สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเองเลย กับเรื่องที่หลายคนน่าจะสงสัยอยู่เหมือนกัน นั่นคือ ราคา palfish หรือเรทค่าสอนของแอปนี้มันเป็นยังไงกันแน่ คือผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่อยากหารายได้เสริม แล้วก็พอจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง เลยลองศึกษาดูว่าการสอนออนไลน์มันเวิร์คไหม

เริ่มจากศูนย์เลยนะ ไม่รู้อะไรเลย

ตอนแรกสุดเลยนะ ผมก็ได้ยินชื่อ PalFish มาบ้างจากเพื่อนๆ ที่เคยทำ หรือไม่ก็เห็นผ่านๆ ในเน็ต ก็คิดในใจว่า “เออ น่าสนใจดีแฮะ สอนภาษาอังกฤษเด็กๆ คงไม่ยากมั้ง” แต่คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเลยคือ “แล้วมันได้เงินเท่าไหร่ล่ะ?” นี่แหละจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของผม

ผมก็เริ่มจากอะไรง่ายๆ เลยครับ เข้า Google พิมพ์ไปตรงๆ เลย “ราคา palfish”, “palfish rate”, “palfish teacher salary” อะไรทำนองนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็มีเยอะแยะมากมาย ทั้งที่เป็นข้อมูลจากเว็บต่างประเทศบ้าง จากคนไทยที่รีวิวไว้บ้าง อ่านไปก็เริ่มมึนๆ เพราะข้อมูลมันไม่ตรงกันเป๊ะๆ สักเท่าไหร่

ขุดคุ้ยข้อมูลจากหลายแหล่ง

ผมก็เลยลองเปลี่ยนวิธีใหม่ เริ่มเข้าไปดูในกลุ่มเฟซบุ๊กของคนที่สอน PalFish หรือกลุ่มคนที่สนใจสอนออนไลน์ต่างๆ ในนั้นก็จะมีคนมาแชร์ประสบการณ์กันเยอะมาก ผมก็ค่อยๆ ไล่อ่านทีละโพสต์ ทีละคอมเมนต์ บางคนก็บอกว่าได้เยอะ บางคนก็บอกว่าไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่

สิ่งที่ผมเริ่มจับทางได้คือ palfish มันมีหลายโปรแกรม หลักๆ ที่คนพูดถึงกันเยอะก็จะมี:

• Official Kids Course (OKC): อันนี้เหมือนเป็นคอร์สหลักของเขาเลย มีบทเรียนมาให้พร้อม เราแค่สอนตามนั้น กลุ่มเป้าหมายก็เป็นเด็กๆ ชาวจีน เรทตรงนี้แหละที่หลายคนเล็งๆ กัน
• Free Talk: อันนี้จะอิสระกว่า เหมือนเราเปิดรับสาย ใครอยากคุยด้วยก็โทรมา เรทก็จะแตกต่างกันไปอีก

ผมก็เริ่มสนใจตัว OKC มากขึ้น เพราะดูมีระบบระเบียบดี แล้วก็เหมือนจะมีคนทำเยอะกว่า ผมก็พยายามหาข้อมูลต่อว่าแล้วไอ้ OKC เนี่ย มันคิดเรทกันยังไง

ปัจจัยที่มีผลต่อราคา Palfish

จากการที่ไปสืบเสาะมา พบว่าเรทค่าสอนของ PalFish โดยเฉพาะ OKC เนี่ย มันไม่ได้มีตัวเลขเดียวเป๊ะๆ แต่มันขึ้นอยู่กับหลายอย่างมากๆ ครับ:

• ประสบการณ์สอน: ถ้าเรามีประสบการณ์สอนมาก่อน โดยเฉพาะสอนเด็ก หรือสอนออนไลน์ ก็อาจจะได้เรทเริ่มต้นที่ดีกว่า
• ใบเซอร์ต่างๆ: พวก TEFL, TESOL อะไรพวกนี้ ถ้ามีก็เป็นใบเบิกทางที่ดี ช่วยอัพโปรไฟล์เราได้
• ระดับ (Level) ของครูในระบบ: พอเราเริ่มสอนไปเรื่อยๆ จะมีการสะสมแต้ม มีการประเมิน ถ้าทำได้ดี เลเวลเราก็จะสูงขึ้น เรทก็อาจจะมีการปรับขึ้นตามไปด้วย
• การทำตามเงื่อนไข: บางทีก็จะมีโบนัสพิเศษ ถ้าเราเปิดสอนตามจำนวนชั่วโมงที่เขากำหนด หรือรักษาคะแนนรีวิวดีๆ ไว้ได้

ผมก็เลยลองคิดดูว่าถ้าเป็นตัวเอง ด้วยโปรไฟล์ที่เรามีตอนนั้น (ยังไม่มีประสบการณ์สอนจริงจัง ไม่มีใบเซอร์เฉพาะทาง) ก็น่าจะได้เรทเริ่มต้นแบบมาตรฐานทั่วไป ซึ่งจากการสอบถามคนที่ทำอยู่หลายๆ คน ก็พอจะประเมินคร่าวๆ ได้ว่ามันอยู่ช่วงไหน แต่ผมขอไม่บอกเป็นตัวเลขเป๊ะๆ นะครับ เพราะมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอด แล้วก็ขึ้นกับแต่ละคนจริงๆ

ลองสมัครดู ถึงได้รู้จริง

สุดท้ายแล้ว ผมคิดว่าการอ่านรีวิวอย่างเดียวมันไม่เห็นภาพเท่าลองเอง ผมก็เลยตัดสินใจลองสมัคร PalFish ดูเลยครับ! กรอกข้อมูล อัดวิดีโอแนะนำตัว ทำเดโม่สอนตามที่เขากำหนด ตอนนั้นก็ลุ้นๆ อยู่เหมือนกันว่าจะผ่านไหม

พอผ่านการคัดเลือกแล้วเนี่ย เขาก็จะแจ้งเรทเริ่มต้นของเรามาให้เลย ตอนนั้นแหละที่เราจะได้เห็นตัวเลขจริงๆ ว่าโปรไฟล์แบบเรา เขาให้เท่าไหร่ ซึ่งมันก็อยู่ในช่วงที่ผมคาดการณ์ไว้จากการหาข้อมูลมานั่นแหละครับ

จากนั้นผมก็ลองเปิดสอนดูจริงๆ จังๆ เลย ก็ได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะ ทั้งเรื่องการเตรียมตัว การรับมือกับเด็กๆ การบริหารเวลา ซึ่งทั้งหมดนี้มันก็ส่งผลต่อรายได้ของเราทั้งนั้น ถ้าเราทำได้ดี มีนักเรียนจองเยอะ เราก็มีโอกาสได้เงินเยอะขึ้น

สรุปจากประสบการณ์ตรง

ถ้าจะให้สรุปเรื่อง ราคา palfish จากที่ผมได้ลองมาด้วยตัวเองนะครับ คือมันไม่มีตัวเลขตายตัวจริงๆ ครับ มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างยืดหยุ่นมากๆ ขึ้นอยู่กับตัวเราเองเป็นหลักเลยว่าเรามีคุณสมบัติอะไรบ้าง เราทุ่มเทกับมันแค่ไหน แล้วก็ต้องเข้าใจด้วยว่ามันมีการแข่งขันกันพอสมควร

สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำสำหรับคนที่สนใจคือ:

1. ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น: ลองหาอ่านรีวิว ดูคลิปต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพรวม
2. ประเมินตัวเอง: ดูว่าเรามีจุดแข็งอะไรบ้าง ภาษาอังกฤษเราเป๊ะไหม มีใบเซอร์หรือเปล่า
3. ลองสมัครเลย: ถ้าคิดว่าน่าสนใจ ก็ลองสมัครดูครับ ไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยก็ได้รู้เรทของตัวเอง
4. พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ: พอได้เริ่มสอนแล้ว ก็พยายามพัฒนาทักษะการสอนของตัวเองอยู่เรื่อยๆ ครับ

หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาข้อมูลเรื่องนี้นะครับ สุดท้ายแล้ว การลงมือทำจริงนี่แหละครับที่จะให้คำตอบเราได้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนโชคดีครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ