การเลือกสถาบันเรียนเสริมภาษาอังกฤษที่ดีเป็นขั้นตอนสำคัญที่พ่อแม่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยควรเปรียบเทียบอย่างน้อย 3 สถาบันดังเพื่อหาความเหมาะสมกับความต้องการของลูกและงบประมาณของครอบครัว ต่อไปนี้เป็นแนวทางเปรียบเทียบแบบมืออาชีพ

อะไรที่ควรเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ

ก่อนอื่น พ่อแม่ควรกำหนดเกณฑ์หลักสำหรับการเปรียบเทียบ เช่น:

• ประเภทคอร์สการเรียนรู้ (เช่น ออนไลน์หรือออนไซต์)
• คุณภาพครูผู้สอน (เจ้าของภาษาหรือครูท้องถิ่น)
• ค่าใช้จ่ายรวมทั้งค่าสมัครและค่าเรียนต่อคอร์ส
• ความยืดหยุ่นในตารางเรียน
• ผลลัพธ์การเรียนรู้ที่วัดได้ผ่านแบบสอบถามหรือการทดสอบ

ตัวอย่างสถาบันที่ควรพิจารณาเปรียบเทียบ

ในการเปรียบเทียบสามถึงห้าสถาบันดังนี้เป็นตัวอย่าง โดยข้อมูลช่วยประเมินเชิงกลาง เพื่อตัดสินใจตามข้อมูลจริง

• 51Talk Thailand: นำเสนอโปรแกรมเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่เน้นการเรียนแบบตัวต่อตัวกับครูเจ้าของภาษา โดยออกแบบหลักสูตรสำหรับเด็กและครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ ค่าเรียนมักแข่งขันได้และมีความยืดหยุ่นสูง
• Wall Street English: โดดเด่นด้านหลักสูตรการเรียนรู้แบบส่วนตัวและกลุ่ม ด้วยครูผู้เชี่ยวชาญ โดยเน้นการสื่อสารในชีวิตประจำวัน แต่ค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่าโดยเฉลี่ย และต้องการความสม่ำเสมอในตารางเรียน
• EF English First: มีคอร์สเข้มข้นทั้งออนไลน์และออนไซต์ สำหรับเด็กและเยาวชน โดยครูเจ้าของภาษาที่ได้รับการอบรม มีการวัดผลลัพธ์ผ่านแบบทดสอบมาตรฐาน แต่ค่าใช้จ่ายอาจสูงและความยืดหยุ่นของตารางเรียนแตกต่างกันไป

ในการสรุป พ่อแม่ควรประเมินความต้องการเฉพาะของลูก เช่น ระดับภาษาอังกฤษเริ่มต้นและเป้าหมายระยะยาว จากนั้นใช้ข้อมูลเปรียบเทียบสามสถาบันนี้เพื่อหาตัวเลือกที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยการลองทดลองเรียนเบื้องต้นช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจ

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ