สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์ตรงๆ ของผมกับเส้นทางการสอบ IELTS นะครับ โดยเฉพาะเรื่องการตั้งเป้า “ielts ระดับ” ที่เราอยากได้ แล้วก็พยายามตะเกียกตะกายไปให้ถึงมันให้ได้
เรื่องมันเริ่มจากตอนนั้นผมมีความจำเป็นต้องใช้คะแนน IELTS เพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศครับ ตอนแรกเลยนะ ภาษาอังกฤษผมก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากมาย เรียกว่าพื้นๆ กลางๆ พอสื่อสารได้ แต่แกรมม่งแกรมมาร์นี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ฮ่าๆ พอรู้ว่าต้องสอบ IELTS เท่านั้นแหละ เครียดเลยครับ เพราะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาว่ามันหินพอตัวเลย
ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญ คือการตั้งเป้า “ielts ระดับ” ที่เราต้องการ ตอนนั้นผมดู requirement ของมหาวิทยาลัยที่อยากไป เขาต้องการโดยรวมไม่ต่ำกว่า 6.5 แล้วแต่ละพาร์ทต้องไม่ต่ำกว่า 6.0 โอ้โห ตอนเห็นตัวเลขนี่แทบจะเป็นลม คือมันดูสูงมากสำหรับคนอย่างผมในตอนนั้น แต่เอาวะ! ในเมื่ออยากไป ก็ต้องทำให้ได้สิ ผมก็เลยปักธงไว้ที่ Overall 7.0 ไปเลย เผื่อเหลือเผื่อขาด ตั้งเป้าให้สูงไว้ก่อน
พอมีเป้าหมายชัดเจนแล้ว ก็เริ่มลงมือเตรียมตัวครับ ขั้นตอนนี้นานอยู่เหมือนกัน ผมเริ่มจากการหาข้อมูลก่อนเลยว่าจะเตรียมตัวยังไงดี อ่านเองดีไหม หรือไปลงคอร์สเรียน สรุปคือผมเลือกที่จะลองอ่านเองก่อนในช่วงแรก เพราะอยากจะลองดูว่าไหวไหม ก็ไปซื้อหนังสือเตรียมสอบ IELTS มาหลายเล่มเลยครับ ทั้งของ Cambridge เอง ทั้งที่เป็นเทคนิคต่างๆ
มาลงรายละเอียดแต่ละทักษะกันบ้างนะ
การฟัง (Listening) นี่ตอนแรกๆ ผมฟังไม่ทันเลยครับ พูดอะไรกันวะเร็วชิบเป๋ง สำเนียงก็หลากหลายมาก ทั้งบริติช ออสซี่ ผมใช้วิธีฝึกฟังจากข้อสอบเก่าๆ ซ้ำๆ เปิด script ดูศัพท์ที่ไม่รู้ แล้วก็พยายามจับ keyword ให้ได้ หลังๆ ก็เริ่มชินหูขึ้น เริ่มจับใจความได้มากขึ้นเยอะเลยครับ จากที่เคยเดามั่วซั่วก็เริ่มฟังรู้เรื่องขึ้นเยอะ
การอ่าน (Reading) อันนี้ก็เป็นอีกพาร์ทที่ผมว่ายาก เพราะบทความมันยาวมากกก แล้วศัพท์ก็เฉพาะทางเยอะ อ่านไปตาลายไป เทคนิคที่ผมใช้คือพยายามอ่านคำถามก่อน แล้วค่อยกลับไปหาคำตอบในบทความ ฝึกทำเยอะๆ จับเวลาเหมือนสอบจริง มันช่วยให้เราบริหารเวลาได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ จากตอนแรกอ่านไม่เคยทันเวลา ก็เริ่มทำทันแบบเฉียดฉิว
การเขียน (Writing) โอ้โห อันนี้คือที่สุดของความทรมานสำหรับผมเลย Task 1 ที่ต้องอธิบายกราฟ ตาราง แผนภาพต่างๆ นี่ก็งงแล้วนะว่าจะเริ่มยังไงให้มันดูดีมีโครงสร้าง Task 2 ที่ต้องเขียน essay แสดงความคิดเห็นนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย สมองตันมาก ผมพยายามอ่านตัวอย่างเยอะๆ ดูว่าเขาเขียนกันยังไง มีโครงสร้างแบบไหน แล้วก็ลองหัดเขียนทุกวันครับ แรกๆ เขียนออกมาเหมือนเด็กประถมเลย ฮ่าๆๆ ผมโชคดีหน่อยที่มีเพื่อนที่เก่งภาษาอังกฤษช่วยตรวจให้บ้าง ก็ได้คำแนะนำดีๆ เยอะเลยครับ จุดนี้สำคัญมากนะ ถ้ามีคนช่วยดูงานเขียนเราได้จะดีมาก
การพูด (Speaking) พาร์ทนี้ผมไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ เพราะพอจะพูดได้บ้าง แต่ก็ต้องฝึกให้มันคล่องขึ้น ให้ตอบได้ตรงประเด็น แล้วก็ใช้ศัพท์ที่มันดูดีขึ้นหน่อย ผมใช้วิธีอัดเสียงตัวเองพูดครับ ฟังแล้วมันจะรู้เลยว่าเราพูดติดขัดตรงไหน ออกเสียงเพี้ยนหรือเปล่า แล้วก็พยายามหาหัวข้อมาพูดคนเดียว หรือถ้ามีเพื่อนก็ชวนเพื่อนคุยเป็นภาษาอังกฤษไปเลยครับ ช่วยได้เยอะจริงๆ

ช่วงที่เตรียมตัวนี่มันมีท้อบ้างนะครับ ผมจำได้เลยว่ามีช่วงนึงทำข้อสอบเก่าๆ แล้วคะแนนมันไม่ขยับขึ้นเลย ท้อมาก อยากจะเลิก แต่ก็คิดถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ คิดถึง “ielts ระดับ” ที่เราอยากได้ ก็เลยฮึดสู้ต่อ พยายามหาจุดที่ตัวเองพลาดแล้วแก้ไขมันไปเรื่อยๆ
พอถึงวันสอบจริงนี่ตื่นเต้นสุดๆ ครับ มือไม้เย็นไปหมด พยายามทำสมาธิ ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราเตรียมตัวมา ตอนสอบพูดนี่ขาสั่นเลยครับ ฮ่าๆ แต่ก็พยายามยิ้มสู้ พูดให้เป็นธรรมชาติที่สุด
แล้วผลสอบก็ออกมา… ตอนนั้นลุ้นมากครับ เปิดดูผลด้วยใจที่เต้นรัวๆ ปรากฏว่าผมทำได้! ได้ Overall 7.0 ตามเป้าที่ตั้งไว้เลย ดีใจจนน้ำตาแทบไหล มันเป็นความรู้สึกที่คุ้มค่ากับความพยายามมากๆ ครับ ถึงแม้บางพาร์ทอาจจะไม่ได้สูงอย่างที่คิดไว้เป๊ะๆ แต่โดยรวมคือพอใจมาก
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์ครั้งนี้มันมากกว่าแค่คะแนน “ielts ระดับ” ที่ต้องการนะครับ มันคือเรื่องของวินัยในตัวเอง ความอดทน การวางแผน และการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค มันทำให้ผมรู้ว่าถ้าเราตั้งใจจริง ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หรอกครับ
ถ้าจะให้แนะนำเพื่อนๆ หรือน้องๆ ที่กำลังจะเดินทางสายนี้เหมือนกันนะครับ ผมว่าสิ่งสำคัญคือ
- ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน: ว่าอยากได้ “ielts ระดับ” เท่าไหร่ เพราะอะไร มันจะเป็นแรงผลักดันที่ดีมาก
- วางแผนการเตรียมตัว: ดูว่าเรามีเวลาเท่าไหร่ จะอ่านเอง หรือจะเรียนพิเศษ แล้วจัดตารางให้ตัวเอง
- ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ: อย่าทำๆ หยุดๆ วินัยสำคัญมากครับ วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย
- อย่าท้อถอย: มันจะมีช่วงที่รู้สึกแย่ รู้สึกว่าไม่ไหวแน่ๆ แต่อยากให้กัดฟันสู้ต่อครับ
- หาคนช่วย: ถ้าเป็นไปได้ หาเพื่อนติว หรือหาคนช่วยตรวจงานเขียน มันช่วยได้เยอะจริงๆ
ก็ประมาณนี้แหละครับ เรื่องราวการตะลุย IELTS เพื่อให้ได้ “ielts ระดับ” ที่ตั้งใจไว้ของผม หวังว่าประสบการณ์ตรงนี้ของผมจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆ คนที่กำลังเตรียมตัวอยู่นะครับ สู้ๆ ครับทุกคน!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments