ประสบการณ์ตรงล้วงลึก: พิชิตคะแนน IELTS ให้เต็มแม็กซ์ (หรือเกือบเต็ม!)
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวบล็อกทุกท่าน วันนี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ แบบไม่มีกั๊ก เกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบ IELTS ของผมเอง ที่ตั้งเป้าไว้ซะสูงลิ่วเลยว่าอยากได้คะแนนเต็ม บอกเลยว่าเส้นทางนี้มันไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปถ้าเราตั้งใจจริง วันนี้จะมาเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับว่าผมทำอะไรไปบ้าง
เรื่องของเรื่องคือผมมีความฝันอยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศครับ แล้วไอ้เจ้า IELTS เนี่ยมันเป็นเหมือนประตูด่านแรกที่เราต้องผ่านไปให้ได้ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากนะ คิดว่าภาษาอังกฤษเราก็พอได้แหละน่า แต่พอไปลองดูแนวข้อสอบเท่านั้นแหละ… โอ้โห! รู้ตัวเลยว่าที่คิดว่า “พอได้” เนี่ย มันยังห่างไกลจากคำว่า “ดี” เยอะเลยครับ โดยเฉพาะถ้าจะเอาคะแนนสูงๆ นี่ต้องยกเครื่องกันใหม่หมดเลย

จุดเริ่มต้นและการวางแผน
พอรู้ตัวว่าต้องเอาจริงเอาจังแล้ว ผมก็เริ่มจากการตั้งสติก่อนเลยครับ อย่างแรกคือต้องรู้เขารู้เรา ผมไปหาข้อมูลเกี่ยวกับข้อสอบ IELTS ทั้ง 4 ทักษะเลยครับ คือ การฟัง (Listening), การอ่าน (Reading), การเขียน (Writing), และการพูด (Speaking) ดูว่าแต่ละส่วนมันทดสอบอะไรบ้าง รูปแบบข้อสอบเป็นยังไง เกณฑ์การให้คะแนนคร่าวๆ เป็นแบบไหน
จากนั้นก็ประเมินตัวเองครับว่าเราอ่อนตรงไหน เก่งตรงไหน ส่วนตัวผมค่อนข้างกังวลเรื่อง Writing กับ Speaking มากที่สุด เพราะมันเป็นทักษะที่ต้องแสดงออกมา ไม่ใช่แค่เลือกคำตอบถูกผิดเหมือน Listening กับ Reading พอรู้จุดอ่อนจุดแข็งแล้ว ผมก็เริ่มวางแผนการอ่านหนังสือ การฝึกฝนเลยครับ กะเวลาไว้เลยว่าอยากจะสอบช่วงไหน แล้วนับถอยหลังมาว่ามีเวลาเตรียมตัวกี่เดือน จากนั้นก็ซอยย่อยแผนเป็นรายสัปดาห์ รายวันเลยว่าจะทำอะไรบ้าง
ลงมือปฏิบัติจริง: ลุยแต่ละทักษะ
ทีนี้มาดูรายละเอียดกันครับว่าแต่ละทักษะผมจัดการกับมันยังไงบ้าง:
- Listening (การฟัง):
อันนี้ผมเน้นฝึกฟังเยอะมากครับ ไม่ใช่แค่ฟังข้อสอบ IELTS อย่างเดียวนะ ผมฟังทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษเลย ทั้งพอดแคสต์, ข่าว BBC, CNN, ดูหนังฝรั่งแบบปิดซับไทย (เปิดซับอังกฤษแทนถ้าไม่ไหวจริงๆ) พยายามจับใจความสำคัญ จับคีย์เวิร์ด แล้วก็ฝึกทำข้อสอบเก่าๆ เยอะมากครับ สิ่งสำคัญคือต้องมีสมาธิมากๆ ตอนฟัง เพราะมันพูดเร็วแล้วก็มีข้อมูลเยอะแยะไปหมด แรกๆ ก็มีหลุดบ้าง จับไม่ได้บ้าง แต่พอฝึกบ่อยๆ หูมันจะเริ่มชินไปเองครับ แล้วก็พยายามฝึกจดโน้ตย่อๆ ระหว่างฟังด้วย ช่วยได้เยอะเลย
- Reading (การอ่าน):
ส่วนนี้ผมว่าหลายคนน่าจะทำคะแนนได้ดี แต่ก็ประมาทไม่ได้ครับ เพราะบทความมันยาวแล้วก็ศัพท์เฉพาะทางเยอะเหมือนกัน เทคนิคของผมคือฝึกอ่านแบบ Skimming (อ่านเร็วๆ เพื่อจับใจความรวม) กับ Scanning (กวาดตาหาข้อมูลเฉพาะ) ครับ ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกคำทุกประโยคให้เข้าใจหมด เพราะเวลาจำกัดมาก ผมจะอ่านคำถามก่อน แล้วค่อยไปหาคำตอบในบทความ ฝึกจับคีย์เวิร์ดในคำถามแล้วไปหาคำที่มีความหมายคล้ายกันในบทความครับ แล้วก็แน่นอนว่าต้องฝึกทำข้อสอบเก่าๆ เยอะๆ เช่นกัน จะได้ชินกับรูปแบบคำถามและวิธีบริหารเวลา
- Writing (การเขียน):
โอ้โห อันนี้งานหินของผมเลยครับ! Task 1 ที่ต้องอธิบายกราฟ แผนภูมิ ตารางนี่ก็ยากแล้ว Task 2 ที่ต้องเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็นนี่หนักกว่าอีก ผมเริ่มจากการไปศึกษาโครงสร้างการเขียนของแต่ละ Task ก่อนเลยครับว่าต้องมี Introduction, Body, Conclusion ยังไงบ้าง แล้วก็พยายามหาศัพท์แสง สำนวนที่ใช้บ่อยๆ ในการเขียนเชิงวิชาการมาท่องจำไว้ จากนั้นก็คือการฝึกเขียนสถานเดียวครับ เขียนแล้วก็ลองให้เพื่อนที่เก่งภาษาช่วยดู หรือถ้ามีครูสอนพิเศษก็จะดีมาก เขาจะช่วยชี้จุดที่เราต้องปรับปรุงได้ แรกๆ เขียนออกมาอ่านไม่รู้เรื่องเลยครับ วกไปวนมา แต่พอฝึกไปเรื่อยๆ มันจะเริ่มเข้าที่เข้าทางเอง สิ่งสำคัญคือต้องเขียนให้ตรงประเด็น ตอบคำถามให้ครบ และจัดระเบียบความคิดให้ดีครับ
- Speaking (การพูด):
อันนี้ก็เป็นอีกส่วนที่ผมเกร็งมาก เพราะไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษพูดในชีวิตประจำวันเท่าไหร่ วิธีฝึกของผมคือพยายามหาโอกาสพูดเยอะๆ ครับ อาจจะฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจกก่อน ให้ชินกับการพูดประโยคยาวๆ อัดเสียงตัวเองไว้ฟังแล้วดูว่าเราพูดติดขัดตรงไหน ออกเสียงเพี้ยนหรือเปล่า แล้วก็หาเพื่อนมาช่วยฝึกด้วย ผลัดกันเป็นคนถามคนตอบ จำลองสถานการณ์เหมือนสอบจริงเลยครับ ดูตัวอย่างคำถามจากในเน็ตเยอะๆ แล้วลองคิดคำตอบเตรียมไว้คร่าวๆ แต่ไม่ต้องถึงกับท่องจำเป๊ะๆ นะครับ เพราะมันจะดูไม่เป็นธรรมชาติ พยายามพูดให้ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ แสดงความคิดเห็นของเราออกมาให้ชัดเจน ถึงแกรมมาร์จะไม่เป๊ะร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าสื่อสารรู้เรื่อง examiners เขาก็เข้าใจครับ ความมั่นใจสำคัญมาก!
แหล่งข้อมูลและเคล็ดลับเพิ่มเติม
ผมใช้หนังสือเตรียมสอบ IELTS หลายเล่มเลยครับ พวก Cambridge IELTS นี่คือต้องมีติดบ้านเลย เพราะมันเป็นข้อสอบเก่าจริงๆ ช่วยให้เราคุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบได้ดีมาก แล้วก็มีพวกหนังสือที่สอนเทคนิคแต่ละพาร์ทโดยเฉพาะ นอกจากหนังสือแล้ว ผมก็ดูคลิปสอนใน YouTube เยอะมากครับ มีช่องดีๆ ที่สอนฟรีเยอะแยะเลย

อีกอย่างที่ผมว่าสำคัญมากๆ คือ การทำ Mock Test หรือข้อสอบเสมือนจริง ครับ พยายามจับเวลาเหมือนสอบจริงเลย จะได้รู้ว่าเราบริหารเวลาได้ดีแค่ไหน ยังอ่อนตรงไหน ต้องไปเพิ่มตรงไหนอีก ผมทำ Mock Test หลายชุดมากก่อนไปสอบจริง มันช่วยลดความตื่นเต้นในวันสอบจริงได้เยอะเลยครับ
วันสอบจริงและผลลัพธ์
พอถึงวันสอบจริง ผมพยายามทำใจให้สบายที่สุดครับ คืนก่อนสอบก็นอนให้เต็มที่ ไปถึงสนามสอบก่อนเวลา เตรียมเอกสารให้พร้อม ตอนทำข้อสอบก็มีสติ พยายามทำตามที่ซ้อมมา ผลสอบออกมาก็เป็นที่น่าพอใจมากครับ แม้จะไม่ถึงกับเต็มทุกพาร์ทเป๊ะๆ แต่คะแนนรวมก็ออกมาสูงพอที่จะยื่นเรียนต่อในที่ที่ผมหวังไว้ได้สบายๆ เลยครับ ภูมิใจในตัวเองสุดๆ ไปเลย!
สรุปแล้ว การจะทำคะแนน IELTS ให้ได้สูงๆ มันต้องอาศัยทั้งความเข้าใจในตัวข้อสอบ การวางแผนที่ดี วินัยในการฝึกฝน และความอดทนครับ ไม่มีทางลัดจริงๆ มันอาจจะเหนื่อยหน่อย ท้อบ้าง แต่ถ้าเราไม่ยอมแพ้ ผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มค่าแน่นอนครับ หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS อยู่นะครับ สู้ๆ ครับทุกคน! ผมทำได้ คุณก็ทำได้!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments