เอาล่ะ วันนี้จะมาเล่าเรื่องที่ไปเรียน IELTS มา คือเรื่องมันเริ่มจากที่คิดไว้นานแล้วแหละว่าอยากจะลองสอบดูเผื่อมีโอกาสได้ใช้ในอนาคต ไม่ว่าจะเรื่องเรียนต่อหรือเรื่องงาน ก็เลยเริ่มหาข้อมูลก่อนเลยว่ามันคืออะไร สอบอะไรบ้าง ยากไหม
สำรวจเบื้องต้นกับ IELTS
ตอนแรกก็งงๆ นะ มีทั้ง Listening, Reading, Writing, Speaking โอ้โห! อะไรมันจะเยอะแยะขนาดนี้ แต่พอตั้งสติได้ก็เริ่มมองหาที่เรียนเลย เพราะคิดว่าถ้าอ่านเองคงไม่รอดแน่ๆ คือเป็นคนไม่มีวินัยพอจะบังคับตัวเองให้อ่านหนังสือได้นานๆ หรอก ฮ่าๆๆ
ฉันเริ่มจากการเสิร์ชหาข้อมูลสถาบันสอน IELTS ในอินเทอร์เน็ตนี่แหละ มีเยอะมากจนเลือกไม่ถูกเลยจริงๆ บางที่ก็ดูหรูหราอลังการ ค่าคอร์สก็แพงหูฉี่ บางที่ก็ดูบ้านๆ หน่อย ราคาก็ย่อมเยาลงมาหน่อย ตอนนั้นก็คิดหนักเลยว่าจะเอาไงดีวะ
ตัดสินใจเลือกที่เรียน และเริ่มลุย
สุดท้ายก็ไปเจอที่นึงแถวๆ ที่ทำงานเก่า เดินทางสะดวกหน่อย แล้วก็ดูจากรีวิวคนอื่นๆ เขาก็บอกว่าสอนดี เข้าใจง่าย ก็เลยลองติดต่อไปดู สอบถามรายละเอียดคอร์สต่างๆ เขาจะมีให้ทดลองสอบวัดระดับก่อนด้วยนะ เพื่อจะได้จัดคลาสให้เหมาะสมกับเรา พอได้ลองทำข้อสอบวัดระดับเท่านั้นแหละ รู้เรื่องเลยว่าพื้นฐานเราอ่อนด๋อยแค่ไหน โดยเฉพาะพาร์ท Writing กับ Speaking นี่คือไปไม่เป็นเลยจริงๆ
พอได้เริ่มเรียนวันแรกก็ตื่นเต้นนิดหน่อย ในคลาสก็มีเพื่อนๆ หลายคนมาจากหลากหลายที่ แต่เป้าหมายเดียวกันคืออยากได้คะแนน IELTS ดีๆ ครูผู้สอนก็เป็นชาวต่างชาติสำเนียงเป๊ะมาก ตอนแรกๆ ก็เกร็งๆ ไม่กล้าพูด แต่ครูเขาก็พยายามชวนคุย ชวนตอบคำถาม บรรยากาศในห้องก็เลยเริ่มผ่อนคลายขึ้น
สิ่งที่ฉันโฟกัสมากๆ คือการบ้านที่ครูสั่ง เพราะรู้ตัวว่าถ้าไม่ทำ ไม่ทบทวน กลับไปก็ลืมหมด โดยเฉพาะ Writing นี่ครูจะให้หัวข้อมาให้ไปลองเขียนเป็น Essay แล้วเขาก็จะตรวจแก้ให้ละเอียดเลยว่าตรงไหนต้องปรับปรุง โครงสร้างประโยคเป็นยังไง คำศัพท์ควรใช้คำไหน ส่วน Speaking ก็จะมีการจับคู่ให้ฝึกพูดกันในห้อง หรือไม่ก็ให้พูดหน้าชั้นเรียนทีละคน ตอนแรกนี่โคตรอายเลย พูดตะกุกตะกัก แต่พอทำบ่อยๆ มันก็เริ่มชินไปเอง
ส่วน Reading กับ Listening อันนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนทำโจทย์เยอะๆ เลย ที่สถาบันเขาก็จะมีหนังสือ มีแบบฝึกหัดให้ทำเยอะมาก ฉันก็พยายามทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางทีก็เอาโจทย์กลับมาทำต่อที่บ้านด้วย
ช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนด้วยตัวเอง
หลังจากจบคอร์สไปแล้ว ฉันก็ไม่ได้หยุดแค่นั้นนะ เพราะรู้ว่าถ้าหยุด พื้นฐานที่อุตส่าห์ปูมามันจะหายหมด ฉันก็ยังคงฝึกทำข้อสอบเก่าๆ อยู่เรื่อยๆ หาโหลดจากในเน็ตบ้าง ซื้อหนังสือมาทำเพิ่มบ้าง พยายามจับเวลาเหมือนสอบจริงเลย
มีอยู่ช่วงนึงที่รู้สึกท้อมาก คือทำยังไงคะแนนก็ไม่ขึ้นสักที โดยเฉพาะ Writing เขียนยังไงก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ดีพอ อ่านเองก็ไม่รู้จะแก้ตรงไหน เลยต้องกลับไปปรึกษาครูที่สถาบันอีกรอบ เขาก็ใจดีนะ ให้คำแนะนำเพิ่มเติมมาอีกเพียบ

ฉันเริ่มดูซีรีส์ฝรั่งแบบเปิดซับอังกฤษ พยายามฟังเยอะๆ ให้ชินสำเนียง แล้วก็พยายามหาโอกาสพูดภาษาอังกฤษกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันบ้าง หรือบางทีก็พูดกับตัวเองหน้ากระจกนี่แหละ ฮ่าๆๆๆ อาจจะดูบ้าๆ หน่อย แต่มันก็ช่วยได้นะ
วันสอบจริงและผลลัพธ์ที่ได้
พอถึงวันสอบจริง ตื่นเต้นมากกกก มือเย็นเฉียบไปหมด แต่ก็พยายามตั้งสติ ทำตามที่ฝึกซ้อมมา พาร์ท Listening ก็พยายามมีสมาธิ พาร์ท Reading ก็พยายามบริหารเวลาให้ดี ส่วน Writing ก็พยายามเขียนให้ครบตามโครงสร้างที่เรียนมา และ Speaking ก็พยายามพูดให้เป็นธรรมชาติที่สุด
หลังจากรอผลอยู่ประมาณสองอาทิตย์ ผลสอบก็ออกมา คะแนนก็เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่งนะ อาจจะไม่ได้สูงเวอร์วังอะไร แต่ก็ถือว่าผ่านเกณฑ์ที่ตัวเองตั้งเป้าไว้ ดีใจมากที่ความพยายามของเรามันไม่สูญเปล่า
สรุปแล้วการเรียน IELTS ของฉันมันก็เป็นประสบการณ์ที่เหนื่อยแต่ก็คุ้มค่านะ มันทำให้เรารู้ว่าถ้าเราตั้งใจทำอะไรจริงๆ จังๆ มันก็สำเร็จได้แหละ แม้จะต้องใช้เวลาและความอดทนมากหน่อยก็ตาม หวังว่าเรื่องราวของฉันจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังคิดจะไปเรียน IELTS บ้างนะ สู้ๆ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments