เอ้อ พอใกล้จะสิ้นปีทีไรนะ เรื่องนึงที่คนชอบถามกันจังเลยก็คือ “คำขวัญวันเด็กปีหน้าคืออะไร?” โดยเฉพาะปี 68 เนี่ย เริ่มมีคนเกริ่นๆ มาละ

เอาจริง ๆ นะ ผมเองก็ยังไม่รู้หรอก ส่วนใหญ่ท่านนายกฯ ท่านจะคิดแล้วก็ประกาศออกมาช่วงปลายปีนู่นแหละ หรือบางทีก็ต้นปีใหม่เลยด้วยซ้ำไป แต่ที่ผมสังเกตมาทุกปีนะ คำขวัญวันเด็กเนี่ย มันไม่ใช่แค่คำพูดสวยๆ นะ มันเหมือนเป็นเข็มทิศเล็กๆ ที่ผู้ใหญ่อยากจะชี้ทางให้เด็กๆ ในปีนั้นๆ

ประสบการณ์ส่วนตัวกับคำขวัญวันเด็ก

จำได้เลย สมัยลูกผมยังเล็กๆ โอ้โห…ตื่นเต้นกันมาก วันเด็กนี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับครอบครัวเราเลยนะ ผมเองก็ต้องคอยดูเลยว่าปีนี้คำขวัญว่าอะไร จะได้เอาไปสอนลูก ไปคุยกับลูกได้ถูก ไม่ใช่แค่ให้ลูกไปโรงเรียนแล้วกลับมาเล่าให้ฟังอย่างเดียว แต่เราต้องมีส่วนร่วมด้วย

ผมทำแบบนี้ครับ พอรู้คำขวัญปุ๊บ ผมจะจดใส่กระดาษแปะไว้ที่ตู้เย็นเลย แล้วก็ชวนลูกๆ มาอ่านด้วยกัน ตอนแรกๆ ลูกคนเล็กก็อ่านไม่ออกหรอก ก็อาศัยพี่อ่านให้ฟัง หรือผมอ่านให้ฟัง แล้วก็พยายามอธิบายความหมายให้เขาเข้าใจง่ายๆ แบบเด็กๆ น่ะ ไม่ใช่พูดภาษาทางการยากๆ

• พยายามเชื่อมโยงกับสิ่งที่เขาเจอในชีวิตประจำวัน เช่น ถ้าคำขวัญเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ ก็จะยกตัวอย่างว่า “เห็นไหมลูก ถ้าเราเก็บของได้แล้วคืนเจ้าของ นั่นแหละคือซื่อสัตย์”
• ทำให้เป็นเรื่องสนุก บางทีก็แต่งเป็นเพลงง่ายๆ หรือให้เขาวาดรูปตามความเข้าใจของเขาจากคำขวัญนั้นๆ
• ทำซ้ำๆ ไม่ใช่พูดครั้งเดียวจบ แต่จะคอยย้ำ คอยถามเรื่อยๆ ตลอดทั้งปีนั้นแหละ

ผมว่ามันได้ผลนะ อย่างน้อยๆ ลูกผมก็จำคำขวัญได้ แล้วก็พอจะเข้าใจความหมายที่ผู้ใหญ่อยากจะสื่อสาร บางปีคำขวัญก็ดี๊ดี จำง่าย ความหมายลึกซึ้ง เด็กๆ ก็ชอบ ผู้ใหญ่ก็เห็นด้วย แต่บางปีนะ…แหม…ก็ต้องยอมรับว่ามันอาจจะยาวไปบ้าง หรือเข้าใจยากไปนิดสำหรับเด็กเล็ก อันนี้ไม่ได้ว่าใครนะ ผมเข้าใจว่าคนคิดก็อยากจะให้มันครอบคลุมทุกอย่างแหละ

แล้วปี 68 ล่ะ?

สำหรับปี 68 เนี่ย ผมก็แอบลุ้นนะ อยากให้เป็นคำขวัญที่สั้นๆ กระชับ จำง่าย แล้วก็สื่อถึงสิ่งที่เด็กยุคนี้ควรจะโฟกัสจริงๆ อาจจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมอย่างเดียว หรือเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำได้ หรือแม้แต่เรื่องการรักษาสุขภาพกายใจให้แข็งแรงในยุคที่อะไรๆ มันก็เร็วไปหมด

ที่ผมคิดแบบนี้ เพราะจากประสบการณ์ที่คลุกคลีกับเด็กๆ มา ทั้งลูกตัวเอง ทั้งหลานๆ ผมเห็นว่าสิ่งเหล่านี้สำคัญมากจริงๆ มันไม่ใช่แค่ท่องจำไปตอบครู แต่มันคือการปลูกฝังนิสัยดีๆ ให้กับเขา

สิ่งที่ผมอยากจะทำ (ถ้ามีโอกาส)

ถ้าผมมีโอกาสได้เสนอแนวคิดคำขวัญนะ ผมจะลองเสนอคำที่มันฟังแล้วฮึกเหิมนิดๆ แต่ก็ยังคงความอ่อนโยนและเข้าใจง่ายสำหรับเด็กๆ อาจจะมีการเล่นคำนิดหน่อยให้มันติดหู

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคำขวัญจะเป็นอะไร สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่เราผู้ใหญ่ทุกคนใส่ใจและให้เวลากับเด็กๆ นั่นแหละครับ คำขวัญเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่การกระทำของเราต่างหากที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้เขาได้อย่างแท้จริง

เดี๋ยวพอประกาศออกมาจริงๆ ค่อยมาอัปเดตกันอีกทีเนอะ ว่าตรงกับที่คิดไว้ไหม ฮ่าๆ รอลุ้นไปด้วยกันครับ!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ