ในโลกที่การสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องเปรียบเสมือนกุญแจสำคัญสู่โอกาสมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน การทำงาน หรือการเดินทาง การลงทุนพัฒนาทักษะนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนไทยจำนวนมาก ซึ่งหลายคนประสบกับปัญหาความกังวลใจว่าจะเรียนยังไงให้เห็นผลเร็ว คุ้มค่า และใช้ได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงคอร์สเรียนที่ราคาสูงลิบแต่กลับใช้เวลาเรียนนาน

ตอบโจทย์ความต้องการ ด้วยวิธีเรียนที่ยืดหยุ่นและเป็นส่วนตัว

การเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว (One-on-One) ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว โดยผู้เรียนไม่ต้องกังวลว่าจะตามเพื่อนไม่ทันหรือต้องอายเวลาทำผิด ครูผู้สอนสามารถโฟกัสและแก้ไขจุดบกพร่องของผู้เรียนได้อย่างเต็มที่ ครูจะปรับเปลี่ยนวิธีการสอน ความเร็ว รวมถึงเนื้อหาให้สอดคล้องกับพื้นฐาน ความสนใจ และเป้าหมายเฉพาะตัวของผู้เรียนแต่ละคนเป็นรายบุคคล

หลายสถาบันหรือบริการสอนพิเศษตัวต่อตัวในปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะการสื่อสารเป็นหลัก มุ่งเน้นให้ผู้เรียนกล้าพูด กล้าใช้ภาษาในสถานการณ์ต่างๆ ผ่านกิจกรรมและการพูดคุยแบบสองทางระหว่างครูและผู้เรียน ต่างจากการเรียนกลุ่มใหญ่ที่อาจเน้นท่องจำหรือมีโอกาสฝึกพูดได้จำกัด

ราคาไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป พบกันได้เลยตามความสะดวก

คำถามเรื่องราคามักติดอยู่ในใจผู้เรียนเสมอ ปัจจุบันพบว่าค่าเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวมีช่วงราคาที่หลากหลายมากขึ้น และเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก หลายแห่งมีค่าเรียนที่ไม่สูงกว่าการเรียนกลุ่ม หรือมีคอร์สระยะสั้นที่สามารถลงทะเบียนได้ตามงบประมาณ โดยมีการกำหนดเป้าหมายการเรียนที่ชัดเจน ไม่ต้องลงยาวหลายเดือนโดยไม่รู้แนวทางว่าจะไปถึงไหน

นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นด้านเวลาและสถานที่ก็เป็นข้อดีเด่น โดยผู้เรียนและครูผู้สอนสามารถนัดวันเวลาเรียนที่สะดวกร่วมกันได้ บางที่อาจนัดเรียนออนไลน์ทางแพลตฟอร์มวิดีโอคอลที่คุ้นเคย ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินทางได้อย่างมาก

ตั้งเป้า 3 เดือน พูดได้จริง? ปัจจัยสู่ความสำเร็จ

การโฆษณาที่บอกว่าเรียนแค่ 3 เดือนแล้ว ‘พูดได้’ อาจเป็นคำถามสำหรับหลายคน ความสำเร็จในระยะเวลาเท่านี้ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่

• พื้นฐานเดิมของผู้เรียน: ผู้ที่มีพื้นฐานอยู่บ้างย่อมสามารถต่อยอดได้เร็วกว่าผู้ที่เริ่มต้นจากศูนย์
• ความสม่ำเสมอและความตั้งใจ: การเรียนตามชั่วโมงที่ตกลง และการทบทวนหรือฝึกฝนด้วยตนเองหลังชั่วโมงเรียนสม่ำเสมอ มีผลโดยตรงต่อความคืบหน้า
• คุณภาพครูผู้สอน: ครูที่มีประสบการณ์เข้าใจธรรมชาติของผู้เรียน และสามารถออกแบบการสอนที่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ได้ดีกว่า
• การนำไปใช้: ความเข้มข้นในการฝึกจริง นอกเหนือจากชั่วโมงเรียน เช่น การฝึกฟัง พูดคุย ดูหนัง ฟังเพลงภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
• ความคาดหวังที่ชัดเจน: การกำหนดเป้าหมายในการ ‘พูดได้’ ที่เป็นรูปธรรม เช่น สามารถสั่งอาหาร ซื้อของ ถามทาง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อที่สนใจได้อย่างคล่องแคล่ว

การเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวซึ่งให้ครูดูแลอย่างใกล้ชิดนับว่ามีส่วนช่วยเร่งกระบวนการเรียนรู้ และช่วยให้ผู้เรียนเห็นพัฒนาการของตนเองอย่างชัดเจนในแต่ละสัปดาห์ เมื่อเรียนอย่างเต็มที่สม่ำเสมอ และฝึกฝนอย่างจริงจังตลอดทั้ง 3 เดือน ผู้เรียนส่วนใหญ่จะสามารถสื่อสารในสถานการณ์ที่คุ้นเคยได้อย่างคล่องแคล่วตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ การได้ใช้ภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในห้องเรียนจนถึงชีวิตจริงคือหัวใจของการพัฒนา

การมองหาสถาบันหรือบริการที่ให้คุณค่าทั้งในด้านเนื้อหา วิธีการสอน ราคาที่สมเหตุผล และมีครูที่มีคุณภาพ ตลอดจนการให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้เรียน ถือเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดต่อทักษะที่เป็นประโยชน์ตลอดชีวิต ผู้ที่สนใจจึงควรศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูลให้รอบด้าน เพื่อค้นหาวิธีการเรียนที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับตนมากที่สุด

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ