สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเลยนะ กับเรื่องการหาแอปเรียนภาษาอังกฤษฟรีให้ลูก ๆ ที่บ้าน คือแบบว่า พอเด็ก ๆ เริ่มโตขึ้นมาหน่อย เราก็อยากให้เขาได้ซึมซับภาษาอังกฤษกันบ้างใช่ไหมครับ แต่จะให้ไปลงคอร์สเรียนแพง ๆ ตั้งแต่เล็ก ๆ ก็ยังไงอยู่ เลยคิดว่าลองหาแอปฟรี ๆ มาให้เล่นก่อนดีกว่า
จุดเริ่มต้นการผจญภัยในโลกแอปฟรี
ตอนแรกเลยนะ ผมก็เข้าไปในพวกสโตร์ของมือถือเลย ทั้งฝั่งผลไม้ (iOS) ทั้งฝั่งหุ่นเขียว (Android) แล้วก็พิมพ์ค้นหาไปตรง ๆ เลยว่า “แอปเรียนภาษาอังกฤษเด็ก ฟรี” โอ้โห! สิ่งที่เจอคือมันเยอะมากครับ เยอะจนเลือกไม่ถูกเลยจริง ๆ แต่ละอันก็ดูน่าสนใจไปหมด รูปการ์ตูนสีสันสดใสเต็มไปหมด

ผมก็เริ่มไล่ดูทีละอัน สองอัน อ่านรีวิวบ้างอะไรบ้าง แต่ส่วนใหญ่รีวิวมันก็มีทั้งดีทั้งไม่ดีปน ๆ กันไปอีกนั่นแหละ ตัดสินใจยากจริง ๆ
กับดักคำว่า “ฟรี” ที่ต้องเจอ
สิ่งที่ผมเจอเป็นประจำเลยนะ คือหลายแอปเนี่ย มันจะบอกว่า “ฟรี” ตัวโต ๆ เลย แต่พอโหลดมาติดตั้ง เปิดเข้าไปเล่นได้แป๊บเดียวจริง ๆ ไม่กี่ด่าน ไม่กี่บทเรียน มันก็จะขึ้นมาบอกว่า “ถ้าอยากเล่นต่อ ต้องจ่ายเงินนะจ๊ะ” หรือ “ปลดล็อกเนื้อหาทั้งหมดด้วยการสมัครสมาชิกรายเดือน/รายปี” อะไรทำนองนี้ ผมนี่แบบ อ้าว! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา (ฮา)
บางแอปก็โฆษณาเยอะมาก เยอะจนน่ารำคาญ กดผิดกดถูกไปโดนโฆษณาตลอด ลูกก็หงุดหงิดไปอีก อันนี้ก็ต้องทำใจลบออกไปครับ เสียเวลาโหลดมาเปล่า ๆ

แล้วแอปฟรีดี ๆ มันมีจริงไหม?
ถามว่ามีไหม? ผมว่ามันก็มีนะ แต่ต้องใช้ความพยายามในการค้นหาหน่อย แล้วก็ต้องทำความเข้าใจว่า “ฟรี” ในที่นี้ มันอาจจะไม่ได้ฟรีทั้งหมด 100% หรือถ้าฟรีจริง ๆ เนื้อหาอาจจะไม่ได้เยอะเท่าแอปที่เสียเงิน อันนี้เป็นเรื่องปกติครับ
- แอปที่ฟรีจริง ๆ แบบไม่มีเงื่อนไข: ส่วนใหญ่มักจะเป็นแอปจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร หรือโครงการของรัฐบาลบางประเทศ อันนี้เนื้อหาดีเลยนะ แต่หน้าตาอาจจะไม่ได้หวือหวาเท่าแอปเอกชน
- แอปที่ให้เนื้อหาพื้นฐานฟรี: หลายแอปจะให้บทเรียนเริ่มต้น คำศัพท์ง่าย ๆ หรือเกมเบื้องต้นให้ลองเล่นฟรีก่อน ถ้าชอบใจ อยากได้เนื้อหาที่ลึกขึ้น หรือไม่มีโฆษณา ก็ค่อยจ่ายเงิน อันนี้ผมว่าก็แฟร์ดีนะ ให้เราได้ลองก่อน
- แอปที่เน้นดูวิดีโอหรือฟังเพลง: พวกนี้บางทีก็มีช่องทางให้ดูฟรีเยอะเหมือนกัน เช่น ช่องเพลงเด็กภาษาอังกฤษในแพลตฟอร์มวิดีโอต่าง ๆ อันนี้เด็ก ๆ ชอบมาก
สิ่งที่ผมทำตอนเลือกและใช้งาน
ผมก็ใช้วิธีลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ ครับ โหลดมาแล้วก็ลองเล่นกับลูกดูเลย สังเกตว่าเขาชอบอันไหน อันไหนที่เขามีส่วนร่วม เล่นแล้วสนุก ไม่ใช่แค่เราบังคับให้เล่น
ข้อสำคัญเลยนะ คืออย่าปล่อยให้ลูกเล่นคนเดียวครับ เราต้องนั่งอยู่ข้าง ๆ คอยชวนคุย คอยถามว่า “อันนี้คืออะไร” “สีอะไร” หรือร้องเพลงตามไปด้วย มันจะทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเยอะเลย แอปมันเป็นแค่เครื่องมือช่วยครับ แต่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกสำคัญที่สุด
ผมสังเกตว่าแอปที่เวิร์คกับลูกผม มักจะเป็นแอปที่:

- มีเพลงสนุก ๆ ให้ร้องตาม
- มีเกมง่าย ๆ ที่ไม่ซับซ้อนเกินไป
- มีภาพการ์ตูนน่ารัก ๆ สีสันสดใส
- ออกเสียงชัดเจน ฟังง่าย
ส่วนแอปที่เน้นสอนแกรมมาร์หนัก ๆ หรือมีแต่ตัวหนังสือเยอะ ๆ ลูกผมไม่เอาเลยครับ เปิดแป๊บเดียวก็เบื่อแล้ว ก็ต้องลบทิ้งไป
สรุปประสบการณ์การตามล่าแอปฟรี
สุดท้ายแล้ว การหาแอปเรียนภาษาอังกฤษฟรีให้เด็กเนี่ย มันก็เหมือนการงมเข็มในมหาสมุทรนิด ๆ ครับ (หัวเราะ) มันมีเยอะจริง แต่ที่ดีและฟรีจริง ๆ แบบถูกใจเราทุกอย่างอาจจะหายากหน่อย
คำแนะนำของผมก็คือ:
- ใจเย็น ๆ: ค่อย ๆ หา ค่อย ๆ ลองไปทีละแอป
- อ่านรีวิวประกอบ: แต่ก็อย่าเชื่อทั้งหมด ต้องลองเอง
- ดูว่า “ฟรี” แบบไหน: ฟรีจริง หรือมีเงื่อนไขแอบแฝง
- ให้ลูกลองเล่น: ดูว่าเขาชอบไหม อันนี้สำคัญสุด
- เล่นกับลูก: อย่าปล่อยให้เขาเรียนกับแอปคนเดียว
หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่น ๆ ที่กำลังมองหาแอปให้ลูก ๆ อยู่นะครับ มันอาจจะไม่ได้ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปถ้าเราตั้งใจครับ สู้ ๆ ครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments