มันเริ่มยังไงน่ะเหรอ? ไอ้เรื่องเรียนภาษาอังกฤษในเดือนเดียวเนี่ย
คือเรื่องมันมีอยู่ว่า ผมอ่ะนะ อยากจะลองของว่างั้นเถอะ เห็นโฆษณาตามเน็ตเยอะแยะ “เก่งอังกฤษใน 30 วัน!” อะไรทำนองนี้ ตอนแรกก็คิดในใจ “โม้ป่าววะ” แต่คนมันว่างไงช่วงนั้น บวกกับมีเรื่องให้ต้องใช้ภาษาแบบด่วนจี๋นิดหน่อย เลยแบบ เอ้อ! ลองดูซักตั้งวะ จะหมู่หรือจ่า เดี๋ยวรู้กัน!
วันแรกเลยนะ ผมก็บุกร้านหนังสือเลยจ้า กวาดตำราสอนอังกฤษแบบเร่งรัดมาสองสามเล่ม เปิดยูทูปหาช่องสอนภาษา ดูมันทุกคลิปที่ขึ้นว่า “เรียนเร็ว” “พูดได้ใน X วัน” โหลดแอปฯ สอนภาษามาอีกเพียบ เรียกว่าอะไรที่เขาว่าดี จัดมาหมด ตอนนั้นไฟแรงเฟร่อ คิดในใจ เดือนเดียวเอง ชิลๆ
แล้วทำอะไรบ้างล่ะ? ละเอียดยิบเลยนะ
พอข้อมูลเต็มหัวไปหมด ผมก็เริ่มจับต้นชนปลายไม่ถูกละ เยอะเกิ๊น! เลยต้องมานั่งตั้งสติใหม่ โอเค… เราจะเริ่มจากอะไรดี
- ขั้นแรก: ตั้งเป้าหมายชัดๆ ก่อน คือไม่ได้จะไปสอบโทเฟลอะไรกะเค้าหรอกนะ ผมแค่อยากจะสื่อสารเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันให้ได้ ฟังเขาพูดรู้เรื่อง ตอบโต้ได้บ้าง ไม่ใช่ยืนเอ๋อแดกอย่างเดียว
- ขั้นต่อมา: โยนตำราไวยากรณ์ยากๆ ทิ้งไปก่อนเลย! ใช่ครับ อ่านไม่ผิดหรอก ผมรู้สึกว่าถ้ามัวแต่มานั่งผัน verb ท่อง tense อยู่ ชาติหน้าก็ไม่ได้พูดกันพอดี เลยเน้นจำศัพท์เป็นคำๆ แล้วก็วลีสั้นๆ ที่ใช้บ่อยๆ ก่อน
- ขั้นที่สาม: หาอะไรฟังเยอะๆ อันนี้สำคัญมาก ผมเปิดเพลงสากลฟังทั้งวัน ดูหนังฝรั่งแบบมีซับไทยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นซับอังกฤษ พยายามฟังสำเนียงเขาให้ออก ไม่ต้องเข้าใจทุกคำก็ได้ เอาแค่พอจับใจความได้
- ขั้นที่สี่: พูด พูด พูด! อันนี้แหละตัวยากเลย แรกๆ ก็อายนะ กลัวพูดผิดพูดถูก แต่ผมใช้วิธีพูดกับตัวเองหน้ากระจก พูดคนเดียวในห้องน้ำ พูดตามประโยคในหนัง ในเพลง คือพูดแม่งทุกอย่างที่นึกออก ไม่ต้องสนแกรมมงแกรมมาร์อะไรทั้งนั้น ขอให้กล้าพูดออกไปก่อน
- ขั้นที่ห้า: หาเพื่อนคุย อันนี้ผมโชคดีหน่อย มีเพื่อนที่พอจะพูดอังกฤษได้บ้าง ก็เลยขอให้มันช่วยเป็นคู่ซ้อมให้หน่อย แรกๆ ก็ตะกุกตะกักน่าดู แต่มันก็ช่วยแก้ให้เยอะเลย
- ขั้นสุดท้าย: ทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ผมเปลี่ยนเมนูโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษ อ่านข่าวภาษาอังกฤษง่ายๆ คือพยายามให้ตัวเองได้เจอภาษาอังกฤษตลอดเวลาเท่าที่จะทำได้
ช่วงนั้นนะ ผมใช้เวลาวันละไม่ต่ำกว่า 4-5 ชั่วโมงกับภาษาอังกฤษเลยนะ คือจริงจังมาก กินข้าว อาบน้ำ ก่อนนอน ก็ยังฟัง ยังคิดเป็นภาษาอังกฤษเลย เรียกว่าทุ่มสุดตัว
แล้วผลลัพธ์มันเป็นยังไง? เวิร์คมั้ย?
พอครบเดือนนะ ถามว่าพูดปร๋อเลยไหม? ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกพ่อคุณเอ๊ย! ใครมันจะไปเทพได้ในเดือนเดียวขนาดนั้น แต่… มันดีขึ้นแบบก้าวกระโดดจริงๆ จากที่ฟังไม่รู้เรื่องเลย ก็เริ่มจับใจความได้ จากที่พูดไม่ได้ซักคำ ก็เริ่มตอบโต้เป็นประโยคสั้นๆ ได้ เริ่มมั่นใจขึ้นเยอะ
ไอ้ที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะสื่อสารเรื่องง่ายๆ ได้น่ะ มันทำได้จริงๆ นะ ไปสั่งข้าวกิน ถามทาง หรือคุยเล่นเรื่องทั่วไปกับฝรั่งพอได้อยู่ ไม่ได้ถึงขั้นไปถกปัญหาการเมืองโลกอะไรแบบนั้นหรอก
สรุปเลยนะ การเรียนภาษาอังกฤษใน 1 เดือนน่ะ มัน “พอเป็นไปได้” ถ้าคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ใช่จะเอาให้เก่งเทพ แล้วก็ต้องทุ่มเทเวลาและความพยายามแบบสุดๆ จริงๆ มันไม่ใช่ยาวิเศษที่กินปุ๊บเก่งปั๊บ แต่มันคือการอัดฉีดความรู้และประสบการณ์เข้าไปแบบเข้มข้นสุดๆ สำหรับผม มันคือการจุดประกายให้เห็นว่า เฮ้ย เราก็ทำได้นี่หว่า แล้วมันก็เป็นแรงผลักดันให้ผมอยากเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุดแค่เดือนเดียวนั่นแหละครับ
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments