สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยกับเรื่องการทำข้อสอบ Reading IELTS ของผมเอง บอกเลยว่าตอนแรกนี่มืดแปดด้านมากครับ ไม่รู้จะเริ่มยังไง จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย
ช่วงเริ่มต้น: งมหาทางในความมืด
จำได้เลยว่าครั้งแรกที่ลองทำข้อสอบเก่าดู โอ้โห… อ่านยังไงก็ไม่ทัน คำศัพท์ก็ยาก เนื้อหาก็เยอะไปหมด พยายามจะอ่านทุกตัวอักษร ทุกประโยค สุดท้ายเวลาหมด ทำได้ไม่ถึงครึ่ง ท้อเลยครับตอนนั้น คิดในใจว่านี่เราจะรอดไหมเนี่ย
ผมก็เหมือนหลายๆ คนครับ เริ่มจาก การอ่านแบบตรงตัว อ่านไปเรื่อยๆ พยายามทำความเข้าใจทุกย่อหน้า ซึ่งมันเสียเวลามากกกก! แล้วก็พบว่าวิธีนี้มันไม่เวิร์คเลยสำหรับ IELTS ที่เวลาจำกัดสุดๆ
เริ่มค้นคว้าหาเทคนิค: แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
พอรู้ว่าวิธีเดิมมันไม่ได้ผล ผมก็เริ่มเลยครับ ค้นคว้า ดูคลิป อ่านบทความต่างๆ ที่เขาแชร์กันเรื่องเทคนิคการทำ Reading IELTS ก็ไปเจอหลายอย่างที่น่าสนใจ เลยลองเอามาปรับใช้กับตัวเองทีละอย่าง
อย่างแรกเลยที่ผมเริ่มฝึกคือ Skimming กับ Scanning ครับ ตอนแรกก็ยังจับหลักไม่ค่อยถูกนะ
- Skimming คืออ่านแบบเร็วๆ เอาใจความรวมๆ ว่าบทความนี้มันเกี่ยวกับอะไร หัวข้อหลักๆ มีอะไรบ้าง ไม่อ่านทุกคำ เน้นกวาดสายตาผ่านๆ หา main idea
- Scanning นี่คือการกวาดสายตาหาข้อมูลเฉพาะ เช่น ชื่อคน วันที่ ตัวเลข คำสำคัญที่เราเจอจากคำถาม พวกนี้จะช่วยให้เราหาคำตอบได้เร็วขึ้นเยอะ
พอเริ่มคล่องกับสองอย่างแรก ผมก็เริ่มมาให้ความสำคัญกับ Keywords ในคำถาม คือพออ่านคำถามปุ๊บ ต้องรีบวงคำสำคัญไว้เลย แล้วค่อยเอาคำพวกนั้นไปไล่หาในบทความ มันช่วยให้เราโฟกัสได้ดีขึ้นเยอะ ไม่ต้องเสียเวลาอ่านทั้งหมดที่ไม่จำเป็น
ทำความเข้าใจประเภทคำถาม: กุญแจสำคัญอีกดอก
แล้วอีกอย่างที่สำคัญมากๆ คือการ ทำความเข้าใจประเภทของคำถาม ครับ IELTS Reading เนี่ยมันมีคำถามหลายแบบมาก ทั้ง True/False/Not Given, Multiple Choice, Matching Headings, Sentence Completion บลาๆๆ แต่ละอย่างมันมีวิธีหาคำตอบไม่เหมือนกันเลยนะ
ผมก็ต้องไปนั่งศึกษาเลยว่าคำถามแบบนี้ควรจะเริ่มหายังไง ใช้เทคนิคไหน เช่น
- ถ้าเป็น Matching Headings ผมจะอ่านย่อหน้านั้นๆ ก่อน แล้วค่อยมาดูว่าหัวข้อไหนมันสรุปใจความได้ดีที่สุด
- ถ้าเป็น True/False/Not Given อันนี้ต้องระวังให้ดีเลยครับ ต้องหาข้อมูลมายืนยันให้ได้ ถ้าไม่มีข้อมูลก็คือ Not Given อย่าเดาเอาเอง
ผมเริ่ม จดบันทึก ครับ ว่าคำถามแบบไหน ผมมักจะพลาดตรงไหน แล้วก็พยายามแก้ไขจุดอ่อนของตัวเอง
การฝึกฝนและการจัดการเวลา: สิ่งที่ขาดไม่ได้
เรื่อง การบริหารเวลา นี่ก็ขาดไม่ได้เลย ผมจะแบ่งเวลาเลยว่าแต่ละ passage ควรใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที (รวมตรวจทาน) ตอนซ้อมก็จับเวลาจริงจังมาก ถ้าเกินก็ต้องมาดูว่าเสียเวลาตรงไหนไป
แล้วก็ การฝึกทำข้อสอบเก่าเยอะๆ อันนี้คือหัวใจเลยครับ ยิ่งทำเยอะ ยิ่งชิน ยิ่งเห็นรูปแบบคำถาม เห็นจุดที่เขาชอบหลอก คำศัพท์ต่างๆ ก็จะวนเวียนอยู่ในนั้นแหละครับ แรกๆ อาจจะยังทำไม่ทัน ไม่เป็นไรครับ ค่อยๆ ฝึกไป
ผม ปริ้นท์ข้อสอบเก่า มาทำแบบจับเวลาจริงจังเลยครับ ทำเสร็จก็ตรวจ แล้วก็วิเคราะห์ข้อที่ผิด ว่าผิดเพราะอะไร อ่านไม่เข้าใจ? หาคีย์เวิร์ดไม่เจอ? หรือโดนหลอก? การทำแบบนี้ซ้ำๆ ช่วยให้ผมพัฒนาขึ้นเยอะมาก
ผลลัพธ์ที่ได้: จากท้อแท้สู่ความมั่นใจ
ช่วงแรกๆ ที่ฝึกนี่ก็ยังตะกุกตะกักอยู่ครับ อ่านผิดบ้าง หาไม่เจอบ้าง แต่ผมก็ ไม่ท้อ นะ พยายามทำไปเรื่อยๆ จดศัพท์ที่ไม่รู้ หาความหมาย แล้วก็ลองเอาเทคนิคต่างๆ มาปรับใช้กับตัวเอง จนกระทั่งมันเริ่มเข้าที่เข้าทางครับ
จากที่เคยอ่านไม่ทัน ทำข้อสอบแบบเดาสุ่ม ก็เริ่มมั่นใจขึ้น ทำได้เยอะขึ้น คะแนนก็ขยับขึ้นจริงๆ ครับ มันไม่ใช่เรื่องของโชคช่วยเลย มันคือการฝึกฝนล้วนๆ
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า เทคนิคพวกนี้มันเป็นแค่เครื่องมือช่วยครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความสม่ำเสมอในการฝึกฝน และ ความเข้าใจในสิ่งที่อ่าน ไม่ใช่แค่หาคำตอบเจออย่างเดียว สู้ๆ ครับทุกคน ผมทำได้ ทุกคนก็ทำได้!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments