วิธีง่ายๆ ช่วยลดปัญหา เด็ก เครียด ทำให้ลูกมีความสุขขึ้นเยอะ
วิธีง่ายๆ ช่วยลดปัญหา เด็ก เครียด ทำให้ลูกมีความสุขขึ้นเยอะ
Share:

เด็ก เครียด เนี่ยนะ โอ้โห ฟังแล้วก็ใจหายเหมือนกันนะ สมัยนี้เด็กๆ ต้องเจออะไรเยอะแยะไปหมดจริงๆ เอาจริงๆ นะ ผมเองก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรเรื่องเด็กหรอก แต่จากที่เคยคลุกคลีมาบ้าง ทั้งกับลูกตัวเองตอนเล็กๆ หรือกับหลานๆ เนี่ย มันก็พอจะมีเรื่องมาแชร์ได้บ้าง

จุดเริ่มต้นของการสังเกต

คือเรื่องของเรื่องมันเป็นงี้ มีช่วงนึงผมสังเกตเห็นหลานชายคนเล็กของผมเองนี่แหละ ปกติเป็นเด็กที่ร่าเริงนะ ชอบเล่นชอบคุย แต่พักหลังๆ นี่ดูซึมๆ ไป ไม่ค่อยพูดค่อยจา ถามคำตอบคำ เก็บตัวอยู่ในห้องมากขึ้น เวลาอยู่กับคนเยอะๆ ก็ดูอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง ตอนแรกผมก็คิดว่าเออ สงสัยจะเริ่มเป็นวัยรุ่น หรือมีเรื่องอะไรไม่สบายใจนิดหน่อย เดี๋ยวก็คงหายเอง

วิธีง่ายๆ ช่วยลดปัญหา เด็ก เครียด ทำให้ลูกมีความสุขขึ้นเยอะ

ลองเข้าไปคุยดูสิ

แต่พอนานวันเข้า มันก็ยังเป็นเหมือนเดิม ผมก็เลยเริ่มเอะใจละว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ เลยลองหาจังหวะดีๆ ตอนที่เขาดูผ่อนคลายหน่อย เข้าไปชวนคุยแบบเนียนๆ ไม่ได้ไปซักไซ้ไล่เลียงอะไรมากนะ ก็แค่ถามว่า “เป็นไงบ้างช่วงนี้ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า เล่าให้ลุงฟังได้นะ” แรกๆ เขาก็อ้ำๆ อึ้งๆ แหละครับ ตามประสาเด็กที่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ผมก็ไม่ได้คาดคั้นอะไร ปล่อยให้เขาสบายใจ

ผมนั่งอยู่เป็นเพื่อนเขาเงียบๆ สักพัก ตบไหล่เบาๆ แล้วก็พูดไปเรื่อยเปื่อยเรื่องอื่นก่อน พอเขารู้สึกว่าเราไม่ได้จะมาจับผิดหรือสั่งสอนอะไร เขาถึงค่อยๆ เปิดปากเล่าให้ฟังทีละนิด ทีละหน่อย โอ้โห พอได้ฟังเท่านั้นแหละครับ ถึงได้รู้ว่าเด็กสมัยนี้มันแบกอะไรไว้เยอะกว่าที่เราคิดจริงๆ

สิ่งที่ค้นพบและความพยายามของผม

หลักๆ เลยที่หลานผมเครียดก็มาจากหลายเรื่องรวมกันครับ ทั้งเรื่องเรียนที่โรงเรียน มีการบ้านเยอะ กิจกรรมแยะ ไหนจะเพื่อนอีก บางทีก็มีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้างตามประสา แล้วก็มีความคาดหวังจากที่บ้านอีก พ่อแม่เขาก็อยากให้ลูกได้ดีแหละ แต่บางทีมันก็อาจจะกดดันเด็กโดยไม่รู้ตัว

ผมก็เลยลองใช้วิธีแบบบ้านๆ ของผมเองนี่แหละครับ อย่างแรกเลยคือ การรับฟัง ฟังอย่างเดียวเลยครับ ไม่ตัดสิน ไม่สั่งสอน ไม่บอกว่า “ตอนลุงเด็กๆ นะ…” อะไรแบบนั้น แค่พยักหน้า ทำความเข้าใจในมุมของเขา ให้เขารู้สึกว่ามีคนเข้าใจเขาจริงๆ

พอเขาเล่าจบ ผมก็ค่อยๆ ชวนคุยต่อทีละประเด็น เช่น เรื่องเรียนที่มันหนักไป ผมก็ลองคุยกับพี่สาว (แม่ของหลาน) ดูว่าพอจะปรับลดอะไรได้บ้างไหม หรือหากิจกรรมอย่างอื่นให้เขาทำบ้างที่ไม่ใช่เรื่องเรียนอย่างเดียว เช่น พาไปเตะบอล ไปวิ่งเล่น ให้เขาได้ปลดปล่อยพลังงานบ้าง

เรื่องเพื่อน ผมก็แนะนำเขาไปว่าการกระทบกระทั่งกันมันเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ามันหนักหนาเกินไป หรือรู้สึกไม่โอเค ก็ให้บอกผู้ใหญ่ หรือลองเปิดใจคุยกับเพื่อนคนนั้นตรงๆ ดู

ส่วนเรื่องความคาดหวังจากที่บ้าน อันนี้ผมก็พยายามสื่อสารกับพี่สาวผมเหมือนกันว่า บางทีเราก็ต้องปล่อยให้เด็กเขาได้เป็นตัวของตัวเองบ้าง ไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่าง หรือเป็นไปตามที่เราวาดฝันไว้เสมอไป แค่เขาเป็นคนดี มีความสุขในแบบของเขาก็น่าจะพอแล้ว

วิธีง่ายๆ ช่วยลดปัญหา เด็ก เครียด ทำให้ลูกมีความสุขขึ้นเยอะ

ผลลัพธ์และการดูแลต่อเนื่อง

หลังจากที่ได้เปิดใจคุยกัน แล้วก็มีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่าง ผมสังเกตเห็นว่าหลานชายดูผ่อนคลายขึ้นเยอะเลยครับ กลับมาพูดคุยเล่นหัวเหมือนเดิม แม้ว่าปัญหาต่างๆ มันอาจจะไม่ได้หายไปทั้งหมดหรอกนะ แต่มันเหมือนเขามีกำลังใจมากขึ้น มีคนคอยรับฟัง และรู้วิธีจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้ดีขึ้น

ผมว่าเรื่องแบบนี้มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือ ความใส่ใจและการเปิดใจรับฟัง เด็กๆ เขาก็มีความคิดความรู้สึกของเขานะ บางทีการที่เราหยุดฟังเขาบ้าง ให้พื้นที่เขาได้ระบายบ้าง มันอาจจะเป็นยาที่ดีที่สุดก็ได้

ทุกวันนี้ผมก็ยังคอยสังเกตหลานอยู่เรื่อยๆ นะครับ ถ้าเห็นเขาเริ่มมีอาการแปลกๆ ไป ก็จะรีบเข้าไปชวนคุยเลย ไม่ปล่อยทิ้งไว้นานเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สอนอะไรเราได้เยอะเหมือนกันครับ หวังว่าเรื่องที่ผมแชร์ไปวันนี้ อาจจะเป็นประโยชน์กับใครบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน
ช่องทางการติดต่อที่ต้องการ
คุณต้องการให้เราติดต่อคุณอย่างไร?