ไอ้เรื่องคะแนนสอบ IELTS เนี่ยนะ หลายคนก็คงหัวหมุนกับมันมาไม่น้อย ผมเองก็คนนึงล่ะที่เคยเป็นบ้าเป็นหลังกับมันอยู่พักใหญ่ วันนี้เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์ตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อมให้ฟังกัน
ช่วงบ้าพลัง เตรียมตัวสอบ
ตอนนั้นน่ะเหรอ ตั้งเป้าไว้ซะสูงลิ่วเลยว่าจะต้องไปเรียนต่อเมืองนอกเมืองนาให้ได้ แล้วไอ้เจ้า IELTS เนี่ยมันก็เป็นด่านแรกที่ต้องผ่านไง ใครๆ ก็บอกว่าต้องได้เท่านั้นเท่านี้ถึงจะดี ผมก็เลยทุ่มสุดตัวเลยครับพี่น้อง เรียกว่าหมดเงินไปกับค่าคอร์สติว ค่าหนังสือ ค่าสอบนี่ไม่ใช่น้อยๆ เวลาชีวิตนี่ไม่ต้องพูดถึง เพื่อนฝูงชวนไปไหนก็ไม่ไป นั่งจมอยู่กับกองหนังสือ ฝึกฟัง ฝึกพูด ฝึกเขียน วนไปอยู่อย่างนั้น

จำได้เลยว่าช่วงนั้นทรมานสุดๆ โดยเฉพาะพาร์ทเขียนกับพูดนี่แหละ โอ้โห ฝึกยังไงก็รู้สึกว่ามันยังไม่ดีพอซะที บางทีท้อจนอยากจะโยนหนังสือทิ้งไปเลยด้วยซ้ำ ลองมาหมดแล้วสารพัดวิธีที่เค้าว่าดี
- นั่งฟังข่าวภาษาอังกฤษทั้งวันทั้งคืน
- พยายามคุยกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษหน้ากระจก (คนอื่นมองมาคงนึกว่าบ้า)
- หัดเขียนเรียงความเป็นตั้งๆ แล้วก็แก้แล้วแก้อีก
สุดท้ายแล้วก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้ที่ทำไปมันเวิร์คจริงแค่ไหน รู้แต่ว่าเหนื่อยโคตรๆ
วันพิพากษา กับผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
พอถึงวันสอบจริงนะ ตื่นเต้นจนมือไม้เย็นไปหมด ตอนสอบพูดนี่จำได้เลยว่าเจอผู้คุมสอบหน้าตานิ่งๆ ไม่ยิ้มไม่แย้ม เราก็พยายามพูดไปเรื่อยเปื่อยตามที่ซ้อมมา แต่ในใจนี่คิดไปต่างๆ นานาว่าเค้าจะให้คะแนนเรายังไงวะเนี่ย พอสอบเสร็จออกมานี่โล่งแบบบอกไม่ถูก แต่ก็แอบมีพะวงๆ อยู่ในใจ
แล้วก็ถึงวันที่ผลสอบออก… ผมนี่แทบจะไม่อยากกดเข้าไปดูเลย กลัวผิดหวัง แต่สุดท้ายก็ต้องทำใจกล้ากดเข้าไปดู ปรากฏว่าคะแนนมันก็ออกมาแบบ…กลางๆ ไม่ได้ดีเลิศอย่างที่ตั้งเป้าไว้ ไม่ได้แย่จนรับไม่ได้ แต่มันก็ไม่พอสำหรับมหาวิทยาลัยในฝันที่เล็งไว้อ่ะดิ ตอนนั้นนี่เฟลสุดๆ รู้สึกเหมือนที่พยายามมาทั้งหมดมันสูญเปล่าไปเลย
บทเรียนจากคะแนนสอบ และทางที่ไม่ได้เลือก
หลังจากจ๋อยไปพักใหญ่ ผมก็เริ่มมองหาทางอื่น คือตอนนั้นคิดว่าถ้าคะแนนแค่นี้คงหมดหวังแล้วล่ะเรื่องเรียนต่อ แต่ก็นั่นแหละครับ ชีวิตคนเรามันก็แปลกดีนะ พอเราคิดว่ามันตันแล้ว มันก็มักจะมีทางอื่นโผล่มาเสมอ มีคนรู้จักแนะนำให้ลองดูโปรแกรมของอีกประเทศนึง ซึ่งเงื่อนไขเรื่องคะแนน IELTS มันไม่ได้โหดเท่าที่แรก แถมยังเป็นสาขาที่ผมสนใจอยู่ลึกๆ ด้วยซ้ำ
ตอนแรกก็ลังเลนะ คิดว่าเอ๊ะ จะดีเหรอ มันไม่ใช่ที่ที่เราตั้งใจไว้นี่หว่า เหมือนกับว่าเรายอมแพ้กับเป้าหมายเดิมรึเปล่า แต่พอมานั่งคิดดูดีๆ แล้ว ไอ้คะแนนสอบมันก็เป็นแค่ตัวเลขตัวนึง มันไม่ได้วัดคุณค่าทั้งหมดในตัวเราซะหน่อย สุดท้ายผมก็ตัดสินใจลองยื่นไปดู ปรากฏว่าได้ว่ะ!
ตอนนี้ผมเรียนจบจากที่นั่นมาหลายปีแล้ว มองย้อนกลับไปก็รู้สึกขอบคุณไอ้คะแนน IELTS ที่มันไม่ได้สูงอย่างที่หวังไว้วันนั้นนะ เพราะถ้าวันนั้นคะแนนผมถึงที่แรก ผมก็อาจจะไม่ได้มาเจอประสบการณ์ดีๆ ที่นี่ ไม่ได้เจอเพื่อนดีๆ หรือค้นพบตัวเองในอีกมุมหนึ่งก็ได้
สรุปง่ายๆ เลยนะ ไอ้เรื่องคะแนน IELTS เนี่ย มันก็สำคัญแหละสำหรับการไปเรียนต่อหรือทำงาน แต่ก็อย่าไปยึดติดกับมันมากจนเกินไป บางทีทางที่เราไม่ได้ตั้งใจเลือก มันอาจจะเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับเราก็ได้ ใครจะไปรู้ จริงไหมล่ะ?
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments