สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยกับเรื่องการไปสอบ IELTS ของผมนี่แหละครับ เผื่อใครกำลังจะไปสอบ จะได้เห็นภาพว่ามันเป็นยังไงบ้าง

เตรียมตัวก่อนไปสนามสอบ

เอาจริงๆ นะครับ ตอนแรกเลยคือตัดสินใจว่าจะสอบ IELTS เนี่ย ก็ต้องเริ่มจากลงทะเบียนสอบก่อนเลย ผมก็เข้าไปดูในเว็บไซต์ของศูนย์สอบต่างๆ ที่เปิดรับสมัคร เลือกวันเวลาที่คิดว่าตัวเองพร้อมที่สุด ส่วนใหญ่ผมจะเลือกสอบวันเสาร์เช้าๆ สมองมันจะปลอดโปร่งหน่อย พอลงทะเบียนเสร็จ จ่ายตังค์เรียบร้อย ก็จะได้รับอีเมลยืนยัน พร้อมรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับวันสอบ สถานที่สอบ

ช่วงก่อนสอบสักอาทิตย์นึง ผมก็จะเริ่มเตรียมเอกสารให้พร้อม หลักๆ เลยก็คือบัตรประชาชนตัวจริง หรือพาสปอร์ตตัวจริงที่ใช้ตอนสมัคร อันนี้สำคัญมากนะครับ ห้ามลืมเด็ดขาด ไม่งั้นเขาไม่ให้เข้าห้องสอบนะ แล้วก็เตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียนไปด้วย ดินสอ 2B ยางลบ ปากกา (เผื่อต้องใช้เซ็นเอกสาร) แต่ส่วนใหญ่ข้อสอบ Listening, Reading, Writing เขาจะให้ใช้ดินสอนะครับ

วันจริง ณ สนามสอบ

พอถึงวันสอบ ผมจะไปถึงสนามสอบก่อนเวลารายงานตัวประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เผื่อรถติด เผื่อหาที่จอดรถ หรือเผื่อหลงทางนิดหน่อย ไปถึงเร็วดีกว่าไปสายครับ ใจมันจะได้ไม่ตุ้มๆ ต่อมๆ

พอไปถึงปุ๊บ สิ่งแรกที่ทำคือมองหาป้ายประกาศ หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าต้องไปตรงไหนเพื่อลงทะเบียน เขาจะมีจุดให้เราฝากของที่ไม่จำเป็น เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าตังค์ นาฬิกาอัจฉริยะ คือเอาเข้าไปได้แค่บัตรประชาชนกับเครื่องเขียนที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้นครับ

จากนั้นก็ไปต่อแถวลงทะเบียนเข้าห้องสอบ เจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรประชาชนของเรา ตรวจสอบชื่อ-นามสกุล แล้วก็จะให้เราสแกนลายนิ้วมือ แล้วก็ถ่ายรูปติดหน้าห้องสอบหรือติดในเอกสารอะไรสักอย่างนี่แหละครับ ขั้นตอนนี้ก็ทำตามที่เจ้าหน้าที่บอกเลย

ในห้องสอบ

พอลงทะเบียนเสร็จ ก็จะได้รับอนุญาตให้เข้าห้องสอบ ข้างในห้องสอบเนี่ย เขาจะจัดที่นั่งตามเลขที่สอบของเราเลยครับ บนโต๊ะก็จะมีป้ายชื่อเราวางอยู่ พร้อมกับกระดาษคำตอบ หูฟัง (สำหรับพาร์ท Listening) พอเข้าไปนั่งแล้ว ก็จะมีเวลาให้เราเช็คอุปกรณ์ต่างๆ ว่าใช้ได้ไหม โดยเฉพาะหูฟัง ต้องลองฟังเสียงดูว่าชัดเจนดีหรือเปล่า ถ้ามีปัญหารีบยกมือแจ้งเจ้าหน้าที่เลยครับ

ก่อนเริ่มสอบ เจ้าหน้าที่คุมสอบจะอธิบายกฎระเบียบต่างๆ อีกครั้งนึง ตั้งใจฟังให้ดีนะครับ เช่น ห้ามพูดคุย ห้ามมองข้อสอบคนอื่น ห้ามเอาข้อสอบออกนอกห้อง อะไรประมาณนี้

• การสอบ Listening: พาร์ทนี้ต้องมีสมาธิมากๆ ครับ เสียงจะเล่นรอบเดียว พลาดแล้วพลาดเลย ต้องตั้งใจฟังแล้วก็รีบจดคำตอบลงในกระดาษคำถามก่อน แล้วค่อยเอาไปฝนในกระดาษคำตอบทีหลัง (ถ้าเขามีเวลาให้)
• การสอบ Reading: โอ้โห บทความยาวมากครับ ต้องบริหารเวลาดีๆ อ่านคำถามก่อนแล้วค่อยไปหาคำตอบในบทความจะช่วยได้เยอะเลย
• การสอบ Writing: อันนี้ต้องเขียนเยอะครับ Task 1 กับ Task 2 ต้องแบ่งเวลาให้ดีๆ พยายามเขียนให้ครบตามจำนวนคำที่เขากำหนด แล้วก็ตรวจทานแกรมม่า คำศัพท์ด้วย

ส่วนใหญ่แล้ว Listening, Reading, Writing จะสอบติดกันเลยครับ มีพักเบรกสั้นๆ ระหว่างพาร์ทบ้าง หรือบางทีก็ไม่มีเลย แล้วแต่ศูนย์สอบ

การสอบ Speaking

พาร์ท Speaking เนี่ย บางทีก็จะสอบในวันเดียวกันเลย หรือบางทีก็อาจจะเป็นคนละวัน หรือคนละช่วงเวลากับสามพาร์ทแรก ตอนที่ผมสอบ ผมได้สอบช่วงบ่ายของวันเดียวกัน พอสอบสามพาร์ทแรกเสร็จ ก็ออกมาพักกินข้าว แล้วก็รอเวลาสอบ Speaking

พอถึงคิวเรา เจ้าหน้าที่จะเรียกเข้าไปในห้องสอบเล็กๆ อีกห้องนึง ในนั้นก็จะมี Examiner นั่งรออยู่คนเดียวครับ บรรยากาศก็จะสบายๆ กว่าในห้องสอบรวมหน่อย Examiner ก็จะแนะนำตัว แล้วก็เริ่มถามคำถามเราเลย พยายามตอบให้เป็นธรรมชาติ พูดให้ชัดเจน ใช้ศัพท์ให้หลากหลาย แล้วก็อย่าเงียบนานครับ ถ้าไม่เข้าใจคำถามก็ขอให้เขาพูดอีกครั้งได้

พอสอบ Speaking เสร็จ ก็ถือว่าเสร็จสิ้นกระบวนการสอบ IELTS แล้วครับ ตอนนั้นคือโล่งอกสุดๆ เดินออกจากสนามสอบแบบตัวเบาหวิวเลยทีเดียว

สิ่งที่อยากฝากไว้

จากประสบการณ์ที่ไปสนามสอบ IELTS มานะครับ อยากจะฝากเพื่อนๆ ไว้ว่า:

• เตรียมตัวให้พร้อมที่สุด: ทั้งความรู้และร่างกาย คืนก่อนสอบนอนให้พอ
• ไปถึงสนามสอบก่อนเวลา: จะได้ไม่รีบร้อน ลดความตื่นเต้นไปได้เยอะ
• เตรียมเอกสารและอุปกรณ์ให้ครบ: บัตรประชาชน ดินสอ ยางลบ สำคัญมาก
• ทำตามกฎระเบียบของสนามสอบอย่างเคร่งครัด: จะได้ไม่มีปัญหาตามมา
• มีสมาธิในห้องสอบ: พยายามอย่าสนใจสิ่งรอบข้าง โฟกัสที่ข้อสอบของเรา
• อย่าลืมดื่มน้ำ ทานอะไรรองท้อง: การสอบใช้เวลานาน ร่างกายต้องพร้อม

หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังจะไปสอบ IELTS นะครับ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสอบครับผม!

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ