การไปเรียนภาษาอังกฤษในต่างประเทศเป็นโอกาสที่ดีที่จะพัฒนาทักษะทางภาษาและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แต่การเลือกสถาบันให้เหมาะกับความต้องการของตนเองอาจเป็นเรื่องท้าทาย

กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ให้ชัดเจน

ก่อนเริ่มมองหาสถาบัน การถามตัวเองว่าต้องการอะไรจากการเรียนเป็นสิ่งแรกสุด วัตถุประสงค์หลักคืออะไร? เช่น ปรับปรุงภาษาอังกฤษทั่วไปเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน, เตรียมตัวสำหรับการสอบ IELTS/TOEFL เพื่อศึกษาต่อ, หรือพัฒนาเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจโดยเฉพาะ? การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยกรองตัวเลือกที่ตรงกับความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

มองหาสถาบันที่มีการรับรองคุณภาพ

การเลือกรูปแบบสถาบันที่มีการรับรอง (Accreditation) จากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งรับรองได้ว่ามีคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นสาขาที่ไหนก็ตาม สิ่งนี้บ่งบอกถึงมาตรฐานหลักสูตร ความสามารถของครูผู้สอน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการประเมิน

พิจารณาตำแหน่งที่ตั้งและสิ่งแวดล้อม

ประเทศและเมืองที่สถาบันตั้งอยู่มีความสำคัญเพียงใด ควรเลือกสาขาที่ตั้งอยู่ในเมืองหรือประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก หรือตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและกิจกรรมให้ทำนอกห้องเรียน สิ่งแวดล้อมส่งผลต่อประสบการณ์การใช้ชีวิตและโอกาสในการฝึกฝนภาษาจริง

• ที่ตั้งในประเทศต้นแบบ: ที่ประเทศอังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือแคนาดา เหมาะกับการพัฒนาภาษาอังกฤษในสภาพแวดล้อมโดยตรง
• ที่ตั้งในประเทศอื่น ๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษ: ไม่ว่าจะเป็นประเทศสิงคโปร์หรือประเทศมัลต้าเป็นต้น เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและได้รับมาตรฐานการศึกษาเดียวกัน

ตรวจสอบรายละเอียดหลักสูตรและวิธีการสอน

สถาบันส่วนใหญ่จะแบ่งหลักสูตรภาษาไว้หลายระดับและหลายประเภทตามความต้องการ ควรศึกษาให้ดีเพื่อเลือกให้ตรงจุดประสงค์

• หลักสูตรแบบปกติ (General English): มุ่งเน้นการสื่อสารและการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน
• หลักสูตรสำหรับวิชาการ (Academic English): เตรียมความพร้อมสำหรับการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย
• หลักสูตรเฉพาะกิจ (Business English/Exam Preparation): สำหรับนักธุรกิจหรือการเตรียมสอบวัดระดับที่สำคัญ

นอกจากนี้วิธีการสอน การจัดชั้นเรียนตามระดับความสามารถจริง และกิจกรรมเสริมทั้งในและนอกห้องเรียนล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พัฒนาภาษาได้เร็วขึ้น

เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายโดยรวม

ค่าใช้จ่ายไม่ได้มีเพียงค่าเทอมเท่านั้น การมองภาพรวมที่ครอบคลุมค่าเล่าเรียนหลัก ค่าธรรมเนียมการลงทะเบียน ค่าหนังสือและสื่อการเรียน ค่าที่พัก (ไม่ว่าจะเป็นหอพักของสถาบันหรือแบบอยู่ร่วมกับครอบครัวท้องถิ่น) ค่าครองชีพประจำวัน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เป็นสิ่งจำเป็น

มองหาข้อมูลจริงจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์

ความคิดเห็นและบทวิจารณ์จากศิษย์เก่าเป็นข้อมูลที่มีคุณค่า เว็บไซต์ ฟอรัม หรือกลุ่มโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้องมักจะมีรีวิวที่ตรงไปตรงมาจากผู้ที่เคยเรียน สามารถแสดงให้เห็นภาพรวมชีวิตที่สถาบันนั้นได้เป็นอย่างดี

การตัดสินใจเลือกสถาบันเรียนภาษาอังกฤษในต่างประเทศควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล ความต้องการส่วนตัว และเป้าหมายระยะยาว มากกว่าตามชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว การใช้เวลาในการค้นคว้าและเปรียบเทียบจะช่วยเพิ่มโอกาสในการพบสถาบันที่ช่วยพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ