สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวของผมล้วนๆ เลยนะ กับเรื่องที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ แต่ก็ยังงงๆ อยู่ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ นั่นก็คือเรื่องของ “ข้อสอบ IELTS” ครับ
ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกๆ ที่ผมได้ยินคำว่า IELTS เนี่ย ผมก็เกาหัวแกรกๆ เลยนะ ได้ยินเพื่อนบ้าง คนรู้จักบ้างพูดถึงกันจัง ว่าจะต้องไปสอบ IELTS เพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศบ้างล่ะ หรือบางคนก็จะเอาไปใช้ยื่นสมัครงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษบ้างล่ะ ตอนนั้นในหัวผมก็มีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด “เอ๊ะ มันคือข้อสอบอะไรหว่า?” “มันวัดอะไรบ้าง?” “แล้วมันยากง่ายแค่ไหน?”

ด้วยความสงสัยใคร่รู้ และก็มีความจำเป็นต้องใช้มันด้วยนิดหน่อย ผมก็เลยเริ่มภารกิจสืบเสาะหาข้อมูลครับ ตอนนั้นไม่ได้ไปลงคอร์สติวที่ไหนหรอกนะ อาศัยถามจากเพื่อนที่เคยสอบบ้าง หรือไม่ก็เปิดอินเทอร์เน็ตหาอ่านเอาเองนี่แหละครับ ค่อยๆ ปะติดปะต่อข้อมูลไปทีละนิดทีละหน่อย จากที่ไม่รู้อะไรเลย ก็เริ่มจะมองเห็นภาพลางๆ ขึ้นมาบ้าง
แล้วมันคืออะไรกันแน่ ไอ้เจ้า IELTS เนี่ย?
พอผมเริ่มทำความเข้าใจกับมันมากขึ้น ก็ถึงบางอ้อครับ! IELTS เนี่ย มันเป็นชื่อย่อของข้อสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษสำหรับคนที่จะไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปเรียน ไปทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานก็ตาม คือมันเป็นมาตรฐานสากลที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกเขายอมรับกัน
ทีนี้พอรู้แล้วว่ามันคืออะไร คำถามต่อมาก็คือ “แล้วมันสอบอะไรบ้างล่ะ?” จากที่ผมไปค้นคว้าและลองเตรียมตัวดูนะ มันจะแบ่งการทดสอบออกเป็น 4 ทักษะหลักๆ เลยครับ คือ:
- การฟัง (Listening): พาร์ทนี้เขาจะเปิดไฟล์เสียงให้เราฟังครับ มีทั้งบทสนทนาสั้นๆ คนเดียวพูดบ้าง สองคนคุยกันบ้าง ไปจนถึงบทบรรยายยาวๆ หรือเลคเชอร์ในห้องเรียนเลยก็มี แล้วเราก็ต้องตอบคำถามจากสิ่งที่ได้ยิน ตอนแรกๆ นี่ผมฟังแทบไม่ทันเลยครับ ต้องอาศัยการฝึกฝนบ่อยๆ จริงๆ ถึงจะเริ่มจับใจความได้ทัน
- การอ่าน (Reading): โอ้โห ส่วนนี้สำหรับผมถือว่าหินพอสมควรเลยครับ เขาจะมีบทความยาวๆ มาให้อ่าน 2-3 บทความ ซึ่งเนื้อหาก็หลากหลายมาก ทั้งเรื่องวิชาการ เรื่องทั่วไป แล้วศัพท์บางคำนี่ก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เราต้องอ่านแล้วก็ตอบคำถาม ซึ่งคำถามก็มีหลายแบบอีก ทั้งหาข้อมูลเฉพาะ จับใจความสำคัญ สรุปความ หรือดูความคิดเห็นของผู้เขียน ตอนเตรียมตัวนี่ผมอ่านบทความจนตาแทบถลนเลยครับ
- การเขียน (Writing): อันนี้เป็นอีกพาร์ทที่หลายคน (รวมทั้งผมด้วย ฮ่าๆ) ค่อนข้างจะกังวล มันจะมีสองส่วนครับ ส่วนแรกเขาอาจจะมีกราฟ ตาราง แผนภูมิ หรือแผนภาพอะไรสักอย่างมาให้ แล้วให้เราเขียนอธิบายข้อมูลที่เห็น อีกส่วนหนึ่งคือให้เราเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็นต่อหัวข้อที่เขากำหนดให้ ตอนนั้นผมต้องฝึกเขียนเยอะมากครับ พยายามเรียบเรียงความคิดให้เป็นระบบ ให้มันอ่านแล้วเข้าใจง่าย
- การพูด (Speaking): ส่วนสุดท้ายนี่คือการสอบพูดตัวต่อตัวกับผู้คุมสอบเลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นชาวต่างชาติ เขาจะเริ่มจากการถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับตัวเรา เรื่องงานอดิเรก ครอบครัว อะไรทำนองนี้ก่อน จากนั้นเขาจะมีบัตรคำถามให้เรา ซึ่งเป็นหัวข้อให้เราพูดคนเดียวประมาณ 1-2 นาที แล้วหลังจากนั้นเขาก็จะถามคำถามเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่เราพูดไป ตอนแรกๆ ผมก็ประหม่ามากครับ พูดตะกุกตะกักเลย แต่พอได้ลองซ้อมบ่อยๆ เข้า ก็เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น พูดได้คล่องขึ้น
อ้อ! แล้วที่สำคัญอีกอย่างคือ ข้อสอบ IELTS เนี่ยมันจะมีสองแบบหลักๆ ด้วยนะ คือ Academic สำหรับคนที่ต้องการไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย กับอีกแบบคือ General Training อันนี้สำหรับคนที่ต้องการไปทำงาน ฝึกงาน หรือย้ายถิ่นฐาน ตอนนั้นผมก็ต้องเช็คให้ดีเลยว่าตัวเองต้องใช้ผลสอบแบบไหน จะได้เตรียมตัวได้ถูกทาง
สรุปแบบบ้านๆ เข้าใจง่ายๆ เลยนะครับ จากประสบการณ์ที่ผมได้คลุกคลีกับมันมา ข้อสอบ IELTS ก็คือเครื่องมือที่ใช้วัดว่าทักษะภาษาอังกฤษของเรา ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน เนี่ย มันดีพอที่จะเอาตัวรอด หรือไปเรียน ไปทำงานในสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษได้หรือยัง เท่านั้นเองครับ มันไม่ได้ยากเกินความสามารถของคนเราหรอกครับ แต่ที่สำคัญที่สุดคือต้องมีการเตรียมตัวที่ดี มีวินัยในการฝึกฝน และเข้าใจว่าแต่ละส่วนเขาต้องการวัดอะไรจากเรา
ก็หวังว่าเรื่องราวที่ผมเอามาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ จะพอทำให้หลายๆ คนที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับข้อสอบ IELTS ได้เห็นภาพรวม และเข้าใจมันมากขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ ทั้งหมดนี้ก็มาจากประสบการณ์ตรงของผมเองล้วนๆ เลยครับผม!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments