สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ของผมกับการลองเรียนภาษาอังกฤษกับ PalFish ดูเผื่อใครกำลังมองหาที่เรียนออนไลน์อยู่ จะได้เอาไปประกอบการตัดสินใจกัน

เรื่องมันเริ่มมาจากไหน?

คือเรื่องของเรื่องเนี่ย มันเริ่มจากช่วงโควิดที่ผ่านมาเลยครับ ปกติผมก็ทำงานงกๆ ไม่ค่อยได้มีเวลาไปไหน พอโดนกักตัวอยู่บ้านนานๆ เข้า มันก็เริ่มเบื่อๆ เซ็งๆ กิจกรรมเดิมๆ ก็ทำจนพรุนหมดแล้ว ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม วนไปวนมาจนเอียน ตอนนั้นเลยคิดว่า เอ้อ หาอะไรใหม่ๆ ทำดีกว่า ที่มันได้พัฒนาตัวเองด้วย ไม่ใช่แค่ฆ่าเวลาไปวันๆ

ก่อนหน้านั้นน่ะ ผมเคยมีความฝันเล็กๆ ว่าอยากจะลองไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวดูบ้าง แบบแบ็คแพ็คเกอร์ลุยๆ หน่อย แต่ปัญหามันอยู่ที่ภาษานี่แหละครับ ภาษาอังกฤษผมนี่คือคืนอาจารย์ไปตั้งแต่จบ ม.6 แล้วมั้ง เวลาเจอฝรั่งทีไรนี่ตัวแข็งทื่อ พูดได้แค่ Yes No Ok Thank you สี่คำถ้วน มันเลยเป็นปมในใจเล็กๆ มาตลอด

แล้วมีอยู่วันนึงครับ ไถเฟซบุ๊กเล่นไปเรื่อยเปื่อย ก็ดันไปเห็นโพสต์ของเพื่อนคนนึงที่เขาไปเที่ยวคนเดียวที่ยุโรป โห อิจฉามาก! แต่ที่พีคกว่านั้นคือ เพื่อนคนนี้ภาษาอังกฤษเขาก็ไม่ได้เทพอะไรเลยนะ แต่เขากล้าลุย กล้าพูด ตอนนั้นแหละ ความคิดที่ว่า “เฮ้ย! เราก็น่าจะทำได้สิวะ” มันก็ผุดขึ้นมาในหัว

แล้วไปเจอ PalFish ได้ยังไง?

พอตั้งเป้าแล้วว่าจะฟิตภาษาอังกฤษใหม่ ทีนี้ก็เริ่มหาข้อมูลเลยครับว่าจะเรียนที่ไหนดี สถาบันสอนภาษาก็เยอะแยะไปหมด แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนขี้เกียจเดินทาง บวกกับช่วงนั้นยังระวังเรื่องโควิดอยู่ เลยมองหาคอร์สออนไลน์เป็นหลัก ลองเสิร์ชหาในเน็ตดู ก็เจอหลายเจ้ามากครับ ทั้งแบบเรียนกับคนไทย เรียนกับเจ้าของภาษา มีทั้งแบบกลุ่ม แบบเดี่ยว ราคาก็แตกต่างกันไป

ตอนนั้นผมก็ลองดูรีวิวไปเรื่อยๆ ครับ บางที่ก็ดูเป็นทางการไปหน่อย บางที่ก็แพงหูฉี่ จนมาเจอ PalFish นี่แหละ เห็นโฆษณาผ่านๆ ตาบ่อยเหมือนกัน แล้วก็มีคนพูดถึงอยู่บ้างว่าราคาไม่แรงมาก เป็นครูชาวฟิลิปปินส์ซะส่วนใหญ่ ตอนแรกก็ลังเลนิดหน่อยนะว่าสำเนียงครูจะเป็นยังไง จะสอนดีไหม แต่ด้วยความที่อยากลองของใหม่ บวกกับเห็นว่ามันมีคลาสทดลองเรียนด้วยมั้งตอนนั้น (หรือโปรอะไรสักอย่าง จำไม่ค่อยได้ละ) เลยตัดสินใจว่า เอ้า! ลองดูสักตั้งวะ ไม่เสียหาย

ประสบการณ์จริงกับการเรียน PalFish

หลังจากสมัครอะไรเรียบร้อย ก็ลองจองคลาสเรียนดูครับ ขั้นตอนการจองก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรนะในแอปฯ มันก็จะมีให้เลือกครู เลือกเวลาที่สะดวกได้เลย ครูส่วนใหญ่ที่ผมเจอจะเป็นครูฟิลิปปินส์จริงๆ นั่นแหละครับ

• เรื่องครูผู้สอน: อันนี้ผมว่าแล้วแต่ดวงเลยนะ บางคนก็สอนดีมากกกก ชวนคุยเก่ง แก้ไขให้ตลอด แต่บางคนก็อาจจะสอนเรื่อยๆ เอื่อยๆ ไปหน่อย ผมเคยเจอครูคนนึง พูดเร็วมาก ฟังแทบไม่ทัน แถมเหมือนไม่ค่อยเตรียมตัวมาสอนเท่าไหร่ แต่พอเปลี่ยนครูคนใหม่ ก็เจอคนที่คลิกกัน สอนสนุก เข้าใจง่าย อันนี้คงต้องลองเลือกๆ ดูกันไปครับ
• เนื้อหาการเรียน: ส่วนใหญ่จะเป็นสไลด์มาให้เรียนตามหัวข้อต่างๆ ครับ มีตั้งแต่เรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงบทสนทนาที่ซับซ้อนขึ้นมาหน่อย สำหรับผมที่พื้นฐานน้อยมากๆ ก็ถือว่าโอเคนะครับ ได้ทบทวนศัพท์ แกรมม่า อะไรพวกนี้ไปในตัว แต่บางทีก็รู้สึกว่าเนื้อหามันซ้ำๆ เดิมๆ ไปบ้างเหมือนกัน
• แพลตฟอร์ม/แอปพลิเคชัน: ใช้งานไม่ยากครับ หน้าตาแอปฯ ก็ดูโอเค มีสะดุดบ้างเล็กน้อยตอนสัญญาณเน็ตไม่ดี แต่โดยรวมก็ถือว่าเสถียรใช้ได้
• ราคา: อันนี้ผมว่าค่อนข้างโอเคเลยนะ ถ้าเทียบกับการไปเรียนตามสถาบันข้างนอก ถือว่าประหยัดไปได้เยอะเหมือนกัน แต่ก็ต้องดูโปรโมชั่นช่วงนั้นๆ ด้วยครับ

สิ่งที่ผมชอบนะ คือความยืดหยุ่นเรื่องเวลาครับ อยากเรียนตอนไหนก็จองได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง แล้วก็ได้พูดคุยกับครูตัวต่อตัวจริงๆ ถึงแม้จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ 25 นาทีต่อคลาส แต่มันก็ช่วยให้เรากล้าพูดมากขึ้น จากที่เคยอ้ำๆ อึ้งๆ ก็เริ่มมั่นใจขึ้นมาบ้าง

แต่ถ้าถามว่ามีข้อเสียไหม ก็มีบ้างครับ อย่างที่บอกเรื่องครู บางทีก็ต้องใช้เวลาหาคนที่สอนถูกใจเราหน่อย แล้วก็เนื้อหาบางทีมันอาจจะไม่ได้ลงลึกมาก เหมาะสำหรับคนที่อยากฝึกพูดคุยทั่วไปมากกว่าจะเน้นแกรมม่าเป๊ะๆ หรือเตรียมสอบอะไรจริงจัง

สรุปแล้ว เรียน PalFish ดีไหม?

สำหรับผมนะ ถ้าถามว่าดีไหม ผมว่ามันก็ “ดีในระดับนึง” ครับ คือมันก็ช่วยให้ผมกล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ได้ฝึกฟังสำเนียงที่หลากหลาย (ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นฟิลิปปินส์) แล้วก็สะดวกสบายเรื่องเวลามากๆ

แต่ถ้าคุณคาดหวังว่าจะเรียนแล้วเก่งเทพ พูดคล่องปรื๋อเหมือนเจ้าของภาษาภายในไม่กี่เดือน อันนี้อาจจะไม่ใช่คำตอบครับ ผมว่า PalFish มันเหมาะกับคนที่อยากจะเริ่มต้น อยากจะหาคนคุยด้วยเป็นภาษาอังกฤษแบบไม่เครียดมาก หรือคนที่อยากจะรักษาทักษะการพูดให้มันคงที่อยู่เสมอ

ส่วนตัวผมเอง หลังจากลองเรียนไปได้สักพักใหญ่ๆ ก็รู้สึกว่ามันถึงจุดนึงที่อยากจะลองอะไรที่มันท้าทายมากขึ้น หรือเนื้อหาที่มันเฉพาะทางมากขึ้น แต่ก็ถือว่า PalFish เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้ผมไม่กลัวการพูดภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ

สุดท้ายนี้ก็หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจอยู่นะครับ ลองชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียดู แล้วก็เลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเองที่สุดครับผม!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ