อัปเดต ตาราง สอบ ielts ล่าสุด รู้ผลไว เตรียมตัวสอบได้เลยทันที
อัปเดต ตาราง สอบ ielts ล่าสุด รู้ผลไว เตรียมตัวสอบได้เลยทันที
Share:

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเลยเกี่ยวกับเรื่องการหาตารางสอบ IELTS เนี่ยแหละครับ ผมเชื่อว่าหลายคนพอพูดถึงเรื่องนี้แล้วต้องมีอาการปวดหัวตึ้บๆ กันบ้างแหละน่า สมัยก่อนนู้นนน ตอนที่ผมยังต้องคลุกคลีกับเรื่องพวกนี้ใหม่ๆ นะ โอ๊ยยย บอกเลยว่างงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน จะดูยังไง

ทำความเข้าใจกับตัวเองก่อนเลย

สิ่งแรกที่ผมทำเลยนะ คือตั้งสติก่อนครับ ฮ่าๆๆ ล้อเล่นครับ แต่ก็ส่วนหนึ่งนะ คือผมต้องมานั่งคิดดูก่อนว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไร จะสอบไปทำไม เพราะไอ้เจ้า IELTS เนี่ยมันมีหลายแบบใช่ไหมล่ะ ทั้ง Academic สำหรับไปเรียนต่อ หรือ General Training สำหรับไปทำงานหรือย้ายถิ่นฐาน อันนี้สำคัญมาก เพราะตารางสอบหรือความถี่ในการเปิดสอบมันอาจจะต่างกันนิดหน่อย

อัปเดต ตาราง สอบ ielts ล่าสุด รู้ผลไว เตรียมตัวสอบได้เลยทันที

พอผมรู้แล้วว่าตัวเองต้องสอบแบบไหน ทีนี้ก็เริ่มเห็นภาพลางๆ ละว่าจะต้องไปงมหาข้อมูลที่ไหนต่อ

เริ่มลงมือค้นหาตารางสอบจริงๆ จังๆ

เอาล่ะ หลังจากรู้ประเภทการสอบแล้ว ผมก็เริ่มลุยเลยครับ ขั้นตอนที่ผมทำก็ประมาณนี้:

  • เปิดคอมพิวเตอร์เลยครับ: สมัยนี้มันง่ายนะ ทุกอย่างอยู่ในเน็ตหมดแล้ว ผมก็เข้า Google เลย พิมพ์ไปตรงๆ ว่า “ตารางสอบ IELTS” หรือ “สมัครสอบ IELTS ประเทศไทย” อะไรทำนองนี้แหละครับ
  • เลือกแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ: ปกติแล้ว ที่จัดสอบหลักๆ ในบ้านเราก็จะมีอยู่สองเจ้าใหญ่ๆ ใช่ไหมครับ คือ British Council กับ IDP ผมก็จะพุ่งเป้าไปที่เว็บไซต์ของสองที่นี้เป็นหลักเลย เพราะข้อมูลมันจะตรงและอัปเดตสุดแล้ว
  • ตะลุยเว็บไซต์ศูนย์สอบ: พอเข้าไปในเว็บของเค้าแล้วเนี่ย ผมก็จะมองหาเมนูหรือปุ่มที่เขียนว่า “จองสอบ IELTS” “ค้นหารอบสอบ” “สมัครสอบ” หรืออะไรที่มันสื่อความหมายประมาณนี้แหละครับ บางทีมันก็ไม่ได้เด่นหรานะ ต้องค่อยๆ ไล่ดูนิดนึง
  • กรอกข้อมูลเบื้องต้น: พอเจอปุ๊บ ส่วนใหญ่เค้าก็จะให้เราเลือกก่อนเลยว่าจะสอบที่เมืองไหน (กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ฯลฯ) แล้วก็เลือกประเภทการสอบที่เราต้องการ (Academic หรือ General Training ที่เราดูไว้ตอนแรกนั่นแหละ) บางทีก็ให้เลือกเดือนที่อยากสอบด้วย
  • ดูตารางที่แสดงผล: พอกรอกข้อมูลครบปุ๊บ ระบบมันก็จะแสดงตารางวันที่ว่างขึ้นมาให้เราเลือกเลยครับ ตรงนี้แหละที่เราจะได้เห็นว่าวันไหนมีรอบเช้า รอบบ่าย หรือบางทีรอบ Speaking อาจจะสอบคนละวันกับรอบเขียน อ่าน ฟัง ก็มีนะ ต้องดูรายละเอียดดีๆ เลย

ช่วงที่ผมหาข้อมูลนี่นะ บางทีเจอว่ารอบที่อยากได้เต็มแล้วก็มีครับ ก็ต้องลองเปลี่ยนวัน หรือเปลี่ยนศูนย์สอบดูบ้าง บางทีศูนย์สอบที่คนไม่ค่อยนิยมไปอาจจะมีที่ว่างเหลืออยู่ก็ได้

สิ่งที่ผมเจอและอยากจะเน้นย้ำ

จากประสบการณ์ที่ผมลองผิดลองถูกมานะครับ มี 몇 가지เรื่องที่อยากจะบอกต่อ:

  • วางแผนเนิ่นๆ: อันนี้สำคัญมาก! อย่าคิดว่าจะไปจองอาทิตย์สองอาทิตย์ก่อนสอบนะครับ โดยเฉพาะช่วงที่คนสอบเยอะๆ นี่เต็มเร็วมากจริงๆ ผมเคยพลาดมาแล้ว ต้องรอนานเลยกว่าจะได้สอบ
  • เช็คทั้งสองเจ้า: ลองดูตารางของทั้ง British Council และ IDP เลยครับ บางทีวันเดียวกัน ที่นึงเต็ม อีกที่นึงอาจจะยังว่างก็ได้ หรือรอบเวลาอาจจะเหมาะกับเรามากกว่า
  • เตรียมเอกสารให้พร้อม: ก่อนจะกดจองจริงๆ ลองดูด้วยว่าเค้าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง เช่น เลขพาสปอร์ต บัตรประชาชน จะได้เตรียมไว้ให้พร้อม ไม่ต้องเสียเวลาหากลางคัน
  • ดูเรื่องค่าใช้จ่ายและวิธีการชำระเงิน: แต่ละที่อาจจะมีช่องทางการจ่ายเงินต่างกัน เช็คให้ดีว่าเราสะดวกแบบไหน บัตรเครดิต หรือโอนเงิน

สรุปแล้ว การหาตารางสอบ IELTS มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกครับ แค่เราต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำตามขั้นตอนไปทีละสเต็ป เดี๋ยวก็เจอวันที่ใช่ รอบที่ชอบเองแหละน่า สมัยผมตอนแรกก็มึนๆ งงๆ เหมือนกัน อาศัยถามเพื่อนบ้าง อ่านรีวิวบ้าง ลองกดเข้าไปดูเองบ้าง สุดท้ายก็ผ่านมาได้ด้วยดีครับ

หวังว่าประสบการณ์ที่ผมเอามาแชร์วันนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS กันอยู่นะครับ สู้ๆ ครับทุกคน!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน
ช่องทางการติดต่อที่ต้องการ
คุณต้องการให้เราติดต่อคุณอย่างไร?