สวัสดีครับทุกคน วันนี้ก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย เรื่องการหาการ์ตูนภาษาอังกฤษให้ลูกดูเนี่ยแหละครับ ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรนะครับ แต่อยากเล่าจากที่ลองทำเองล้วนๆ เลย
จุดเริ่มต้นของการผจญภัย
คืออย่างงี้ครับ ตอนลูกผมเริ่มโตหน่อย ผมก็คิดว่าเออ อยากให้แกได้ซึมซับภาษาอังกฤษบ้าง วิธีที่ง่ายที่สุดที่นึกออกก็คือการ์ตูนนี่แหละ เปิดให้ดูไปเลย ง่ายดี แต่เชื่อมั้ยครับว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย ตอนแรกๆ ก็สักแต่ว่าเปิดๆ ไปในยูทูบนั่นแหละครับ การ์ตูนเด็กเยอะแยะไปหมด

ลองผิดลองถูก ค่อยๆ เรียนรู้
พอลองเปิดไปเรื่อยๆ ก็เริ่มสังเกตเห็นปัญหาครับ บางเรื่องภาพสวยนะ แต่พูดเร็วปรื๋อเลย ลูกผมก็ได้แต่มองตาปริบๆ บางเรื่องก็ศัพท์ยากเกิ๊น ขนาดเราฟังเองยังต้องตั้งใจเลย แล้วเด็กจะไปเหลืออะไรล่ะครับ บางทีเจอการ์ตูนที่เนื้อหาแปลกๆ ไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็กก็มีอีก ผมเลยคิดว่าไม่ได้การละ ต้องเลือกหน่อย
สิ่งที่ผมเริ่มทำก็คือ:- นั่งดูไปด้วยกัน: อันนี้สำคัญมากครับ ผมจะนั่งดูไปกับลูกเลยช่วงแรกๆ เพื่อดูว่าเค้าสนใจมั้ย ภาษาเป็นยังไง เนื้อหาโอเคหรือเปล่า
- สังเกตปฏิกิริยาของลูก: ถ้าเรื่องไหนแกดูแล้วเฉยๆ หรือดูไม่เข้าใจ ผมก็จะลองเปลี่ยนเรื่องครับ ไม่ฝืน
- เริ่มจากช้าๆ ชัดๆ: ผมพยายามหาการ์ตูนที่ตัวละครพูดช้าๆ ชัดๆ คำศัพท์ไม่ซับซ้อนมาก เน้นคำที่ใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน
- ภาพต้องสื่อสาร: สำหรับเด็กเล็กๆ เนี่ย ภาพสำคัญมากครับ ผมจะเลือกเรื่องที่ภาพมันช่วยอธิบายสิ่งที่ตัวละครพูดได้ คือดูภาพก็พอเดาเรื่องได้บ้าง
การ์ตูนแบบไหนที่เวิร์ค (สำหรับบ้านผมนะ)
หลังจากลองมาพักใหญ่ๆ ผมก็เริ่มจับทางได้ว่าการ์ตูนแบบไหนที่ลูกผมชอบและได้ผลดี อย่างเช่น:
- การ์ตูนที่มีเพลงเยอะๆ: เด็กๆ ชอบเพลงครับ เพลงภาษาอังกฤษง่ายๆ ที่มีท่าทางประกอบไปด้วยนี่ลูกผมชอบมาก แล้วเค้าก็จะพยายามร้องตาม เต้นตาม
- การ์ตูนที่สอนคำศัพท์เป็นหมวดหมู่: เช่น สอนเรื่องสี รูปทรง สัตว์ ตัวเลข พวกนี้จะเข้าใจง่าย เห็นภาพชัดเจน
- การ์ตูนที่เน้นการทำซ้ำ: ประโยคเดิมๆ คำเดิมๆ พูดซ้ำๆ บ่อยๆ ช่วยให้เด็กจำได้ง่ายขึ้นครับ
- เรื่องราวไม่ซับซ้อน: เนื้อเรื่องง่ายๆ เข้าใจได้ ไม่ต้องมีปมอะไรเยอะแยะ เด็กจะได้ตามทัน
ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าลูกจะต้องเก่งภาษาอังกฤษทันทีทันใดนะครับ แค่อยากให้เค้าคุ้นเคยกับภาษา ไม่กลัวที่จะฟัง แล้วก็หวังว่ามันจะเป็นพื้นฐานที่ดีให้เค้าในอนาคต การ์ตูนนี่ก็เป็นแค่เครื่องมือหนึ่งที่ผมลองใช้ดู มันก็มีทั้งที่เวิร์คบ้างไม่เวิร์คบ้าง ก็ต้องปรับกันไปเรื่อยๆ ครับ
สรุปส่งท้ายจากประสบการณ์
สุดท้ายแล้ว ผมว่าไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับว่าต้องดูเรื่องไหนถึงจะดีที่สุด มันขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนด้วยว่าชอบแบบไหน แต่ที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องใส่ใจ สละเวลามาเลือก มานั่งดูไปกับเค้าบ้าง แล้วก็คอยสังเกตลูกเราครับว่าเค้าตอบสนองยังไง เหนื่อยหน่อยแต่ก็คุ้มครับ ผมก็ยังลองผิดลองถูกอยู่เรื่อยๆ ครับ ถ้ามีอะไรดีๆ อีกจะมาแชร์ใหม่นะครับ วันนี้ก็ประมาณนี้แหละครับ สวัสดีครับ
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments