เออเนี่ย พอพูดถึงวันเด็กทีไรนะ มันก็ต้องมีแว๊บๆ เรื่องภาษาอังกฤษเข้ามาในหัวทุกทีเลย ไม่ใช่ไรหรอก คือพยายามจะคิดว่าถ้าต้องอธิบายให้ฝรั่งฟังเนี่ย จะบอกเขายังไงดีวะ ว่า วันเด็ก บ้านเรามันเป็นยังไง
ตอนแรกๆ นะ ผมก็คิดง่ายๆ เลย ก็บอกไปดิ Children’s Day จบ! ง่ายดี แต่พอเอาเข้าจริง มันไม่ง่ายงั้นสิเพื่อน เพราะวันเด็กบ้านเรามันมีอะไรมากกว่าแค่ชื่อวันอ่ะดิ มันมีทั้งกิจกรรม มีทั้งความหมายที่ซ่อนอยู่
ผมนั่งลิสต์เลยนะ ว่าจะใช้คำไหนดี
- อย่างแรกเลย คำว่า “วันเด็ก” เนี่ย ตรงตัวก็ “Children’s Day” อันนี้ไม่น่ามีปัญหา
- แต่พอจะอธิบายว่ามันคืออะไรล่ะ? ผมก็ลองนึกภาพตามนะ ว่าถ้าฝรั่งถาม “What’s that?” ผมจะตอบยังไง ผมก็เริ่มจาก “It’s a special day for children in Thailand.” เออ อันนี้ดูเข้าท่า
- แล้วไงต่อ? มันมีกิจกรรมเยอะแยะ ผมก็นึกถึงคำว่า “activities”, “games”, “gifts”. ก็อาจจะบอกว่า “There are many activities, games, and gifts for children.”
แต่ที่มันเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเรามากๆ เลยนะ คือการที่สถานที่ราชการหลายแห่งเปิดให้เด็กๆ เข้าชมฟรี เช่น ทำเนียบรัฐบาลงี้ หรือ ค่ายทหารงี้ อันนี้จะอธิบายเป็นภาษาอังกฤษยังไงดีหว่า? ผมก็ลองคิดดูนะ อาจจะเป็น “Many government places like Government House or army bases are open for children to visit for free.” มันก็จะยาวๆ หน่อย แต่ก็น่าจะเข้าใจ
แล้วก็ไอ้เรื่อง “คำขวัญวันเด็ก” เนี่ยสิ จะบอกว่า “Children’s Day Motto” มันก็ตรงตัวไปปะ หรือต้องอธิบายว่า “annual slogan given by the Prime Minister” เออ อันหลังน่าจะเคลียร์กว่านะ สำหรับคนที่เขาไม่รู้บริบทบ้านเรา
สิ่งที่ผมลองทำจริงๆ ตอนนั้น
ผมลองร่างๆ ประโยคดูเลยนะ แบบว่า:
“Children’s Day in Thailand is a very special occasion celebrated on the second Saturday of January each year.” อันนี้เป็นการเปิดประเด็น บอกว่าเมื่อไหร่
“The main purpose is to give children a chance to have fun and to make them aware of their importance to the country.” อันนี้บอกวัตถุประสงค์ มันไม่ใช่แค่สนุกอย่างเดียว แต่มันมีความหมายด้วย
“Many organizations, both public and private, arrange special events. For example, children can visit the Prime Minister’s office, explore army tanks, or receive free snacks and toys.” นี่คือยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
“Each year, the Prime Minister also gives a motto for Children’s Day, which serves as a guideline or inspiration for children.” อันนี้ก็เสริมเรื่องคำขวัญเข้าไป
ผมลองพูดๆ ประโยคพวกนี้กับตัวเองดูนะ พยายามทำเสียงให้มันดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ท่องจำ แรกๆ ก็ตะกุกตะกักบ้างแหละ แต่พอพูดบ่อยๆ มันก็เริ่มคล่องขึ้น
สุดท้ายนะ ผมว่ามันไม่ใช่แค่แปลตรงๆ ตัวอ่ะ มันต้องใส่ฟีลลิ่งความเป็นไทยๆ เข้าไปด้วยนิดนึง คือให้เขารู้สึกได้ว่า เฮ้ย วันนี้เด็กๆ บ้านยูมันพิเศษจริงๆ นะเว้ย ไม่ใช่แค่วันหยุดธรรมดา หรือวันแจกของเล่นเฉยๆ มันมีความผูกพันกับเรื่องของอนาคตชาติอะไรแบบนี้ด้วย
ก็เป็นประสบการณ์การพยายามจะสื่อสารเรื่องวัฒนธรรมเล็กๆ น้อยๆ ผ่านภาษาอังกฤษของผมนี่แหละ มาแชร์ให้ฟังกัน เผื่อใครต้องใช้จะได้พอมีไอเดียเนอะ
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments