แผนแรก กับ ความเป็นจริง

สวัสดีครับทุกคน วันนี้มาแชร์ประสบการณ์วันเด็กปีล่าสุดของผมเอง บอกตรงๆ ตอนแรกก็วางแผนไว้อย่างดีเลยนะ กะว่าจะพาลูกๆ ไปตะลุยห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่แถวบ้าน เห็นว่ามีจัดกิจกรรมเยอะแยะ มีของเล่นมาแจก มีเกมให้เล่น คิดในใจว่าสบายล่ะ ใกล้บ้าน รถไม่น่าติดมาก

แต่พอเอาเข้าจริง โอ้โห… แค่เลี้ยวรถออกจากซอยหน้าบ้านก็ติดแล้วครับ ติดแบบไม่ขยับเลย มองไปทางไหนก็มีแต่รถกับรถ ผมนี่เริ่มเหงื่อตกละ ลูกๆ ก็เริ่มงอแงจากในรถ ผมก็พยายามใจเย็น เปิดเพลงให้ฟัง ชวนคุยไปเรื่อย แต่ในใจนี่คือ “เอาไงดีวะเนี่ย” สุดท้าย ทนไม่ไหวครับ วนรถกลับบ้านแทบไม่ทัน แผนแรกล่มไม่เป็นท่าเลย

เปลี่ยนแผนกะทันหัน และการค้นพบ

พอกลับมาถึงบ้าน ทุกคนหน้าจ๋อยกันหมด ผมก็เลยต้องรีบคิดแผนสองทันที นั่งคิดอยู่แป๊บนึง ก็นึกขึ้นได้ว่ามีพิพิธภัณฑ์เด็กอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากเท่าไหร่ แต่เป็นที่ที่เราไม่เคยไปกันเลยนะ ปกติจะไปแต่ที่ฮิตๆ คนเยอะๆ ตลอด ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้างก็ดี

ตัดสินใจปุ๊บ ก็เรียกลูกๆ ขึ้นรถอีกรอบ คราวนี้ผมเลือกเส้นทางรองที่คนไม่ค่อยใช้กัน ถึงจะอ้อมหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าไปติดแหง็กอยู่กลางถนน ขับไปเรื่อยๆ ใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าจะรอดไหม พอไปถึงพิพิธภัณฑ์เท่านั้นแหละ โล่งอกเลยครับ คนไม่เยอะอย่างที่คิด มีที่จอดรถสบายๆ

• เข้าไปข้างใน เด็กๆ ตื่นตาตื่นใจมากครับ มีโซนให้ทดลองวิทยาศาสตร์ง่ายๆ
• มีโซนให้ปีนป่ายจำลองการผจญภัย
• มีโซนศิลปะให้ละเลงสีกันเต็มที่

ผมสังเกตเห็นว่า ลูกๆ ดูสนุกกว่าตอนไปเดินห้างอีกนะ อาจจะเพราะได้ลงมือทำ ได้สำรวจอะไรใหม่ๆ ด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่เดินดูของหรือรอคิวเล่นเกมแป๊บๆ

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากวันเด็กปีนี้

สรุปแล้ว วันเด็กปีนี้ของบ้านผม แม้จะเริ่มต้นแบบทุลักทุเลไปหน่อย แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยดีนะ ได้ข้อคิดอย่างนึง คือบางทีการที่เรายึดติดกับอะไรเดิมๆ หรือตามกระแสมากไป มันก็อาจจะทำให้เราพลาดสิ่งดีๆ ที่อยู่ใกล้ตัวไปเหมือนกัน การลองเปลี่ยนแผน ลองเปิดใจไปเจออะไรใหม่ๆ บ้าง มันก็สนุกไปอีกแบบ

ที่สำคัญที่สุด คือการได้ใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัวครับ เห็นลูกๆ มีความสุข ยิ้มได้ หัวเราะได้ แค่นี้คนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราก็มีความสุขแล้วล่ะครับ ปีหน้าเอาใหม่! แต่คงต้องวางแผนสำรองไว้หลายๆ แผนหน่อย ฮ่าๆๆ

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ