เอ้อ พอพูดถึงเรื่องคอร์สเรียนภาษาอังกฤษอนุบาลนะ มันก็มีเรื่องให้เม้าท์เยอะเลย คือตอนนั้นน่ะ ลูกเราก็เริ่มเข้าวัยที่แบบ…เออ ควรจะต้องได้อะไรบ้างแล้วมั้ง ภาษาที่สองไรงี้ เพื่อนฝูงรอบตัวก็เริ่มพาลูกไปเรียนพิเศษกันแล้วไง เราก็แบบ เอ๊ะ! หรือเราจะช้าไปวะ

จุดเริ่มต้นของการตามล่าหาคอร์ส

เอาจริง ๆ นะ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าแค่หาคอร์สใกล้บ้าน ราคาพอรับได้ ครูดูโอเคก็น่าจะจบ แต่พอเริ่มลงมือหาข้อมูลเท่านั้นแหละ โอ้โห! มันเยอะแยะยุบยับไปหมดเลยคุณเอ๊ย มีทั้งแบบเรียนตัวต่อตัว กลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ เน้นโฟนิคส์ เน้นสนทนา เน้นเพลง เน้นเล่น คือแบบ…เลือกไม่ถูกเลยจริง ๆ

เราก็เริ่มจากถามเพื่อนก่อนเลย เพื่อนที่ลูกเรียนอยู่แล้วก็แนะนำมาบ้าง แต่ละคนก็เชียร์ที่ตัวเองเรียนอ่ะนะ ก็เป็นธรรมดา เราก็จด ๆ ไว้ แล้วก็เข้าเน็ตเลยจ้า เสิร์ชหาแหลก คีย์เวิร์ด “คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ อนุบาล” “สอนภาษาอังกฤษเด็กเล็ก” อะไรทำนองนั้น อ่านรีวิว ดูหลักสูตรคร่าว ๆ บางที่ก็มีให้ทดลองเรียนฟรีด้วยนะ

ประสบการณ์ตรงจากการทดลองเรียน

ทีนี้ก็ถึงคิวพาลูกไปลองของจริงบ้างแล้ว เราเลือกมาสองสามที่ ที่ดูแล้วน่าจะโอเคกับงบประมาณและเวลาของเรา ที่แรกนะ โอ้โห! ดูดีมาก สถานที่สวย ครูเป็นฝรั่งสำเนียงเป๊ะ ลูกเราก็ดูตื่นเต้นนะ แต่พอเรียนไปสักพัก เหมือนครูเค้าจะเน้นวิชาการไปหน่อย เด็กเล็ก ๆ อ่ะคุณ จะให้มานั่งท่องศัพท์ แกรมม่าจ๋า ๆ มันก็ไม่ไหว ลูกเราเริ่มงอแง เราก็เลยแบบ…อืมมม ที่นี่อาจจะไม่ใช่ทาง

ที่ต่อไป ก็เป็นแนวเล่น ๆ หน่อย มีเพลง มีเกม ครูเป็นคนไทยแต่สำเนียงใช้ได้เลย ลูกเราดูสนุกมาก หัวเราะเอิ๊กอ๊าก แต่เราก็แอบกังวลนิด ๆ ว่าเอ๊ะ…จะเล่นเยอะไปจนไม่ได้เนื้อหาอะไรเลยรึเปล่าวะ แต่ก็สังเกตการณ์ไปเรื่อย ๆ ดูว่าครูเค้าสอดแทรกคำศัพท์ หรือประโยคง่าย ๆ เข้าไปตอนเล่นยังไงบ้าง

• ดูปฏิกิริยาลูกเป็นหลักเลยว่าชอบมั้ย สนุกรึเปล่า
• คุยกับคุณครู ถามแนวทางการสอน การวัดผล (ถ้ามี)
• ดูสภาพแวดล้อม ความสะอาด ความปลอดภัย

หลังจากตะลอนทัวร์ทดลองเรียนอยู่พักนึง เราก็เริ่มจับทางได้ว่าลูกเราน่าจะเหมาะกับแนวไหน คือนางชอบเล่น ชอบกิจกรรม ไม่ชอบอะไรที่มันเป็นทางการมากเกินไป

บทสรุปและการตัดสินใจ

สุดท้ายแล้วนะ เราก็ตัดสินใจเลือกที่ที่ลูกดูมีความสุขที่สุดตอนไปทดลองเรียน ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ดูเลิศหรูอลังการเท่าที่แรก หรือไม่ได้เน้นวิชาการจ๋า ๆ แต่เรารู้สึกว่าลูกอยากไปเรียน ไม่ร้องไห้งอแงตอนเช้า แค่นี้ก็พอใจแล้วล่ะ

เราเริ่มจากให้เค้าเรียนอาทิตย์ละครั้งก่อน ดูฟีดแบ็กไปเรื่อย ๆ แล้วก็พยายามเสริมที่บ้านด้วยนะ เปิดเพลงภาษาอังกฤษง่าย ๆ ให้ฟัง อ่านนิทานสองภาษาบ้าง ชี้ชวนให้ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษแบบไม่มีซับ (เอ๊ย มีซับก็ได้ แต่เน้นฟังเสียง) คือเราว่าบรรยากาศที่บ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน ทำให้เค้ารู้สึกว่าภาษาอังกฤษมันอยู่รอบตัว ไม่ใช่แค่เรื่องที่ต้องไปเรียนพิเศษอย่างเดียว

ตอนนี้ลูกก็เรียนมาได้สักพักแล้วนะ ก็เริ่มมีคำศัพท์ติดปากมาบ้าง พูดเป็นประโยคสั้น ๆ ได้บ้าง เห็นเค้ากล้าพูด กล้าเล่นกับครู เราก็โอเคแล้วล่ะ ไม่ได้คาดหวังว่าต้องเก่งเทพอะไรมากมาย ขอแค่ให้เค้าไม่กลัวภาษาอังกฤษก็พอแล้ว ส่วนเรื่องจะต่อยอดไปยังไง ก็คงต้องดูกันไปยาว ๆ อีกที

นี่แหละ ประสบการณ์ตรง ๆ ของเรากับการหาคอร์สภาษาอังกฤษให้เจ้าตัวเล็ก ใครมีประสบการณ์แบบไหนก็มาแชร์กันได้นะ เผื่อเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ท่านอื่น ๆ ด้วย

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ