สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเองเลย เรื่องสอนภาษาให้ลูกเนี่ยแหละครับ บอกเลยว่าลองผิดลองถูกมาเยอะพอสมควร ใครที่กำลังมองหาแนวทางอยู่ ลองฟังเรื่องของผมดูก่อนก็ได้นะ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง
ช่วงเริ่มต้นของการผจญภัย (ที่ไม่รู้เหนือรู้ใต้)
ตอนลูกคนแรกเริ่มจะพูดได้เนี่ย โอ้โห ผมนี่ตื่นเต้นมาก อยากให้ลูกพูดเก่งๆ สื่อสารได้ไวๆ ก็เริ่มเลยครับ หาข้อมูลใหญ่เลย
- อ่านหนังสือเกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก การสอนภาษา
- ดูคลิปในยูทูบ พวกเทคนิคต่างๆ เพียบ!
- ถามเพื่อนฝูงที่มีลูกแล้ว ว่าเขาสอนกันยังไง
ข้อมูลมันเยอะมากครับ จนบางทีก็สับสนเหมือนกันนะ บางตำราก็บอกให้เริ่มจาก ก ไก่ ข ไข่ บางที่ก็บอกให้เน้นคำศัพท์รอบตัว บางคนก็แนะนำให้ใช้แฟลชการ์ด ผมก็พยายามจะเอาทุกอย่างมารวมกัน คิดว่ายิ่งเยอะยิ่งดี ลูกจะได้เก่งรอบด้าน
เมื่อภาคทฤษฎี ปะทะ ภาคปฏิบัติ (แล้วก็พังไม่เป็นท่า)
เอาล่ะ พอข้อมูลแน่นปึ้ก ก็ถึงเวลาลงสนามจริง! ผมก็เริ่มเลยครับ พยายามจะสอนลูกแบบจริงจัง มีการกำหนดเวลาเลยนะว่าช่วงนี้ต้องเรียนคำศัพท์ ช่วงนี้ต้องฝึกออกเสียง
จำได้แม่นเลย มีช่วงนึงผมบ้าซื้อบัตรคำศัพท์มาก กะว่าลูกต้องจำได้หมดทุกคำศัพท์ในบ้าน ทั้งผัก ผลไม้ สัตว์ สิ่งของ จัดเต็ม! เอามานั่งชี้ให้ลูกดูทีละใบ “นี่แครอทนะลูก” “นี่แมวนะครับ” ลูกก็มองหน้าผมตาแป๋วๆ บางทีก็ยิ้มๆ แต่ถามว่าพูดตามไหม? น้อยมากครับ ส่วนใหญ่จะคว้าบัตรคำไปอม ไปขยำเล่นซะมากกว่า
แล้วก็มีช่วงที่พยายามจะให้ลูกท่อง ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูก โอ้โห อันนี้หนักเลยครับ ลูกไม่เอาด้วยเลย ร้องไห้หนีก็มี ผมเองก็เริ่มจะท้อละ รู้สึกว่า เอ๊ะ หรือเราทำอะไรผิดไปรึเปล่า ทำไมมันไม่เหมือนที่อ่านมาเลยวะ
บางทีก็แอบเครียดนะ เห็นลูกคนอื่นเขาพูดกันคล่องแล้ว ลูกเรายังอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่เลย ก็อดเปรียบเทียบไม่ได้ (ซึ่งไม่ดีเลยนะ อย่าหาทำ)
จุดเปลี่ยน: เมื่อปล่อยวาง แล้วทุกอย่างก็ง่ายขึ้น
จนวันนึงผมเริ่มรู้สึกว่า การพยายามยัดเยียดข้อมูลให้ลูกมันไม่ได้ผลจริงๆ แถมยังทำให้บรรยากาศในบ้านมันตึงเครียดอีกต่างหาก ผมเลยลองเปลี่ยนวิธีใหม่หมดเลยครับ คือ เลิกคาดหวัง เลิกกดดัน แล้วหันมาเน้นการใช้ชีวิตประจำวันให้เป็นธรรมชาติที่สุด
ผมทำอะไรบ้างน่ะเหรอ?

- พูดคุยกับลูกให้เยอะที่สุด: ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม เช่น อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว ผมจะคอยชี้ช
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments