สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยเรื่องการหาหนังสือภาษาอังกฤษให้ลูกครับ ตอนแรกก็คิดหนักเหมือนกันนะ ว่าจะเริ่มยังไงดี ลูกเรายังเล็กๆ อยู่เลย จะอ่านรู้เรื่องไหมเนี่ย

จุดเริ่มต้นของการผจญภัยหาหนังสือ

คือเรื่องมันเริ่มจากที่เราอยากให้ลูกคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษตั้งแต่เนิ่นๆ อะเนอะ ไม่ได้หวังว่าต้องเก่งปร๋ออะไรขนาดนั้น แค่อยากให้เค้าไม่กลัวภาษาใหม่ๆ ก็เลยคิดว่า หนังสือนี่แหละ น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดแล้ว

ภารกิจแรก: ออกสำรวจ!

ผมก็เริ่มจากเดินดุ่มๆ เข้าร้านหนังสือเลยครับ แผนกเด็กนี่โอ้โห…เยอะแยะไปหมด ทั้งแบบไทย แบบอังกฤษ ตอนแรกก็ตาลาย เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ หนังสือภาษาอังกฤษเด็กนี่มันมีหลายแบบมากนะ ทั้งแบบภาพสวยๆ ตัวหนังสือน้อยๆ เหมาะกับเด็กเล็กมากๆ ไปจนถึงแบบที่มีเรื่องราวยาวขึ้นมาหน่อยสำหรับเด็กโต

ขั้นตอนการลองผิดลองถูกของผม

ผมลองหยิบๆ จับๆ ดูหลายเล่มเลยครับ เกณฑ์ที่ผมใช้ตอนนั้นคือ:

• ภาพต้องดึงดูด: เด็กเล็กอะเนอะ เค้าไม่ได้สนเนื้อหาลึกซึ้งอะไรหรอก รูปมันใหญ่ๆ สีสวยๆ สัตว์น่ารักๆ นี่แหละใช่เลย
• คำศัพท์ง่ายๆ: เอาแบบคำสั้นๆ คำซ้ำๆ ที่เราพอจะออกเสียงให้ลูกฟังได้ แล้วเค้าก็พอจะเดาๆ จากรูปได้
• ความทนทาน: อันนี้สำคัญ! เด็กเล็กชอบดึง ชอบอม หนังสือแบบบอร์ดบุ๊ค (Board Book) ที่มันหนาๆ หน่อยจะเหมาะมากครับ ทนไม้ทนมือดี

ตอนแรกลองซื้อมาสองสามเล่ม ก็มีทั้งที่ลูกชอบมอง กับแบบที่ลูกไม่สนใจเลยก็มีนะ ฮ่าๆๆ มันก็ต้องลองกันไป

เทคนิคที่ผมใช้ (แบบบ้านๆ):

พอได้หนังสือมาแล้ว ผมไม่ได้แค่ยื่นให้ลูกดูเฉยๆ นะครับ ผมจะ:

1. อ่านให้ฟัง: ถึงแม้เค้าจะยังไม่เข้าใจความหมายทั้งหมด แต่การได้ยินเสียงเรา ได้เห็นเราชี้ไปที่ภาพ มันช่วยได้เยอะเลย ทำเสียงเล็กเสียงน้อย เสียงสัตว์ต่างๆ นี่ลูกชอบมาก
2. ชี้ชวนให้ดู: “ดูสิ นี่แมวเหมียว” “อันนี้สีแดงนะ” อะไรแบบนี้ ชี้ไปทีละอย่าง ค่อยๆ ให้เค้าซึมซับ
3. ทำให้เป็นกิจวัตร: ผมจะพยายามอ่านให้ฟังทุกวัน อาจจะเป็นช่วงก่อนนอน หรือตอนเล่นกัน สั้นๆ ก็ได้ ไม่ต้องนานมาก ขอแค่สม่ำเสมอ

ผมสังเกตว่าพอทำไปสักพัก เออ ลูกเริ่มชี้ๆ ละ เริ่มมีเสียงอ้อแอ้ๆ เหมือนพยายามจะสื่อสารกับภาพในหนังสือ บางทีก็พูดคำศัพท์ง่ายๆ ตามได้ เช่น “cat” “dog” “ball” อะไรพวกนี้ ดีใจสุดๆ เลยครับ!

สิ่งที่ค้นพบและอยากบอกต่อ

จากการลองผิดลองถูกของผมเนี่ย ผมค้นพบว่า:

• อย่าไปบังคับ: ถ้าลูกไม่อยากดูก็คือไม่ดูครับ อย่าไปยัดเยียด เดี๋ยวเค้าจะเบื่อซะก่อน วันนี้ไม่ดู พรุ่งนี้ค่อยลองใหม่
• ความสนุกสำคัญที่สุด: ทำให้การอ่านหนังสือเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่การเรียน เด็กจะเปิดรับได้ดีกว่า
• หนังสือมือสองก็เป็นตัวเลือกที่ดี: หนังสือเด็กบางทีราคาก็เอาเรื่องอยู่ ผมลองไปดูตามร้านหนังสือมือสอง หรือกลุ่มขายของแม่และเด็ก ก็เจอหนังสือภาษาอังกฤษสภาพดีๆ ราคาถูกเยอะแยะเลยครับ ประหยัดไปได้เยอะ
• ไม่ต้องกลัวว่าสำเนียงเราไม่เป๊ะ: อันนี้ตอนแรกผมก็กังวลนะ แต่คิดไปคิดมา ขอแค่เราสื่อสารกับลูกด้วยความตั้งใจก็พอแล้วครับ ให้เค้าได้คุ้นเคยกับคำศัพท์ก็ยังดี

ผลลัพธ์ที่ได้เห็น:

ตอนนี้ลูกผมก็ยังเล็กอยู่นะครับ แต่เค้าดูชอบเวลาหยิบหนังสือภาษาอังกฤษมาอ่านให้ฟัง เค้าจะชี้ๆ แล้วก็ทำเสียงเหมือนตื่นเต้น ผมว่ามันเป็นการปูพื้นฐานที่ดีเลยนะ อย่างน้อยเค้าก็ได้เห็นว่าภาษาอังกฤษมันไม่ได้น่ากลัว แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราได้

ก็ประมาณนี้แหละครับ ประสบการณ์การเลือกซื้อหนังสือภาษาอังกฤษให้ลูกของผม อาจจะไม่ได้มีหลักการอะไรมากมาย อาศัยลูกทุ่งเข้าว่า ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ แต่ผมว่ามันเวิร์คจริงๆ นะ ใครมีลูกเล็กๆ ลองเอาวิธีของผมไปปรับใช้ดูได้นะครับ ไม่หวงเลย!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ