สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่งได้ลองทำดูเมื่อไม่กี่วันก่อน คือเรื่องมันเริ่มจากที่ผมนั่งว่างๆ แล้วก็นึกถึงนิทานเก่าๆ ที่เคยฟังตอนเด็กๆ หนึ่งในเรื่องที่ผุดขึ้นมาในหัวก็คือ “นิทานเด็กเลี้ยงแกะ” นี่แหละครับ จำได้ลางๆ ว่ามันสอนเรื่องอะไร แต่รายละเอียดนี่สิ ชักจะเลือนๆ ไปบ้างแล้ว
เริ่มจากความสงสัย
ผมก็เลยลองไปค้นๆ ดูเนื้อเรื่องเต็มๆ อีกที เออแฮะ มันก็คลาสสิกจริงๆ นะ พอนั่งอ่านจบก็เกิดความคิดพิเรนทร์ๆ ขึ้นมาว่า เอ๊ะ ถ้าเราลองเอามาเล่าใหม่ในสไตล์ของเราเอง หรือลองทำเป็นอะไรสักอย่างง่ายๆ เก็บไว้ดูเล่นมันจะออกมาเป็นยังไงนะ
ทีนี้ก็เริ่มเลยครับ ขั้นแรกคือทำความเข้าใจตัวละคร เด็กเลี้ยงแกะนี่มันนิสัยยังไงนะ? ขี้เบื่อ? ชอบเรียกร้องความสนใจ? หรือแค่คึกคะนอง? ส่วนชาวบ้านนี่ก็น่าสนใจ ทำไมถึงเชื่อเด็กในตอนแรก แล้วทำไมถึงเลิกเชื่อ? ผมลองคิดตามว่าถ้าเป็นเรา เราจะทำยังไง
ลงมือปฏิบัติจริง (แบบบ้านๆ)
ผมไม่ได้มีเครื่องมืออะไรหรูหรานะครับ อาศัยแค่กระดาษกับดินสอที่มีอยู่แถวๆ นั้นแหละ ลองวาดสตอรี่บอร์ดง่ายๆ ออกมาเป็นช่องๆ ดูว่าจะเล่าเรื่องยังไงให้มันกระชับแต่ได้ใจความ
- ฉากเปิดตัว: เด็กเลี้ยงแกะกำลังเบื่อๆ กับฝูงแกะของตัวเอง
- จุดเริ่มต้นของเรื่อง: ตะโกนหลอกครั้งแรก ชาวบ้านวิ่งมาช่วย
- การกระทำซ้ำ: ตะโกนหลอกอีกหลายครั้ง ชาวบ้านเริ่มเอือมระอา
- จุดไคลแม็กซ์: หมาป่ามาจริงๆ เด็กตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครเชื่อ
- บทสรุป: ฝูงแกะโดนหมาป่ากิน เด็กเสียใจ (อันนี้สำคัญมาก ต้องสื่ออารมณ์ให้ได้)
ตอนวาดนี่ก็ตลกตัวเองเหมือนกันครับ ฝีมือก็ไม่ได้เรื่องเท่าไหร่ แต่ก็สนุกดีนะ ได้คิดว่าจะวาดหน้าตาเด็กตอนโกหกยังไง ตอนตกใจจริงยังไง แล้วหน้าตาชาวบ้านตอนโมโห ตอนไม่เชื่อ มันก็เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เรื่องมันมีชีวิตชีวาขึ้นมา
ความท้าทายเล็กๆ ที่เจอคือ จะทำยังไงให้คนดู (สมมติว่ามีคนดู ฮ่าๆ) รู้สึกคล้อยตามได้ว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงทำแบบนี้ แล้วผลที่ตามมามันร้ายแรงแค่ไหน ผมพยายามเน้นไปที่สีหน้าและแววตาของตัวละครเด็กเลี้ยงแกะเป็นพิเศษเลยครับ จากที่ดูสนุกสนานตอนโกหกสำเร็จ กลายเป็นสิ้นหวังตอนไม่มีใครช่วย
สิ่งที่ได้เรียนรู้ (นอกเหนือจากนิทาน)
พอทำเสร็จ (แบบงูๆ ปลาๆ) แล้วมานั่งดูผลงานตัวเอง ก็รู้สึกว่าเออ มันก็สอนใจเราได้ดีเหมือนกันนะ ไม่ใช่แค่สอนเด็กๆ เท่านั้น เรื่องของความซื่อสัตย์กับการได้รับความไว้วางใจเนี่ย มันเป็นเรื่องที่ใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัยจริงๆ
ลองนึกดูสิครับ ในชีวิตประจำวันของเราเองก็มีเรื่องคล้ายๆ กันเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ การที่เราพูดอะไรไม่จริง หรือทำอะไรที่ไม่น่าเชื่อถือบ่อยๆ เข้า สุดท้ายพอถึงเวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือจริงๆ หรือพูดความจริง ก็อาจจะไม่มีใครอยากเชื่อเราแล้วก็ได้ มันเหมือนกับการทำลายเครดิตของตัวเองไปทีละน้อยๆ
สุดท้ายนี้ การได้ลองหยิบนิทานเก่าๆ มาปัดฝุ่นแล้วลองทำอะไรกับมันแบบนี้ ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ มันไม่ใช่แค่การย้อนรำลึกความหลัง แต่ยังทำให้เราได้ฉุกคิดถึงแก่นแท้ของเรื่องราวเหล่านั้นด้วย ใครว่างๆ ลองหยิบนิทานเรื่องโปรดมาทำอะไรเล่นๆ ดูบ้างก็ได้นะครับ ไม่แน่อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ เหมือนผมก็ได้

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments