จุดเริ่มต้นของการตัดสินใจ
สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย กับเรื่องการรับเด็กจบใหม่เข้ามาทำงานในทีม คือตอนแรกๆ นะ ผมก็ลังเลใจเหมือนกันแหละ ว่าเอ๊ะ จะดีเหรอวะ เด็กมันจะไหวไหม ประสบการณ์ก็ไม่มี แถมเราก็งานยุ่งชิบเป๋ง จะมีเวลามาสอนน้องมันหรือเปล่า แต่คิดไปคิดมา มันก็มีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ตัดสินใจลองดูสักตั้ง
เหตุผลหลักๆ เลยนะตอนนั้น:

- อยากได้คนมีไฟ มีพลังงานใหม่ๆ เข้ามาในทีมบ้าง บางทีคนเก่าๆ ก็เริ่มจะหมดไฟกันละ
- งบประมาณจำกัด ฮ่าๆ อันนี้เรื่องจริง เด็กจบใหม่ค่าตัวยังไม่แรงมาก
- อยากปั้นคนเอง สอนในสไตล์ที่เราอยากได้ มันน่าจะง่ายกว่าไปแก้คนที่เคยทำแบบอื่นมาแล้ว
ขั้นตอนการเฟ้นหาและคัดเลือก
พอตัดสินใจได้ปุ๊บ ก็เริ่มเลยครับ ลงประกาศรับสมัคร ตามช่องทางต่างๆ ที่คิดว่าเด็กจบใหม่น่าจะเห็นเยอะๆ รอไม่นานหรอกครับ CV ส่งมาเพียบ โอ้โหตาลายเลยทีเดียว แต่ละคนก็พรีเซนต์ตัวเองมาเต็มที่
ขั้นตอนต่อไปคือ การคัดกรอง CV อันนี้ปวดหัวสุดๆ บางคนเขียนมายาวเป็นเรียงความ บางคนก็สั้นๆ เหมือนไม่ค่อยอยากได้งาน ผมก็จะมองหาคนที่ดูมีแวว มีกิจกรรมระหว่างเรียนที่น่าสนใจ หรือมีโปรเจกต์จบที่มันเกี่ยวข้องกับงานเราบ้าง ไม่ได้คาดหวังว่าต้องเป๊ะ แต่ขอให้เห็นความพยายาม
พอได้ shortlist มาแล้ว ก็ถึงคิว การสัมภาษณ์ ผมชอบสัมภาษณ์แบบสบายๆ นะ ไม่ได้ถามอะไรที่มันวิชาการจ๋าขนาดนั้น อยากดูทัศนคติ ความกระตือรือร้น ความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่า บางคนตอบฉะฉาน บางคนก็ยังเกร็งๆ แต่เราก็พยายามทำให้เค้ารู้สึกผ่อนคลายที่สุด
ช่วงเวลาแห่งการปรับตัวและสอนงาน
ในที่สุดก็ได้น้องคนนึงเข้ามาในทีม ช่วงแรกๆ นะครับ บอกเลยว่า โคตรเหนื่อย ฮ่าๆๆ คือน้องเค้าใหม่จริงๆ ต้องสอนทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานการทำงานในองค์กร ไปจนถึงเทคนิคเฉพาะทางของงานเรา บางทีก็มีท้อนะ สอนไปแล้วลืมบ้าง ทำผิดบ้าง ก็ต้องอดทน ค่อยๆ บอก ค่อยๆ สอนกันไป
ผมใช้วิธีให้งานเล็กๆ น้อยๆ ไปก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อนขึ้น มีพี่เลี้ยงคอยประกบ ถามได้ตลอดเวลา ไม่เข้าใจตรงไหนให้รีบถาม อย่าเก็บไว้คนเดียว สำคัญสุดคือต้องสร้างบรรยากาศที่ทำให้น้องกล้าถาม กล้าแสดงความคิดเห็น
จำได้เลย มีอยู่วันนึง น้องมันนั่งทำหน้างงๆ กับโค้ดที่ผมให้ไปแก้ ผมก็เดินเข้าไปถามว่าเป็นไงบ้าง ติดตรงไหน น้องมันก็อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่กล้าพูด ผมเลยบอกไปตรงๆ ว่า “เฮ้ย ไม่ต้องกลัว ไม่เข้าใจก็ถาม พี่ไม่กัดหรอก ดีกว่าปล่อยให้งงแล้วงานไม่เดินนะ” หลังจากนั้นน้องมันก็เริ่มกล้าถามมากขึ้นเยอะเลย
ผลลัพธ์ที่ได้และความรู้สึก
หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งการปรับตัวและการเรียนรู้อย่างหนักหน่วงไปสักพัก (อาจจะหลายเดือนหน่อย) ผมเริ่มเห็นพัฒนาการของน้องเค้าชัดเจนขึ้นมากๆ เริ่มทำงานได้เอง แก้ปัญหาเองได้บ้างแล้ว ถึงแม้จะยังไม่เก่งเท่ารุ่นพี่ แต่ก็ถือว่ามาไกลจากวันแรกเยอะเลย

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการรับเด็กจบใหม่:
- ความสดใหม่และมุมมองที่แตกต่าง: เด็กจบใหม่มักจะมีไอเดียแปลกๆ ใหม่ๆ ที่เราอาจจะคิดไม่ถึง มันช่วยกระตุ้นทีมได้ดี
- พลังงานและความกระหายที่จะเรียนรู้: ส่วนใหญ่ไฟแรง อยากพิสูจน์ตัวเอง พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
- ความผูกพัน: ถ้าเราปั้นเค้ามากับมือ ดูแลเค้าดีๆ ส่วนใหญ่น้องๆ ก็จะผูกพันกับองค์กรและทีมนะ
- แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเวลาและความอดทน: อันนี้ต้องยอมรับเลยว่าต้องลงทุนลงแรงเยอะในช่วงแรก
สรุปแล้วเนี่ย การรับเด็กจบใหม่มันก็เหมือนการลงทุนระยะยาวนะ มีความเสี่ยงบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่ถ้าเราเลือกคนถูก ปั้นเป็น ผลตอบแทนที่ได้กลับมามันก็คุ้มค่ามากๆ เลยครับ ทั้งในแง่ของงานและในแง่ความรู้สึกส่วนตัวที่ได้เห็นคนๆ นึงเติบโตขึ้นเพราะเราเป็นส่วนหนึ่งในการสอนเค้า สำหรับผมแล้ว ประสบการณ์นี้มันก็สอนอะไรผมเยอะเหมือนกันนะ ทำให้ใจเย็นลง เข้าใจคนอื่นมากขึ้นด้วย ใครที่กำลังลังเลอยู่ ลองเปิดใจดูครับ อาจจะเจอเพชรในตมก็ได้นะ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments