เริ่มเรียนภาษาอังกฤษจากศูนย์ควรเริ่มตรงไหน รู้จัก 3 วิธีเลือกเรียนให้เห็นผลเร็ว
Share:

การเริ่มเรียนภาษาอังกฤษจากพื้นฐานศูนย์เป็นขั้นตอนที่ต้องวางแผนให้ดี โดยควรเน้นการสร้างรากฐานที่แข็งแรงที่สุดก่อน ตามด้วยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง มีกลยุทธ์หลัก 3 ประการที่ช่วยให้เห็นผลเร็วและยั่งยืน:

1. เริ่มจากเสียงและพื้นฐานการออกเสียงให้มั่นใจ (Pronunciation First)

การเริ่มเรียนภาษาอังกฤษต้องให้ความสำคัญกับการออกเสียงและฟังเป็นอันดับแรก เพราะเป็นประตูสู่การพูดและการฟังที่ถูกต้อง

  • เรียนรู้อักษรและเสียง : ฝึกออกเสียงตัวอักษรภาษาอังกฤษ (A-Z) รวมถึงเสียงสระ สระประสม และพยัญชนะที่อาจไม่มีในภาษาไทย (เช่น v, th, z, sh, r) ให้ถูกต้อง
  • ฝึกฟังและเลียนแบบ : เริ่มจากคำศัพท์ง่ายๆ และประโยคสั้นๆ ในสถานการณ์ประจำวัน ฟังซ้ำๆ และพูดตามออกเสียงให้เหมือนที่สุด สำเนียงไม่ต้องเป๊ะแต่ขอให้ชัดเจนและเข้าใจได้
  • ใช้เครื่องมือช่วย : พจนานุกรมออนไลน์ที่มีเสียงอ่าน, แอปฝึกฟังและพูดตาม, หรือคลิปการสอนการออกเสียงแบบพื้นฐาน (เริ่มที่ความเร็วช้าก่อน)

2. สะสมคำศัพท์และโครงสร้างประโยคง่ายๆ ใกล้ตัว (Vocabulary & Core Structures)

ไม่จำเป็นต้องท่องศัพท์ยากหลายพันคำตั้งแต่เริ่ม ให้นึกถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวและชีวิตประจำวันก่อน

  • กลุ่มคำศัพท์สำคัญ : เริ่มจากกลุ่มคำเหล่านี้เป็นลำดับแรก
    • คำทักทายพื้นฐาน (Hello, Hi, Goodbye, Thank you, Sorry)
    • ตัวเลข (1-100), วันในสัปดาห์, เดือน, สี, อาชีพพื้นฐาน
    • ชื่อสิ่งของในบ้าน, อาหาร, เครื่องดื่ม, อวัยวะร่างกาย
    • คำกริยาพื้นฐานที่ใช้บ่อย (is, am, are, have, eat, drink, go, see, like, want)
  • โครงสร้างประโยคแกนกลาง : เรียนรู้การใช้ To Be (is, am, are), Present Simple Tense ในประโยคบอกเล่า/ปฏิเสธ/คำถามง่ายๆ เช่น “I am…”, “You are…”, “He is…”, “I like…”, “I don’t like…”, “Do you…?”. เน้นให้เข้าใจก่อน แล้วค่อยเพิ่มความซับซ้อนทีหลัง
  • เรียนรู้เป็นชุด (Chunks) : จำคำศัพท์ที่มักอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มหรือวลีสั้นๆ เช่น “Good morning”, “How are you?”, “I’m fine, thank you.”, “My name is…”, “What is this?”, “Can I have…?”

3. ฝึกใช้ภาษาแบบโต้ตอบ/ตัวต่อตัวผ่านช่องทางที่เข้าถึงง่าย (Interactive Practice)

หัวใจสำคัญที่ทำให้ภาษาไม่ใช่แค่ท่องจำ แต่นำไปใช้จริงได้ ต้องมีการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ

  • พูดทุกวันแม้กับตัวเอง : พยายามใช้คำศัพท์หรือประโยคง่ายๆ ที่เรียนมา แม้จะเป็นการพูดกับตัวเองในกระจก เพื่ออธิบายสิ่งที่กำลังทำอยู่ก็ตาม เช่น “I am eating.”, “This is a book.”, “I like coffee.”
  • ใช้เทคโนโลยี : ใช้แอปพลิเคชันสอนภาษาที่มีฟังก์ชันฝึกการฟังและพูดโต้ตอบ ไม่จำเป็นต้องเสียเงินมาก เน้นที่การฝึกใช้จริงบ่อยๆ
  • เรียนกับครูผู้สอนโดยตรง (Highly Recommended): นี่คือวิธีที่เร็วที่สุดในการแก้ไขจุดบกพร่องเฉพาะตัวและสร้างความมั่นใจโดยเฉพาะการพูด การหาคอร์สออนไลน์ที่เรียนแบบตัวต่อตัว (1:1) จากครูเจ้าของภาษา หรือครูฟิลิปปินส์ที่สื่อสารเก่ง จะช่วยให้คุณฝึกพูดได้ทันที ภายใต้การแนะนำที่ถูกต้อง ซึ่งทำให้คุ้มค่ามาก และที่สำคัญคือครูสามารถปรับการสอนให้เหมาะกับความเร็วในการเรียนรู้ของคุณเองได้ 51Talk Thailand ก็เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มชั้นนำที่นำเสนอการเรียนรู้แบบตัวต่อตัวได้อย่างสะดวกและยืดหยุ่น คุณสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาทำให้ผู้เริ่มต้นอย่างคุณสานต่อความมุ่งมั่นได้อย่างไม่สะดุด

ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ ใช้เวลาเพียง 15-30 นาทีต่อวันแต่ทำทุกวัน จะได้ผลดีกว่าการเรียนแบบหักโหมนานๆ แต่ไม่สม่ำเสมอ ยิ่งได้ฝึกใช้งานจริง ทั้งการฟังและการพูด ผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนกับครูในรูปแบบตัวต่อตัวแบบที่ 51Talk Thailand ให้บริการ ก็จะยิ่งช่วยให้คุณเริ่มพูดคุยได้เร็วขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ไม่กดดัน พร้อมรับ Feedback ทันที และให้คุณได้เรียนที่สาขาของบริษัทหรือบ้านพักโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงในการเรียนเริ่มต้น

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน