สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยกับเรื่องการให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษกับแอปที่ชื่อ Palfish นี่แหละครับ หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ หรือกำลังเล็งๆ อยู่ว่าเอ๊ะ มันจะดีจริงไหม คุ้มค่ารึเปล่า ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เคยสงสัยแบบนั้นแหละครับ ก็เลยตัดสินใจลองดูให้มันรู้เรื่องกันไปเลย
จุดเริ่มต้นของการลอง Palfish
เรื่องของเรื่องคือ ลูกผมเนี่ย เริ่มโตแล้ว อยากให้เค้าได้ภาษาที่สามติดตัวไว้บ้าง ภาษาอังกฤษนี่แหละสำคัญสุดเลยในยุคนี้ ตอนแรกก็มองหาสถาบันสอนภาษาแถวบ้านนะ แต่ด้วยเวลาของเราเองที่ไม่ค่อยจะอำนวย บวกกับลูกก็เรียนอย่างอื่นด้วย ตารางแน่นเอี๊ยด ก็เลยคิดว่าเรียนออนไลน์น่าจะสะดวกกว่าเยอะ ไม่ต้องเดินทาง ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย
ทีนี้ก็เริ่มหาข้อมูลครับ ถามเพื่อนบ้าง ดูรีวิวในเน็ตบ้าง ก็มาเจอเจ้า Palfish เนี่ยแหละ เห็นคนพูดถึงกันเยอะพอสมควร ดูแล้วก็น่าสนใจตรงที่เป็นการเรียนกับครูต่างชาติโดยตรงเลย คิดว่าน่าจะได้เรื่องสำเนียง การกล้าพูดมากกว่า ก็เลยตัดสินใจ เอาวะ! ลองดูซักตั้ง
ขั้นตอนการใช้งานจริงและการเรียนครั้งแรกๆ
ขั้นแรกเลย ผมก็ไปดาวน์โหลดแอป Palfish มาติดตั้งในแท็บเล็ตของลูก การสมัครก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับ กรอกข้อมูลทั่วไป ตั้งรหัสผ่าน แป๊บเดียวก็เสร็จเรียบร้อย
พอเข้ามาในแอป โอ้โห ครูเยอะมากครับ มีโปรไฟล์ครูให้เลือกเพียบเลย ทั้งครูที่เป็น Native Speaker ครูฟิลิปปินส์ก็มี ตอนแรกก็เลือกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะเอาคนไหนดี ก็ลองดูจากวิดีโอแนะนำตัวของครูแต่ละคน ดูเรทติ้ง ดูรีวิวจากผู้ปกครองคนอื่นๆ ประกอบกันไป
หลังจากส่องอยู่นานพอสมควร ก็ตัดสินใจจองคลาสทดลองเรียนครับ จำได้ว่าตอนนั้นก็ลุ้นๆ นะว่าลูกจะชอบไหม ครูจะสอนเป็นยังไง พอถึงเวลาเรียนจริง ก็ให้ลูกนั่งหน้าแท็บเล็ต เปิดแอป ครูเค้าก็จะวิดีโอคอลมาครับ บรรยากาศการเรียนครั้งแรกก็โอเคนะครับ ครูพยายามชวนคุย มีรูปภาพ มีเกมง่ายๆ มาประกอบบทเรียน ลูกผมก็ดูตื่นเต้นดี แต่ก็มีเขินๆ บ้างเป็นธรรมดา
ประสบการณ์ที่เจอมากับตัว
หลังจากทดลองเรียนไปครั้งแรก ก็ตัดสินใจซื้อเป็นแพ็กเกจคอร์สเรียนเลยครับ เพราะคิดว่าเรียนครั้งเดียวมันคงยังวัดอะไรมากไม่ได้ ต้องให้เวลาหน่อย
สิ่งที่ผมเจอจากการให้ลูกเรียน Palfish มาซักพักใหญ่ๆ ก็มีทั้งข้อดีและข้อที่อาจจะต้องพิจารณานะครับ
- ความสะดวก: อันนี้ยกให้เลยครับ สะดวกมากจริงๆ เลือกเวลาเรียนได้เอง เรียนจากที่บ้านได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาอย่างผมมาก
- ครูผู้สอน: มีครูให้เลือกเยอะก็จริงครับ แต่ก็เหมือนดาบสองคมนะ บางทีครูที่เราคิดว่าโปรไฟล์ดี พอสอนจริงอาจจะยังไม่คลิกกับลูกเราเท่าไหร่ ผมเคยต้องเปลี่ยนครูอยู่ 2-3 คนเหมือนกันครับกว่าจะเจอคนที่ลูกเรียนด้วยแล้วสนุกและได้ความรู้จริงๆ ตรงนี้สำคัญมาก ต้องใช้เวลาในการเลือกและลองผิดลองถูกพอสมควรเลยครับ
- เนื้อหาบทเรียน: บทเรียนเค้าก็มีเป็นระบบดีครับ มีเลเวลต่างๆ ให้เลือกเรียนตามความเหมาะสมของเด็ก แต่บางทีก็รู้สึกว่ามันเป็นแพทเทิร์นไปหน่อย ถ้าเจอครูที่เก่งๆ เค้าก็จะมีการปรับเนื้อหาให้เข้ากับความสนใจของเด็กได้ดีขึ้นครับ
- เรื่องค่าใช้จ่าย: อันนี้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งครับ ถ้าเทียบกับการเรียนในสถาบันบางแห่งก็อาจจะถูกกว่า แต่ถ้าเทียบกับแอปอื่นๆ บางตัวก็อาจจะราคาสูงกว่านิดหน่อย ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูความคุ้มค่าเอาเองครับ
- ปัญหาทางเทคนิค: นานๆ ทีก็มีบ้างครับ เรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตหลุดบ้าง เสียงขาดๆ หายๆ บ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นบ่อยจนน่ารำคาญอะไร ส่วนใหญ่ทางแอปเค้าก็มีซัพพอร์ตคอยช่วยเหลืออยู่ครับ
ช่วงแรกๆ ที่เปลี่ยนครูบ่อยๆ ก็แอบท้อเหมือนกันนะครับ คิดในใจว่า เอ๊ะ หรือมันจะไม่เวิร์คสำหรับลูกเรา แต่ก็ลองเปิดใจคุยกับลูกดูว่าชอบครูคนไหน ไม่ชอบคนไหน เพราะอะไร แล้วก็พยายามหาครูใหม่ไปเรื่อยๆ จนมาเจอครูคนปัจจุบันที่ลูกค่อนข้างแฮปปี้ด้วยครับ
สรุปแล้ว Palfish ดีไหมสำหรับผม?
ถ้าถามผมว่า Palfish ดีไหม ผมว่ามันก็เป็นเครื่องมือที่ดีอย่างหนึ่งนะครับในการให้เด็กได้ฝึกภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษา แต่มันไม่ใช่สูตรสำเร็จที่ว่าจ่ายเงินไปแล้วลูกจะเก่งภาษาขึ้นมาทันทีทันใด มันต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบกันครับ
สิ่งสำคัญที่สุด คือ “ความสม่ำเสมอ” และ “การหาครูที่เข้ากับเด็กได้จริงๆ” อันนี้ผมเน้นเลย ถ้าเจอครูที่ดี สอนสนุก เด็กอยากเรียน อันนั้นถือว่าโชคดีไปครับ แต่ถ้ายังไม่เจอ ก็ต้องใช้ความพยายามในการค้นหาหน่อย อย่าเพิ่งท้อครับ
สำหรับบ้านผม หลังจากผ่านการลองผิดลองถูกมาพอสมควร ตอนนี้ก็ค่อนข้างลงตัวกับ Palfish ครับ ลูกได้ฝึกพูด ฝึกฟังสำเนียง มีความกล้าแสดงออกมากขึ้น แต่ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะต้องเก่งแกรมม่าเป๊ะๆ อะไรขนาดนั้นนะครับ แค่อยากให้เค้าคุ้นเคยกับภาษาและไม่กลัวที่จะสื่อสารก็พอแล้ว
หวังว่าประสบการณ์ที่ผมแชร์ในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ลูกๆ บ้างนะครับ ลองพิจารณาข้อดีข้อเสียแล้วตัดสินใจดูครับว่ามันเหมาะกับครอบครัวของเราไหม
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments