อ่า พอพูดถึงวันเด็กทีไรนะ ผมก็นึกถึงไอ้คำขวัญวันเด็กทุกทีเลย มันเป็นอะไรที่แบบว่า… อยู่คู่กันมาตลอด
ทุกปีเลยนะ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำประเทศตอนนั้น ก็จะต้องมีคำขวัญใหม่ออกมาเสมอ กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วจริงๆ นะครับ

จำได้เลยสมัยก่อนนู้นนน ก็ต้องพยายามท่องจำกัน บางปีก็ติดหูดี บางปีก็… แหม จะว่าไงดีล่ะ แบบว่า ฟังดูเป็นทางการจ๋าเลย ฮ่าๆ
อย่างตอนปีนู้น ที่ท่านพลเอกประยุทธ์ให้ไว้ จำได้ลางๆ ว่า “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย” อะไรทำนองนี้แหละ ตอนนั้นผมก็คิดในใจนะ เอ้อ ก็ตรงไปตรงมาดี
เค้าก็ว่ากันว่าคำขวัญเนี่ย มีไว้ให้เด็กๆ ได้ยึดเป็นแนวทางปฏิบัติ แล้วก็อีกมุมนึง มันก็เหมือนสะท้อนความคาดหวังของผู้ใหญ่อย่างเราๆ ด้วยแหละ ว่าอยากให้เด็กรุ่นต่อไปเป็นยังไง อยากให้เค้ามีค่านิยมแบบไหนในช่วงเวลานั้นๆ
แล้วผมทำยังไงกับคำขวัญพวกนี้น่ะเหรอ?
ก็ไม่ได้อะไรมากหรอกครับ เวลาคำขวัญใหม่ออกมาแต่ละปี ผมก็ไม่ได้แค่อ่านผ่านๆ นะ
ผมจะใช้เวลาคิดนิดนึงว่า เอ้อ… สารจริงๆ ที่เค้าอยากจะสื่อคืออะไรกันแน่ปีนี้ บางทีมันก็ชัดเจนนะ แต่บางทีก็ต้องแบบ… อ่านระหว่างบรรทัดกันหน่อย (ถ้ามีบรรทัดให้อ่านนะ ฮ่าๆ)
กระบวนการของผมมันก็ง่ายๆ ครับ:
- อันดับแรกเลยคือ ฟังหรืออ่านตัวคำขวัญเต็มๆ ก่อน ให้มันเข้าหัว
- จากนั้นก็ลองแยกดูคำสำคัญแต่ละคำ ว่าเค้าเน้นอะไรเป็นพิเศษ
- แล้วก็คิดต่อ ว่าทำไมปีนี้ถึงเน้นคำเหล่านี้ มันเชื่อมโยงกับสถานการณ์บ้านเมืองหรือเทรนด์อะไรในตอนนั้นรึเปล่า
- สุดท้ายก็ลองสรุปเป็นความเข้าใจของตัวเอง ว่าถ้าเราเป็นเด็ก เราจะเอาไปปรับใช้ยังไงได้บ้าง หรือถ้าเราเป็นผู้ใหญ่ เรากำลังฝากความหวังอะไรไว้กับเด็กๆ ผ่านคำเหล่านี้
มันก็น่าสนใจดีนะ ที่ได้เห็นว่าคำขวัญมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามยุคสมัย บางทีก็เน้นเรื่องระเบียบวินัย บางทีก็เน้นเรื่องความรู้ บางทีก็เน้นเรื่องความสามัคคี เหมือนเป็นหน้าต่างเล็กๆ ที่ทำให้เราเห็นว่าช่วงนั้นๆ ประเทศกำลังให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรอยู่

ก็นั่นแหละครับ บ่นๆ เรื่องคำขวัญวันเด็กไปเรื่อยเปื่อย อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นะ แต่สำหรับผม มันก็เป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจวันเด็กไปแล้วล่ะ ขาดไม่ได้เหมือนกัน
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments