เอ้อ พอพูดถึงวันเด็กเนี่ยนะ มันก็วนมาอีกปีแล้วสินะที่เราต้องมานั่งคิดว่าจะอวยพรเด็กๆ ยังไงดี
เอาจริงๆ นะ เมื่อก่อนตอนผมยังไม่ได้มานั่งคิดจริงจังแบบนี้ ก็พูดๆ ไปตามแพทเทิร์นอ่ะ “ขอให้เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือนะลูก” อะไรทำนองนั้น แต่พอมาปีนี้ ผมลองเปลี่ยนวิธีคิดดูหน่อย

จุดเริ่มต้นของการคิดคำอวยพรแบบจริงจัง
ผมเริ่มจากลองย้อนกลับไปนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆ เลยนะ ว่าจริงๆ แล้วเด็กอย่างเราๆ เนี่ย อยากได้ยินคำอวยพรแบบไหนกันแน่ มันไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรูที่ผู้ใหญ่คิดว่าดีหรอก เอาเข้าจริงเด็กมันก็มีหัวคิดของมันนะ
ประสบการณ์ตรงเลยนะ คือผมมานั่งลิสต์เลยว่าอะไรบ้างที่เด็กๆ น่าจะอยากได้ยิน หรืออะไรที่จะเป็นประโยชน์กับเขาจริงๆ ในระยะยาว ไม่ใช่แค่ฟังแล้วก็ผ่านไป ผมใช้เวลาคิดเรื่องนี้นานพอสมควรเลยแหละ ไม่ใช่ปุบปับนึกออก
ขั้นตอนการกลั่นกรองคำอวยพร
ผมก็เริ่มจากการตัดคำอวยพรทั่วๆ ไปที่มันดูผิวเผินออกไปก่อนเลย พวก “ขอให้รวยๆ” อะไรแบบนี้สำหรับเด็กมันอาจจะยังไม่เก็ทเท่าไหร่ ผมว่านะ แล้วก็มานั่งคิดว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับพัฒนาการของเด็กจริงๆ
- ความสุขและความสนุก: อันนี้สำคัญมาก เด็กต้องได้เล่น ได้สนุกตามวัยของเขา ไม่ใช่เคร่งเครียดกับการเรียนอย่างเดียว
- ความกล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าทำ: ผมอยากให้เด็กๆ กล้าที่จะลองผิดลองถูก ไม่กลัวความล้มเหลว
- สุขภาพกายและใจที่แข็งแรง: พื้นฐานเลย ถ้าสุขภาพไม่ดีอย่างอื่นก็ลำบาก
- การสนับสนุนจากคนรอบข้าง: คำอวยพรมันต้องมาพร้อมกับการกระทำของผู้ใหญ่ด้วยนะ ไม่ใช่แค่พูดลอยๆ
หลังจากลิสต์ออกมาได้ประมาณนี้ ผมก็เริ่มเอามาเรียบเรียงเป็นคำพูดง่ายๆ ที่เด็กฟังแล้วเข้าใจได้ ไม่ซับซ้อน แล้วก็พยายามใส่ความรู้สึกจริงใจลงไปด้วย ไม่ใช่แค่พูดไปตามหน้าที่
ผลลัพธ์ที่ได้จากการลองเปลี่ยนวิธีคิด
พอผมลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูนะ เช่น เวลาอวยพรหลานๆ หรือเด็กๆ แถวบ้าน ผมรู้สึกว่าแววตาพวกเขามันดูมีความสุขขึ้นนะ มันไม่ใช่แค่การรับฟังเฉยๆ แต่เหมือนเขารับรู้ได้ถึงความปรารถนาดีที่เราส่งไปจริงๆ
สรุปแล้ว การหาคำอวยพรวันเด็กสำหรับผมปีนี้ มันไม่ใช่แค่การหาคำพูดเพราะๆ แต่ผมมองว่ามันคือการทำความเข้าใจเด็กๆ และมอบสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ ผ่านคำอวยพรเหล่านั้นแหละครับ ลองเอาวิธีของผมไปปรับใช้กันดูได้นะ ไม่หวงเลย มันก็เป็นแค่การแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวของผมเท่านั้นเอง
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments