เรียน ภาษา อังกฤษ ภายใน 3 เดือน ทำได้จริงไหม แชร์วิธีเห็นผลเร็ว
เรียน ภาษา อังกฤษ ภายใน 3 เดือน ทำได้จริงไหม แชร์วิธีเห็นผลเร็ว
Share:

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย กับเรื่องที่หลายคนอาจจะเคยคิด หรือกำลังพยายามอยู่ นั่นคือการเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลภายใน 3 เดือน เอาจริงดิ? ทำได้จริงเหรอ? ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นแหละ แต่สุดท้ายก็ลองดูสักตั้ง เลยอยากมาเล่าให้ฟังว่าผมทำอะไรไปยังไงบ้าง

จุดเริ่มต้นและความบ้าบิ่น

คือเรื่องมันเริ่มมาจากผมได้งานใหม่ครับ แล้วงานมันต้องใช้ภาษาอังกฤษเยอะพอสมควร ตอนสัมภาษณ์ก็แถๆ ไปได้บ้าง แต่พอรู้ว่าได้งานจริงๆ เท่านั้นแหละ เหงื่อตกเลยครับ! มีเวลาเตรียมตัวก่อนเริ่มงานจริงๆ ประมาณ 3 เดือนนิดๆ ตอนนั้นในหัวคิดอย่างเดียวว่า “เอาไงดีวะ?” จะไปลงคอร์สแพงๆ ก็เสียดายตังค์ แถมไม่รู้จะได้ผลแค่ไหน เลยตัดสินใจว่า เอาวะ! ลองลุยเองดูสักตั้ง ตั้งเป้าไว้เลยว่า 3 เดือนนี้ ต้องสื่อสารเบื้องต้นให้ได้ ไม่งั้นชีวิตการทำงานใหม่ลำบากแน่ๆ

เรียน ภาษา อังกฤษ ภายใน 3 เดือน ทำได้จริงไหม แชร์วิธีเห็นผลเร็ว

ช่วงเดือนแรก: งมเข็มในมหาสมุทร

บอกตามตรง เดือนแรกนี่ โคตรมั่วซั่ว เลยครับ ผมเริ่มจากอะไรที่คิดว่ามันง่ายสุดก่อน คือท่องศัพท์ เปิดดิกชันนารี ท่องๆๆๆ แล้วก็ไปหาคลิปสอนภาษาอังกฤษในยูทูบดู แบบว่าอันไหนขึ้นมาก็ดูหมด ไม่ได้มีแบบแผนอะไรเลย ผลลัพธ์คืออะไร? คือจำศัพท์ได้เป็นคำๆ แต่พอจะเอามาเรียงเป็นประโยค พูดไม่ออก! ฟังเจ้าของภาษาพูดเร็วๆ ก็ไม่รู้เรื่อง จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยครับ ตอนนั้นเริ่มท้อละ คิดในใจว่า “สงสัยจะไม่รอดว่ะ”

  • โหลดแอปมาเพียบ ลองไปเรื่อย แต่ก็เบื่อเร็ว
  • พยายามอ่านบทความภาษาอังกฤษง่ายๆ แต่เปิดดิกบ่อยกว่าอ่านอีก
  • ดูหนังฝรั่งแบบเปิดซับไทย… สรุปคืออ่านซับอย่างเดียว ไม่ได้ฟังเล้ย!

คือมันเหมือนกับว่าเรามีวัตถุดิบนะ แต่ปรุงอาหารไม่เป็นอะครับ มีแต่คำศัพท์เต็มหัว แต่สื่อสารไม่ได้จริง

เดือนที่สอง: เริ่มจับทางได้ และเปลี่ยนวิธีคิด

พอเข้าเดือนที่สอง ผมเริ่มรู้สึกว่าวิธีเดิมๆ มันไม่เวิร์คละ เลยลองเปลี่ยนแนวทางใหม่หมดเลยครับ ผมเริ่มคิดว่า “เฮ้ย! เราเรียนภาษาไทยมายังไงวะ?” เราไม่ได้เริ่มจากท่องศัพท์ หรือเรียนไวยากรณ์ก่อนใช่ปะ? เราเริ่มจากการฟังพ่อแม่พูด แล้วก็พยายามพูดตาม ผิดๆ ถูกๆ ก็ว่ากันไป ผมเลยเอาหลักการนี้มาใช้

สิ่งที่ผมเริ่มทำอย่างจริงจังคือ:

  • เลิกท่องศัพท์แบบนกแก้วนกขุนทอง: แต่เปลี่ยนมาจำศัพท์จากประโยคที่เราเจอจริงๆ หรือจากเรื่องที่เราสนใจ เช่น ผมชอบดูบอล ก็ไปหาอ่านข่าวบอลเป็นภาษาอังกฤษ หาคลิปสัมภาษณ์นักบอลมาฟัง
  • เน้นฟังเยอะมากๆ: ผมเริ่มจากการฟังอะไรที่มันง่ายๆ ก่อน พวกการ์ตูนเด็กภาษาอังกฤษ หรือพวก Podcast ที่พูดช้าๆ ชัดๆ ฟังซ้ำๆ จนกว่าจะเริ่มจับใจความได้ว่าเขาพูดอะไรกัน ไม่เข้าใจก็ช่างมัน ขอให้หูมันชินก่อน
  • พยายามพูดกับตัวเอง: อันนี้อาจจะดูบ้าๆ นะครับ แต่ผมทำจริง คือคิดอะไรเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็พูดออกมาเบาๆ อยู่คนเดียว เช่น จะไปกินข้าว ก็คิดในใจ “Okay, I’m hungry. I want to eat something.” แล้วก็พูดออกมา ฝึกให้ปากมันขยับ
  • หาคู่หู (ถ้ามี): โชคดีที่ผมมีเพื่อนที่เก่งอังกฤษอยู่บ้าง เลยพยายามชวนมันคุยเป็นภาษาอังกฤษ ถามคำถามโง่ๆ บ้าง พูดผิดพูดถูกบ้าง แต่มันก็ช่วยแก้ให้
  • เลิกกลัวผิด: อันนี้สำคัญมาก ตอนแรกผมโคตรกลัวพูดผิด กลัวโดนหัวเราะ แต่พอคิดได้ว่าถ้าไม่พูด แล้วเมื่อไหร่จะพูดได้วะ? ก็เลยหน้าด้านพูดไปเลยครับ ผิดก็แก้ใหม่

ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองฟังออกมากขึ้น เริ่มจับใจความได้ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร แม้จะยังไม่เข้าใจทุกคำ แต่ก็พอเดาได้ เริ่มกล้าพูดประโยคง่ายๆ มากขึ้น มันเหมือนปลดล็อกอะไรบางอย่างเลยครับ

เดือนที่สาม: เร่งเครื่อง และเห็นผลลัพธ์

พอเข้าเดือนที่สาม ผมเริ่มมั่นใจมากขึ้น เริ่มสนุกกับการเรียนรู้ ผมยังคงเน้นการฟังและการพูดเป็นหลัก แต่เพิ่มเติมคือ:

  • ดูซีรีส์/หนัง แบบซับอังกฤษ: อันนี้ช่วยได้เยอะมาก ทำให้เราเห็นว่าในสถานการณ์จริงๆ เขาใช้ประโยคแบบไหน สำเนียงเป็นยังไง แล้วก็พยายามพูดตาม
  • ฝึกเขียนง่ายๆ: ลองเขียนไดอารี่สั้นๆ เป็นภาษาอังกฤษ หรือเขียนอีเมลโต้ตอบง่ายๆ ผิดแกรมม่าบ้างก็ช่างมัน ขอให้สื่อสารรู้เรื่องก่อน
  • หาโอกาสใช้จริง: พอดีช่วงนั้นมีเพื่อนต่างชาติของเพื่อนมาเที่ยว ผมก็อาสาพาเที่ยวเลยครับ ได้ฝึกพูดจริงๆ จังๆ ตะกุกตะกักบ้าง แต่ก็รอดมาได้!

ผลลัพธ์หลังจบ 3 เดือน: ถามว่าผมเก่งเทพ พูดคล่องปรื๋อเลยมั้ย? ก็ไม่ขนาดนั้นครับ! แต่ผมสามารถสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ ฟังเจ้านายสั่งงานรู้เรื่อง (ส่วนใหญ่ ฮ่าๆ) ตอบอีเมลได้ ประชุมพอฟังออกและแสดงความเห็นได้บ้าง คือมันอาจจะไม่เพอร์เฟกต์ แต่สำหรับผมที่เริ่มจากศูนย์ prácticamente (แทบจะศูนย์) ภายใน 3 เดือน ผมว่ามันโอเคมากๆ เลยนะ อย่างน้อยก็ทำให้ผมกล้าที่จะเริ่มงานใหม่ได้อย่างมั่นใจขึ้นเยอะ

เรียน ภาษา อังกฤษ ภายใน 3 เดือน ทำได้จริงไหม แชร์วิธีเห็นผลเร็ว

บทสรุปจากประสบการณ์ตรง

สุดท้ายแล้ว การเรียนภาษาอังกฤษภายใน 3 เดือน มันทำได้จริงครับ แต่ต้องบอกว่า มันไม่มีทางลัด มันต้องอาศัยความตั้งใจ วินัย และที่สำคัญคือต้องสนุกกับมัน อย่าไปกดดันตัวเองมากเกินไป หาแนวทางที่เหมาะกับตัวเอง แล้วก็ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ ผิดพลาดบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ อย่าไปกลัว

สิ่งที่ผมค้นพบคือ การเรียนภาษาที่ดีที่สุดคือการเอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นๆ ให้มากที่สุด ฟังเยอะๆ พูดเยอะๆ ไม่ต้องกลัวผิด แล้วคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอนครับ หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังพยายามอยู่นะครับ สู้ๆ ครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ สำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 3 ถึง 18 ปีโดยเฉพาะ

เราจะมอบคาบเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติให้คุณฟรี 1 คาบ พร้อมแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

This field is required.
This field is required.
กรุณากรอกข้อความของคุณที่นี่ โปรดให้สั้นและชัดเจน
ช่องทางการติดต่อที่ต้องการ
คุณต้องการให้เราติดต่อคุณอย่างไร?