วันนี้มาแชร์ประสบการณ์นิดหน่อยครับ เรื่องมันเริ่มมาจากวันเด็กนี่แหละ ก็นั่งคิดๆ อยู่ว่าจะหาอะไรไปคุยกับหลานๆ หรือเด็กๆ แถวบ้านดี ให้มันมีสาระแต่ก็ไม่น่าเบื่อ เลยปิ๊งไอเดียว่าเออ ลองหาคำอวยพรวันเด็กเป็นภาษาอังกฤษดูสิ มันต้องมีอะไรเก๋ๆ แน่

เริ่มจากความสงสัยล้วนๆ

ผมก็ไม่ใช่คนเก่งกาจภาษาอะไรมากมายนะครับ อาศัยครูพักลักจำเอา ก็เลยลองพิมพ์ลงไปในเน็ตเลยตรงๆ ว่า “สวัสดีวันเด็กภาษาอังกฤษ” กะว่ามันคงมีประโยคยาวๆ สวยหรูมาให้เลือกใช้ ปรากฏว่า… เอ้า!

สิ่งที่เจอมันก็ง่ายกว่าที่คิดเยอะเลยครับ ส่วนใหญ่เขาก็บอกว่า วันเด็กในภาษาอังกฤษก็คือ “Children’s Day” นั่นแหละครับ ง่ายๆ ตรงตัว แต่ถ้าจะให้เป็นคำอวยพร แบบที่เราพูดว่า “สุขสันต์วันเด็ก” อะไรทำนองนั้น เขาก็ใช้คำว่า “Happy Children’s Day!” กัน แค่นั้นเลย! ผมนี่นั่งเกาหัวเลย อะไรมันจะเรียบง่ายปานนั้น ตอนแรกนึกว่าจะต้องมีสำบัดสำนวนอะไรซับซ้อนกว่านี้ซะอีก

คิดไปคิดมา มันก็จริงของมัน

บางทีเราเองนี่แหละที่ชอบทำให้เรื่องง่ายมันกลายเป็นเรื่องยากไปซะเองเนอะ ภาษาเอาเข้าจริงมันก็แค่เครื่องมือสื่อสาร ขอแค่สื่อสารกันเข้าใจก็จบแล้ว ไม่ต้องหรูหราอลังการอะไรมากมาย

แล้วพอพูดถึงวันเด็ก ผมก็นึกไปถึงคำขวัญวันเด็กปี 2568 ที่ท่านนายกฯ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร ให้ไว้ด้วยนะ ที่ว่า “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ผมว่ามันโคตรจริงเลย โดยเฉพาะเรื่องภาษาเนี่ย มันคือโอกาสสำคัญมากๆ สำหรับเด็กยุคนี้เลยนะ ที่จะได้เรียนรู้แล้วก็ปรับตัวให้ทันโลกอนาคตที่พวกเขาต้องเลือกเองจริงๆ

• ตอนผมนั่งดูเด็กๆ สมัยนี้คุยกัน บางทีมีศัพท์อังกฤษแปลกๆ ที่เราไม่เคยได้ยินโผล่มาเฉยเลย
• พวกเขาเรียนรู้กันไวมากจริงๆ ไม่เหมือนสมัยเราที่ท่องจำกันเป็นนกแก้วนกขุนทอง
• เห็นแล้วก็อดทึ่งไม่ได้นะว่า เออ เด็กมันไปไกลกว่าเราเยอะ

สรุปสั้นๆ จากประสบการณ์ตรงของผมก็คือ ไม่ต้องไปคิดอะไรให้มันยุ่งยากเลยครับ คำว่า “Happy Children’s Day!” เนี่ยแหละ เวิร์คสุดแล้วสำหรับอวยพรเด็กๆ เป็นภาษาอังกฤษ ส่วนเรื่องการเรียนรู้ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ สนับสนุนให้เขาได้ลองผิดลองถูก ผมว่านั่นแหละคือการเตรียมตัวสู่อนาคตที่ดีที่สุดแล้วล่ะครับ

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ