สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ฝึก IELTS ด้วยตัวเองล้วนๆ แบบลูกทุ่งๆ เลยนะ คือตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาสอบอะไรแบบนี้หรอก แต่พอมีความจำเป็นต้องใช้คะแนนเท่านั้นแหละ เรื่องก็เกิดเลยครับ
เริ่มยังไงดีล่ะทีนี้
ตอนตัดสินใจว่าจะสอบ IELTS นะครับ ความรู้สึกแรกเลยคือ มึนตึ้บ! ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี ข้อมูลในเน็ตก็เยอะแยะไปหมด อ่านรีวิวคนนั้นคนนี้ก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ บางคนบอกง่าย บางคนบอกยากชิบเป๋ง ก็เลยเอางี้วะ ลองลุยเองดูซักตั้ง! ผมเริ่มจากไปเดินดูหนังสือตามร้านก่อนเลยครับ โอ้โห…แต่ละเล่มหนาเตอะ ราคาไม่ต้องพูดถึง เห็นแล้วท้อตั้งแต่ยังไม่เริ่มอ่าน เลยเปลี่ยนแผนไปหาพวกหนังสือมือสองตามกลุ่มบ้าง หรือไม่ก็ยืมเพื่อนที่เคยสอบมาแล้วมาลองดูก่อน อันไหนพออ่านรู้เรื่องก็ค่อยว่ากัน
ช่วงแรกๆ นี่คือสะเปะสะปะมากครับ จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยจริงๆ เปิดหนังสือเล่มนั้นที เล่มนี้ที เหมือนคนหลงทางในป่าหนังสือ IELTS ยังไงยังงั้นเลย
แต่ละพาร์ททำไงบ้าง
พอตั้งสติได้หน่อย ก็เริ่มมานั่งลิสต์ดูว่า IELTS มันมีสอบอะไรบ้างนะ อ๋อ มี Listening, Reading, Writing, Speaking สินะ โอเค๊! มาลุยทีละอย่าง
Listening เนี่ย ตอนแรกฟังไม่ทันเลยครับ เขาพูดอะไรกันวะ เร็วเกิ๊น! จับใจความไม่ได้ สำเนียงก็หลากหลายอีก ผมแก้ปัญหาด้วยการเปิดฟังมันทุกวันเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นพวก podcast ภาษาอังกฤษ ข่าว BBC, CNN หรือแม้กระทั่งเพลงฝรั่ง พยายามฟังโดยไม่อ่านเนื้อตาม แรกๆ ก็ทรมานหูตัวเองสุดๆ แต่พอนานๆ ไปมันเริ่มชิน เริ่มจับคีย์เวิร์ดได้ เริ่มเดาเรื่องได้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไรอยู่ แล้วก็หาข้อสอบเก่าๆ มาลองทำเยอะๆ ครับ เปิดสคริปต์ดูหลังทำเสร็จว่าเราพลาดตรงไหนไปบ้าง
ต่อมา Reading อันนี้ก็ตัวปวดหัวเลยครับ คำศัพท์เยอะมากกกกก อ่านยังไงก็ไม่ทันเวลา ผมใช้วิธีพยายามอ่านให้เร็วขึ้น ฝึก skim กับ scan หาคำตอบเฉพาะจุดที่โจทย์ถาม ไม่ได้อ่านทุกตัวอักษรเหมือนอ่านนิยาย แล้วก็พยายามเดาศัพท์จากบริบทเอาครับ ถ้าไม่รู้จริงๆ ก็ปล่อยผ่านไปก่อน อย่าไปเสียเวลากับมันมาก ส่วนเรื่องคำศัพท์ก็พยายามท่องศัพท์ที่เจอบ่อยๆ ในข้อสอบเก่าๆ จดไว้แล้วก็ท่องวนไปครับ
มาถึง Writing นี่สิครับ ของแข็งเลย! เขียนไม่ออกเลยจริงๆ ไม่รู้จะเรียบเรียงประโยคยังไงให้มันดูดีมีชาติตระกูล คือแกรมมาร์ก็ไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น ผมเริ่มจากไปหาอ่านตัวอย่าง essay ที่ได้คะแนนดีๆ เยอะๆ เลยครับ ดูว่าเขามีโครงสร้างการเขียนยังไง ใช้คำเชื่อมแบบไหน แล้วก็ลองหัดเขียนตามดู แรกๆ ก็ก๊อปปี้โครงสร้างเขามาเลย แล้วค่อยๆ ปรับเป็นสำนวนของตัวเอง ฝึกเขียนทุกวันครับ วันละ task ก็ยังดี เขียนเสร็จก็ลองเอาไปให้เพื่อนที่เก่งภาษาอังกฤษช่วยดูให้ หรือถ้าไม่มีใครจริงๆ ก็ลองใช้พวกโปรแกรมช่วยเช็คแกรมมาร์เบื้องต้นดูก็ได้ครับ ถึงจะไม่เป๊ะเท่าคนตรวจ แต่ก็พอช่วยได้บ้าง
สุดท้าย Speaking อันนี้เป็นอะไรที่ผมโคตรจะอายเลยครับ ไม่กล้าพูด กลัวพูดผิด กลัวเขาฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ต้องฮึดสู้ครับ! ผมเริ่มจากพูดกับตัวเองหน้ากระจกนี่แหละครับ ถามคำถาม IELTS ที่เขาชอบถามกัน แล้วก็ลองตอบดู อัดเสียงตัวเองไว้ฟังด้วยนะครับ จะได้รู้ว่าเราพูดติดขัดตรงไหน ออกเสียงเพี้ยนรึเปล่า พอเริ่มมั่นใจขึ้นมาหน่อยก็ลองหาเพื่อนคุยด้วยเป็นภาษาอังกฤษดูครับ หรือถ้ามีโอกาสได้คุยกับฝรั่งจริงๆ ก็ลุยเลยครับ ไม่ต้องกลัวผิด ผิดก็ช่างมัน อย่างน้อยก็ได้ฝึก
ช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนและวินัย
ผมพยายามจัดตารางอ่านหนังสือให้ตัวเองครับ ถึงจะไม่เป๊ะทุกวัน แต่ก็พยายามทำให้ได้มากที่สุด มีวันพักบ้างจะได้ไม่ตึงเครียดจนเกินไป สิ่งสำคัญเลยคือ ความสม่ำเสมอ ครับ ทำทุกวัน วันละนิดวันละหน่อย ดีกว่าอัดทีเดียวแล้วจำอะไรไม่ได้เลย ช่วงใกล้สอบนี่คือเน้นทำข้อสอบเก่าจับเวลาจริงเลยครับ จะได้รู้ว่าเราบริหารเวลาได้ดีแค่ไหน แล้วก็เอาข้อผิดพลาดมาปรับปรุง

ยอมรับเลยครับว่ามีช่วงที่ท้อมากๆ แบบ…ไม่อยากทำแล้วโว้ยยยย! มันเหนื่อย มันยาก แต่พอคิดถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็ต้องกัดฟันสู้ต่อครับ หาอะไรทำคลายเครียดบ้าง ดูหนัง ฟังเพลง ออกไปเดินเล่น แล้วก็กลับมาลุยต่อ
สุดท้ายก็ได้เรื่อง (รึเปล่า?)
พอถึงวันสอบจริง ตื่นเต้นมากครับ ทำเต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนรอผลสอบนี่คือลุ้นยิ่งกว่าหวยอีกครับ! พอผลออกมา…ก็ถือว่าโอเคเลยครับสำหรับคนฝึกเองแบบบ้านๆ อย่างผม อาจจะไม่ได้คะแนนสูงลิ่วเหมือนเทพๆ เขา แต่ก็พอใจในระดับหนึ่งเลย รู้สึกว่าความพยายามที่ผ่านมามันไม่เสียเปล่า หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ
ใครที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS ด้วยตัวเองอยู่ ผมอยากจะบอกว่า อย่ายอมแพ้ นะครับ มันอาจจะยาก อาจจะท้อบ้าง แต่ถ้าเราตั้งใจจริงและมีวินัยกับตัวเอง ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้แน่นอน สู้ๆ ครับ!
ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
0 Comments