เอาล่ะครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ของผมเลยกับการพยายามงมภาษาอังกฤษด้วยตัวเองล้วนๆ ว่ามันเป็นยังไง ทำอะไรบ้างกว่าจะเริ่มรู้สึกว่า เออ มันก็พอไปวัดไปวาได้นะ
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้
คือเรื่องมันเริ่มมาจากความอยากล้วนๆ เลยครับ ตอนนั้นผมแบบว่า อยากดูหนังฝรั่งรู้เรื่องแบบไม่ต้องอ่านซับตลอดเวลา อยากฟังเพลงสากลแล้วเข้าใจความหมายมันจริงๆ ไม่ใช่แค่ทำนองเพราะอย่างเดียว แล้วก็แอบคิดไปไกลถึงขั้นว่า ถ้าพูดได้คล่องๆ คงเท่ไม่เบา เวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็น่าจะสนุกขึ้นเยอะ ไม่ต้องกลัวหลง หรือโดนหลอกง่ายๆ 555

แต่ปัญหาคือ พื้นฐานผมนี่เรียกว่าแทบจะศูนย์เลยครับ ที่เรียนมาตอนเด็กๆ คืนครูไปเกือบหมดแล้ว จำได้ลางๆ แค่ This is a book. อะไรทำนองนั้น พอคิดจะเริ่มจริงจัง ก็ไปไม่เป็นเลยครับ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี
ลองผิดลองถูกสารพัดวิธี
ช่วงแรกๆ ผมก็เหมือนคนตาบอดคลำช้างครับ ลองไปเรื่อย
- ซื้อหนังสือแกรมมาร์มาอ่าน: โอ้โห เปิดไปได้ไม่กี่หน้า ผมก็อยากจะปาทิ้งแล้วครับ มันอะไรก็ไม่รู้ เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์น่าปวดหัว อ่านแล้วท้อแท้มาก รู้สึกว่ามันยากเกินไปสำหรับเรา
- โหลดแอปเรียนภาษา: อันนี้ก็ลองหลายแอปเลยครับ แรกๆ ก็สนุกดีนะ มีเกมให้เล่น มีคำศัพท์ให้ท่อง แต่พอทำไปสักพัก มันก็เริ่มเบื่อ เหมือนทำไปงั้นๆ ไม่ได้รู้สึกว่ามันเข้าไปในหัวจริงๆ จังๆ สักเท่าไหร่
- พยายามดูหนังฝรั่งเปิดซับไทย: อันนี้ก็ทำบ่อย แต่สุดท้ายก็อ่านแต่ซับไทยอยู่ดีครับ ไม่ได้พยายามฟังหรือจับใจความภาษาอังกฤษเลย กลายเป็นว่าดูหนังสนุกเหมือนเดิม แต่ภาษาไม่ได้พัฒนา 555
ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าท้อไปหลายรอบเลยครับ คิดว่าสงสัยเราคงไม่มีหัวทางนี้จริงๆ ว่ะ คงต้องปล่อยมันไปตามยถากรรมแล้วมั้ง
จุดเปลี่ยนสำคัญและการลงมือทำจริงจัง
จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมไปเจอคลิปในยูทูบของฝรั่งคนนึงที่เขาแชร์ประสบการณ์การเรียนภาษาที่สามของเขา แล้วเขาก็พูดประมาณว่า “อย่าไปกลัวผิด อย่าไปคิดว่าต้องเป๊ะแกรมมาร์ตั้งแต่แรก ให้เน้นการซึมซับและการใช้งานจริง” คำนี้มันเหมือนปลดล็อกอะไรบางอย่างในหัวผมเลยครับ
ผมเลยเปลี่ยนวิธีคิดใหม่หมดเลยครับ คราวนี้ผมตั้งใจว่า จะไม่เน้นแกรมมาร์จ๋าๆ อีกแล้ว แต่จะเน้นการ “คลุกคลี” กับมันให้มากที่สุด
สิ่งที่ผมเริ่มทำแบบจริงๆ จังๆ คือ:
- ดูหนัง/ซีรีส์ฝรั่งเหมือนเดิม แต่เปลี่ยน! คราวนี้ผมเริ่มจากเปิดซับอังกฤษครับ ฟังไม่ออก ช่างมัน อ่านซับอังกฤษไปก่อน แรกๆ ก็มึนตึ้บเลยครับ แต่ก็กัดฟันดูไปเรื่อยๆ พยายามจับคำที่ได้ยินบ่อยๆ แล้วก็ดูว่ามันเขียนยังไง พอเริ่มชิน ผมก็ลองปิดซับดูบ้าง เปิดบ้าง สลับกันไป แล้วก็เริ่มดูการ์ตูนเด็กภาษาอังกฤษครับ เพราะศัพท์มันจะง่ายกว่า ประโยคไม่ซับซ้อน
- ฟังเพลงสากลแล้วหาเนื้อเพลงมาดูตาม: อันนี้ช่วยเรื่องการฟังได้เยอะมากครับ แล้วก็ได้ศัพท์ใหม่ๆ แบบไม่รู้ตัวด้วย ผมจะเลือกเพลงที่ชอบ แล้วก็ฟังซ้ำๆ พยายามร้องตาม ถึงจะมั่วๆ บ้างก็ไม่เป็นไร 555
- ดูยูทูบเบอร์ต่างชาติ: ผมเริ่มหาช่องที่เขาสอนภาษาอังกฤษแบบสนุกๆ หรือช่องที่ผมสนใจเนื้อหาเขาอยู่แล้ว เช่น ช่องเกม ช่องทำอาหาร แล้วก็พยายามฟังเขาพูด แรกๆ ก็ต้องเปิดซับอังกฤษช่วยเหมือนเดิมครับ แต่พอฟังบ่อยๆ มันเริ่มจับสำเนียง จับคำได้มากขึ้น
- พูดกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ: อันนี้อาจจะดูบ้าๆ หน่อยนะครับ แต่ผมทำจริงๆ 555 เวลาอยู่คนเดียว ผมจะพยายามคิดเป็นภาษาอังกฤษ หรือพูดบรรยายสิ่งที่กำลังทำอยู่เป็นภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ ผิดถูกไม่สน ขอให้ได้พูดออกมา มันช่วยให้เรากล้าพูดมากขึ้นเยอะเลยครับ
- หาเพื่อนคุย (ถ้ามีโอกาส): ช่วงหลังๆ พอเริ่มมั่นใจขึ้นหน่อย ผมก็ลองหาแอปหรือกลุ่มออนไลน์ที่มีฝรั่งให้ฝึกคุยด้วยบ้าง แรกๆ ก็ตะกุกตะกักน่าดู แต่พอได้คุยบ่อยๆ มันก็เริ่มคล่องขึ้นครับ
- จดศัพท์ใหม่ๆ ที่เจอ: เวลาดูหนัง ฟังเพลง หรืออ่านอะไรแล้วเจอศัพท์ที่ไม่รู้ ผมจะจดไว้ในสมุดเล็กๆ พร้อมความหมาย แล้วก็พยายามเอามาใช้บ่อยๆ ไม่ได้ท่องจำแบบเอาเป็นเอาตายนะครับ แต่เน้นการเห็นผ่านตาบ่อยๆ มากกว่า
สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมค้นพบคือ: ความสม่ำเสมอครับ ทำทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดี ดีกว่าทำเยอะๆ วันเดียวแล้วหายไปเลย แล้วก็ต้องหาอะไรที่เรา “สนุก” กับมันได้จริงๆ เพราะถ้าไม่สนุก มันจะทำได้ไม่นานครับ

ผลลัพธ์ที่ได้และความรู้สึกในวันนี้
ถามว่าตอนนี้ผมเก่งภาษาอังกฤษระดับเทพเลยมั้ย? ตอบเลยว่า ไม่ครับ! ยังห่างไกลคำนั้นเยอะมาก แกรมมาร์ผมก็ยังมั่วๆ อยู่เลย พูดก็ยังมีติดขัด สำเนียงก็ยังไทยจ๋าอยู่เลยครับ 555
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ: ผมกล้าใช้มันมากขึ้น ผมดูหนังฟังเพลงรู้เรื่องมากขึ้นเยอะ (แม้บางทียังต้องแอบเหล่ซับบ้าง) ผมสามารถสื่อสารเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันได้ สามารถอ่านบทความภาษาอังกฤษง่ายๆ ได้เข้าใจ แล้วที่สำคัญที่สุดคือ ผมไม่กลัวมันเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ ผมรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้มันมากขึ้น
ทุกวันนี้ผมก็ยังทำสิ่งเหล่านี้อยู่เรื่อยๆ นะครับ เพราะภาษามันไม่มีวันเรียนจบจริงๆ มันคือการเดินทางไปเรื่อยๆ ผมว่าถ้าใครอยากลองเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองดูบ้าง ลองเอาวิธีของผมไปปรับใช้ดูก็ได้นะครับ ไม่ต้องเป๊ะตามนี้ทั้งหมดก็ได้ หาจุดที่ตัวเองสบายใจและสนุกกับมันที่สุด นั่นแหละครับคือหัวใจสำคัญเลย
สู้ๆ ครับทุกคน ผมทำได้ คุณก็ทำได้แน่นอน!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments