สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ กับการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ผ่านแอปที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ นั่นก็คือ Palfish นั่นเอง เอาแบบบ้านๆ เลยนะ ไม่มีสปอนเซอร์ใดๆ ทั้งสิ้น เล่าจากที่ลองทำมากับตัวเองล้วนๆ
จุดเริ่มต้นของการผจญภัยในโลก Palfish
เรื่องของเรื่องคือช่วงนั้นผมมองหารายได้เสริมอยู่ครับ งานประจำมันก็มีแหละ แต่อยากมีอะไรทำเพิ่มนิดหน่อย บวกกับเป็นคนชอบสอนเด็กๆ อยู่แล้ว เลยลองไปเสิร์ชหาข้อมูลดู ก็ไปเจอเจ้า Palfish นี่แหละ เห็นรีวิวผ่านๆ ตาว่าสอนเด็กจีน ไม่ต้องมีวุฒิครูโดยตรงก็ได้ ขอแค่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีก็พอ เอาล่ะสิ น่าสนใจ! เลยตัดสินใจลองสมัครดู
ขั้นตอนการสมัครก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไรมากนะครับ ผมก็เข้าไปในแอปของเค้าเลย กรอกข้อมูลส่วนตัว อัดคลิปวิดีโอแนะนำตัวเองสั้นๆ โชว์ทักษะการพูดภาษาอังกฤษของเราหน่อย แล้วก็รอ… รอให้เค้าอนุมัติ ตอนนั้นก็ลุ้นๆ อยู่เหมือนกันว่าจะผ่านมั้ย แต่สุดท้ายก็ผ่านฉลุย! ดีใจสุดๆ เตรียมตัวเป็นคุณครูออนไลน์เต็มที่
เปิดประสบการณ์สอนจริงครั้งแรก และเรื่องราวระหว่างทาง
พอได้รับการอนุมัติแล้ว ผมก็เริ่มตั้งค่าโปรไฟล์ตัวเอง ใส่รูปสวยๆ เขียนแนะนำตัวให้น่าสนใจ แล้วก็เริ่มเปิดสล็อตเวลาที่เราสะดวกสอน แรกๆ ก็ยังงงๆ กับระบบนิดหน่อยครับ ว่าต้องทำยังไงนักเรียนถึงจะเห็นเราเยอะๆ ต้องโปรโมทตัวเองยังไง แต่ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไป
คลาสแรกที่ได้สอนตื่นเต้นมาก! เป็นเด็กน้อยชาวจีน น่ารักน่าชัง พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย เราก็ต้องพยายามใช้ท่าทาง ใช้สื่อการสอนในแอปช่วยให้เค้าเข้าใจ สนุกดีครับ มันเหมือนได้เล่นกับเด็กไปด้วย สอนไปด้วย แรกๆ ก็มีติดขัดบ้างตามประสา แต่พอสอนไปหลายๆ คลาสก็เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น
สิ่งที่เจอระหว่างทางสอน Palfish:
- เด็กๆ หลากหลายสไตล์: อันนี้จริงเลยครับ มีทั้งเด็กที่ตั้งใจเรียนมาก เด็กที่ซนสุดๆ เด็กที่ขี้อายไม่กล้าพูด เราก็ต้องปรับวิธีการสอนไปตามแต่ละคน ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งเลย
- ระบบของแอป: ตัวแอปเค้าก็มีบทเรียนสำเร็จรูปมาให้ มีสติกเกอร์ มีเอฟเฟกต์ให้เล่นกับเด็กๆ ก็ช่วยได้เยอะ แต่บางทีสัญญาณอินเทอร์เน็ตฝั่งเราหรือฝั่งนักเรียนไม่ดีนี่ก็เป็นปัญหาเหมือนกันครับ ภาพค้าง เสียงหาย เด็กงอแงก็มี
- เรื่องเวลา: อันนี้สำคัญมาก เพราะเราสอนเด็กจีน เวลาเค้าก็จะเร็วกว่าเรา ชั่วโมงทองในการสอนส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเย็นๆ ถึงค่ำๆ ของบ้านเรา ใครที่ทำงานประจำแล้วอยากมาสอนเสริม ก็ต้องบริหารจัดการเวลาดีๆ ครับ
- การเตรียมตัว: ถึงแม้จะมีบทเรียนให้ แต่ผมก็มักจะดูก่อนสอนทุกครั้งว่าจะสอนเรื่องอะไร มีกิจกรรมอะไรบ้าง เตรียมอุปกรณ์เสริมเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตุ๊กตา หรือบัตรคำ ก็ช่วยให้การสอนน่าสนใจขึ้นเยอะ
ทำไปสักพัก…แล้วเป็นไงต่อ?
ผมทำ Palfish อยู่พักใหญ่เลยครับ ก็สนุกดีนะ ได้ฝึกภาษาตัวเองไปด้วย ได้เจอวัฒนธรรมใหม่ๆ ผ่านการพูดคุยกับเด็กๆ และผู้ปกครอง (บางทีผู้ปกครองก็นั่งเรียนด้วยเลย 555) รายได้ก็ถือว่าโอเคเลยสำหรับงานเสริม ยิ่งถ้าเรามีรีวิวดีๆ มีนักเรียนประจำเยอะๆ รายได้ก็ยิ่งดีขึ้น
แต่…มันก็มีช่วงที่รู้สึกเหนื่อยเหมือนกันครับ บางวันเจอเด็กที่ไม่ให้ความร่วมมือเลย หรือบางทีเราเตรียมสอนมาอย่างดี แต่ระบบมีปัญหา ทำให้สอนได้ไม่เต็มที่ ก็มีท้อบ้างเป็นธรรมดา อีกอย่างคือการแข่งขันก็ค่อนข้างสูง ครูใหม่ๆ ก็เข้ามาเรื่อยๆ เราก็ต้องพยายามแอคทีฟอยู่เสมอ เพื่อให้นักเรียนเห็นและเลือกเรา
ช่วงหลังๆ ผมเริ่มมีภารกิจอย่างอื่นเข้ามาในชีวิตมากขึ้น ทำให้เวลาในการเตรียมตัวสอนและเวลาในการเปิดสล็อตสอนมันน้อยลงไปเรื่อยๆ ประกอบกับเริ่มรู้สึกว่าอยากจะพักผ่อนในช่วงเย็นๆ บ้าง เลยตัดสินใจค่อยๆ ลดชั่วโมงสอนลง จนตอนนี้ก็ไม่ได้สอนเป็นประจำแล้วครับ นานๆ ทีอาจจะมีเข้าไปดูบ้าง หรือถ้ามีนักเรียนเก่าทักมาแล้วเวลาเราได้ ก็อาจจะรับสอนบ้างเป็นครั้งคราว
บทสรุปจากประสบการณ์จริงกับ Palfish
โดยรวมแล้ว ผมว่า Palfish ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ดีนะครับสำหรับคนที่อยากหารายได้เสริม ชอบสอนเด็ก และมีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
ข้อดีที่ผมเห็นชัดๆ คือ:
- ทำงานจากที่บ้านได้ สะดวกสบาย
- เวลาค่อนข้างยืดหยุ่น (แต่ก็ต้องแย่งชิงสล็อตกันบ้าง)
- ได้ฝึกภาษาและพัฒนาทักษะการสอน
- ได้เจอเด็กๆ น่ารักๆ (ส่วนใหญ่นะ 555)
ส่วนข้อที่อาจจะต้องพิจารณาคือ:
- รายได้ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียนและความขยันของเรา
- ต้องใช้พลังงานเยอะในการสอนเด็กเล็ก
- ปัญหาเรื่องเทคนิค สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่อาจจะเกิดขึ้นได้
- การแข่งขันค่อนข้างสูง
สุดท้ายนี้ ถ้าใครกำลังสนใจอยากลองทำ Palfish ผมก็อยากจะบอกว่า ลองดูได้เลยครับ ไม่เสียหายอะไร เตรียมตัวให้พร้อม เตรียมใจให้แข็งแรง มีใจรักในการสอนเด็กจริงๆ ไม่ใช่แค่หวังเงินอย่างเดียว ผมเชื่อว่าคุณจะมีความสุขกับมันได้แน่นอน ขอให้โชคดีกับการเป็นครู Palfish นะครับ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments