื่นเช้ามืดเกินไป หรือรถติดนานๆ มันจะเหนื่อยเอา
หลักเกณฑ์ที่ผมใช้ส่วนตัวนะ ตอนคัดเลือกโรงเรียน EP
พอได้ข้อมูลมาประมาณนึง ก็เริ่มลิสต์รายชื่อโรงเรียนที่สนใจออกมาประมาณ 5-6 ที่ แล้วก็มานั่งดูทีละข้อเลยว่าเราให้ความสำคัญกับอะไรบ้าง ของผมจะมีประมาณนี้ครับ:
- สัดส่วนการใช้ภาษาอังกฤษ: อันนี้ผมอยากได้แบบที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอนเป็นหลักจริงๆ ไม่ใช่แค่มีครูฝรั่งมาสอนคาบสองคาบ อยากให้ลูกได้ซึมซับไปเลย
- คุณครูผู้สอน: ก็อยากได้ครูเจ้าของภาษาที่มีคุณภาพ มีประสบการณ์สอนเด็กเล็ก ไม่ใช่แค่พูดอังกฤษได้เฉยๆ ส่วนครูไทยก็สำคัญนะ ต้องดูแลเอาใจใส่เด็กดี
- หลักสูตร: นอกจากวิชาการแล้ว มีกิจกรรมเสริมทักษะอื่นๆ ไหม เช่น ดนตรี กีฬา ศิลปะ เพราะเด็กวัยนี้ควรได้ลองทำอะไรหลากหลาย
- ค่าใช้จ่าย: อันนี้ต้องดูตามกำลังทรัพย์ของเราเลยครับ ไม่ใช่แค่ค่าเทอมนะ ต้องดูค่าอื่นๆ แฝงด้วย เช่น ค่าหนังสือ ค่ากิจกรรม ค่าชุดนักเรียน
- บรรยากาศโรงเรียน: อันนี้สำคัญมาก ผมอยากให้ลูกเรียนในที่ที่เขามีความสุข ดูปลอดภัย สภาพแวดล้อมดี เพื่อนๆ คุณครูดูเป็นมิตร
- ระยะทางและการเดินทาง: อย่างที่บอกไปตอนแรกครับ ไม่อยากให้เหนื่อยเดินทางเกินไป
พอมีเกณฑ์คร่าวๆ แล้ว ผมก็เริ่มโทรไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากโรงเรียนที่ลิสต์ไว้เลยครับ ถามรายละเอียดเรื่องครู หลักสูตร จำนวนนักเรียนต่อห้อง บางที่ก็มี Open House ให้เข้าไปดูด้วย อันนี้ดีมากเลย
ขั้นตอนสำคัญมากๆ คือการไปดูโรงเรียนด้วยตัวเองครับ ผมพาลูกไปด้วยเลย ให้เขาได้เห็นบรรยากาศจริงๆ ไปเดินดูห้องเรียน ดูสนามเด็กเล่น ดูโรงอาหาร ดูห้องสมุด คุยกับคุณครูหรือเจ้าหน้าที่บ้าง สังเกตเด็กนักเรียนที่นั่นว่าเขาร่าเริงไหม มีความสุขหรือเปล่า บางทีเราเห็นด้วยตาตัวเองมันจะให้คำตอบได้ดีกว่าฟังคนอื่นเล่าเยอะเลยครับ
ตอนไปดูโรงเรียนเนี่ย ผมจะพยายามถามคำถามที่เราสงสัยให้หมดเลยนะ เช่น เรื่องการบ้านเยอะไหม การประเมินผลเป็นยังไง ถ้าลูกตามไม่ทันมีวิธีช่วยเหลือยังไงบ้าง คือถามให้เคลียร์ไปเลย
พอกลับมาบ้าน ก็เอาข้อมูลทั้งหมดมากางเทียบกันเลยครับ ข้อดีข้อเสียของแต่ละที่ บางทีก็ให้ลูกช่วยออกความเห็นด้วยนะ ว่าเขาชอบที่ไหนมากกว่า (ถึงแม้ว่าตอนนั้นเขาอาจจะยังเล็ก แต่ก็อยากให้เขามีส่วนร่วมบ้าง)
สุดท้ายแล้ว ผมว่ามันไม่มีโรงเรียนไหนดีที่สุดแบบสมบูรณ์แบบหรอกครับ มันมีแต่โรงเรียนที่ ‘ใช่’ สำหรับลูกเราและครอบครัวเรามากที่สุดมากกว่า บางทีโรงเรียนที่คนอื่นว่าดีมากๆ อาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้ หรือโรงเรียนเล็กๆ ที่ไม่ดังมาก อาจจะตอบโจทย์เรามากกว่า

สุดท้าย ผมก็เลือกโรงเรียนให้ลูกได้นะ ก็ดูแฮปปี้ดี เรียนสนุก มีเพื่อนเยอะ ได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน พ่อแม่อย่างเราก็สบายใจไปเปลาะหนึ่งครับ การตัดสินใจครั้งนั้นถือว่าเป็นการบ้านชิ้นใหญ่เลย แต่พอผ่านมาได้ก็รู้สึกภูมิใจที่เราได้พยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกตามที่เราคิด
หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับพ่อแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังมองหาโรงเรียน EP ให้ลูกๆ นะครับ ค่อยๆ ดู ค่อยๆ เลือก ไม่ต้องรีบร้อนครับ เอาที่สบายใจและเหมาะกับเราที่สุดครับ สู้ๆ ครับ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments