สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรง ๆ เลยกับเรื่องที่หลายคนถามกันเข้ามาเยอะว่า เรียน PalFish ดีไหม ส่วนตัวผมเองก็เคยสงสัยแบบนี้เหมือนกันครับ ตอนแรกก็เห็นผ่าน ๆ ตาตามโฆษณาบ้าง เพื่อนในเฟซบุ๊กพูดถึงบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ลอง PalFish
เรื่องของเรื่องมันเริ่มมาจากลูกชายผมนี่แหละครับ เริ่มโตแล้ว อยากให้แกได้ภาษาอังกฤษติดตัวบ้าง เพราะยุคนี้สมัยนี้ภาษาสำคัญจริง ๆ ตอนแรกก็มองหาหลายที่เลย ทั้งโรงเรียนสอนพิเศษ ทั้งคอร์สออนไลน์ต่าง ๆ จนไปเจอคนรีวิว PalFish นี่แหละ ดูน่าสนใจตรงที่เป็นการเรียนตัวต่อตัวกับครูต่างชาติผ่านแอปพลิเคชันได้เลย ไม่ต้องเดินทาง สะดวกดี
ผมก็เลยลองโหลดแอปมาดูก่อนเลยครับ เปิดเข้าไป โอ้โห! ครูเยอะมาก มีทั้งครูเจ้าของภาษา ครูฟิลิปปินส์ โปรไฟล์แต่ละคนก็ดูดีมีประสบการณ์ ผมใช้เวลาเลือกอยู่นานเหมือนกันครับ ดูรีวิว ดูวิดีโอแนะนำตัวของครูแต่ละคน สุดท้ายก็ตัดสินใจลองเลือกครูคนหนึ่งที่ดูเป็นมิตรและรีวิวค่อนข้างดี ลองจองคลาสทดลองเรียนดูก่อนเลย
ประสบการณ์ช่วงทดลองเรียนและเรียนจริง
วันแรกที่ลูกเรียน ผมก็นั่งอยู่ข้าง ๆ คอยดูเลยครับ ตื่นเต้นแทนลูก ฮ่า ๆ ครูเขาก็พยายามชวนคุยดีนะครับ มีอุปกรณ์ประกอบการสอน มีเพลง มีเกม ลูกผมก็ดูสนุกสนานดี หัวเราะเอิ๊กอ๊ากเลย แต่ก็มีบางช่วงที่ยังเขิน ๆ อาย ๆ ไม่กล้าพูดบ้างตามประสาเด็ก
พอหมดคลาสทดลอง ผมก็ถามลูกว่าชอบไหม อยากเรียนอีกหรือเปล่า ลูกก็พยักหน้า ผมเลยตัดสินใจซื้อคอร์สแบบเป็นแพ็กเกจไปเลย เพราะดูแล้วคุ้มค่ากว่าจ่ายเป็นครั้ง ๆ หลังจากนั้นก็เรียนมาเรื่อย ๆ ครับ สัปดาห์ละประมาณ 2-3 ครั้ง
สิ่งที่ผมสังเกตเห็นจากการเรียน PalFish คือ:
- ความสะดวก: อันนี้ยกให้เลยครับ สะดวกมาก แค่มีอินเทอร์เน็ตกับแท็บเล็ตหรือมือถือก็เรียนได้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
- ความยืดหยุ่น: เลือกเวลาเรียนได้ค่อนข้างอิสระ มีครูให้เลือกเยอะ ทำให้หาเวลาที่ลงตัวกับตารางของเราได้ไม่ยาก
- การโต้ตอบ: ลูกได้ฝึกพูดจริง ๆ กับครูต่างชาติ ซึ่งผมว่ามันช่วยเรื่องความกล้าแสดงออกได้ดีกว่าการเรียนในห้องเรียนใหญ่ ๆ ที่อาจจะไม่มีโอกาสได้พูดมากนัก
- เนื้อหา: เนื้อหาของ PalFish ค่อนข้างเน้นไปที่การสนทนาในชีวิตประจำวัน มีเกม มีเพลง มีกิจกรรมสนุก ๆ ทำให้เด็กไม่เบื่อ แต่ถ้าจะเน้นแกรมมาร์หนัก ๆ หรือคำศัพท์วิชาการ อันนี้อาจจะต้องเสริมเองข้างนอก
ช่วงแรก ๆ ลูกผมก็ยังติดเล่นอยู่บ้างครับ บางทีก็ไม่ค่อยมีสมาธิ แต่ครูเขาก็พยายามดึงความสนใจกลับมาได้ดีนะ มีเทคนิคหลอกล่อเด็กเยอะพอสมควร พอเรียนไปสักพัก ผมเริ่มเห็นพัฒนาการครับ ลูกเริ่มกล้าพูดมากขึ้น เริ่มจำคำศัพท์ได้เยอะขึ้น เวลาเจอชาวต่างชาติข้างนอกก็ไม่อายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
แล้วสรุปว่า PalFish ดีไหม?
ถ้าถามผมตรง ๆ จากประสบการณ์ที่ให้ลูกเรียนมา ผมว่า PalFish ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ โดยเฉพาะสำหรับเด็กเล็กหรือเด็กประถมที่อยากให้เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษแบบสนุก ๆ ไม่เครียด เน้นให้คุ้นเคยกับภาษา กล้าพูด กล้าโต้ตอบกับครูต่างชาติ
แต่ถ้าจะหวังผลเลิศด้านวิชาการแบบแกรมมาร์เป๊ะ ๆ หรือเตรียมสอบแข่งขันอะไรจริงจัง ผมว่า PalFish อย่างเดียวอาจจะยังไม่พอครับ อาจจะต้องหาคอร์สอื่น ๆ เสริมเข้าไปด้วย หรือผู้ปกครองอาจจะต้องช่วยสอนเพิ่ม

ข้อดีที่ชัดเจนเลยคือ:
- ทำให้เด็กกล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น
- สร้างความคุ้นเคยกับสำเนียงของเจ้าของภาษา (ถ้าเลือกครูเจ้าของภาษา)
- สะดวก ประหยัดเวลาเดินทาง
- มีกิจกรรมหลากหลาย เด็กไม่เบื่อ (ส่วนใหญ่)
ส่วนข้อที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมคือ:
- การเลือกครูสำคัญมากครับ บางทีครูที่รีวิวดี ๆ ก็อาจจะไม่คลิกกับลูกเรา ต้องลองผิดลองถูกบ้าง
- เนื้อหาอาจจะไม่ได้ลงลึกแกรมมาร์มากนัก เหมาะกับการปูพื้นฐานและฝึกสนทนา
- ค่าใช้จ่ายก็ถือว่ากลาง ๆ ครับ ไม่ได้ถูกมาก แต่ก็ไม่ถึงกับแพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับการเรียนตัวต่อตัว
สุดท้ายนี้ ผมว่าการเรียนภาษาไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหน สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอและการนำไปใช้จริงครับ PalFish ก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยได้ แต่ผู้ปกครองก็ต้องคอยสนับสนุนและสร้างสภาพแวดล้อมให้ลูกได้ใช้ภาษาด้วยนะครับ หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังตัดสินใจอยู่นะครับ ลองพิจารณาดูครับว่าตอบโจทย์ความต้องการของเราและลูกหรือเปล่า
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments